สระแก้ว – ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และบิ๊กโจ๊ก รอง ผบ.ตร.ลงพื้นที่ จ.สระแก้ว เพื่อติดตามคดีกรณีวัยรุ่น 5 โจ๋แก๊งลูกตำรวจ ก่อเหตุฆ่าโหด ป้าบัวผัน ตันสุ หญิงสติไม่ดีทิ้งสระน้ำข้างโรงเรียน และกรณีจับแพะ ถุงดำคลุมหัวล่ามโซ่ลุงเปี๊ยกบังคับให้รับสารภาพ โดยจะแถลงหลังสอบสวนครบตามกำหนด 3 วันและแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้ (20 ม.ค.) ระบุว่า ถ้าผิด จะดำเนินคดีไม่มีละเว้น
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 19 ม.ค.67 ผู้สื่อข่าวรรายงานว่า ที่สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ต.ท่าเกษม อ.เมือง จ.สระแก้ว พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่ จ.สระแก้ว พร้อมกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เร่งด่วน เพื่อติดตามคดีสำคัญกรณีกลุ่มวัยรุ่น 5 โจ๋แก๊งลูกตำรวจ ก่อเหตุฆ่าโหด ป้าบัวผัน ตันสุ อายุ 47 ปี หญิงสติไม่ดี แล้วนำศพไปทิ้งสระน้ำข้างโรงเรียนศรีอรัญโญทัย เขตเทศบาลเมืองอรัญประเทศ เหตุเกิดเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมาและพบศพในช่วงสายของวันที่ 12 ม.ค.67 ซึ่งมีการจับแพะในคดี คือ นายปัญญา คงแสนคำ หรือ ลุงเปี๊ยก อายุ 56 ปี สามีของคนตาย ที่ติดสุราเรื้อรังและมีเหตุการณ์ทุบตีทำร้ายกันเป็นประจำ จนมีการนำตัวไปทำแผนชี้จุด กระทั่ง ตำรวจมาพบคลิปของกลุ่มคนร้ายตัวจริงในเวลาต่อมา เป็นกลุ่มวัยรุ่นเยาวชน 5 โจ๋แก๊งลูกตำรวจ หรือสมาชิก”แก๊งนอนน้อยตังค์ไม่ออก”เป็นผู้ก่อเหตุ กระทั่ง ลุงเปี๊ยกถูกปล่อยตัวออกมา และล่าสุด มีการปล่อยคลิปเสียงเผยแพร่ทางสื่อโซเชียลฯ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ที่ลุงเปี๊ยกจะรับสารภาพ มีตำรวจใช้ถุงดำคลุมหัว ล่ามโซ่ และบังคับให้ลุงเปี๊ยกรับสารภาพ จนนำมาสู่การสั่งย้ายตำรวจระดับ ผกก.สภ.อรัญประเทศ โดยตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว และตำรวจภูธรภาค 2 ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนกรณีดังกล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เดินทางมาถึง ภ.จว.สระแก้ว ได้เข้าไปตรวจสอบข้อมูลและประเด็นการสอบสวนกรณีนี้จาก พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดคณะกรรมการสอบสวน ที่ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว แต่งตั้งให้สอบสวนกรณีดังกล่าว ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. หลังเดินทางมาถึง ก็ได้ขึ้นไปรับฟังข้อมูลสรุปที่ห้องรับรอง สำนักงานผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว โดยมี พล.ต.ต.ออมสิณ บูญญานุสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว พร้อมด้วย นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน-สอบสวน เข้าให้ข้อมูลเบื้องต้นกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หลังจากนั้น ได้เข้าร่วมประชุมกรณีดังกล่าวในช่วงเวลาประมาณ 14.30 น. โดยมีนายภูมิวัชร์ อุดมทรัพย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เจ้าหน้าที่ยุติธรรมจังหวัด เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมด้วย
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์และตอบข้อซักถามจากสื่อมวลชน ภายหลังประชุมสรุปเสร็จ โดยระบุว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ลงพื้นที่เพื่อสรุปคดีนี้ให้จบ อันไหนที่มันไม่ถูกต้อง ต้องทำให้โปร่งใสที่สุด เพราะเราไม่ได้ทำแค่หน่วยงานเดียว โดยได้เชิญฝ่ายปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมทำงานกันเป็นทีม โดยคดีนี้ ทางตำรวจภูธรภาค 2 ได้ตั้่งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และจะรายงานผลสรุปพรุ่งนี้ (20 ม.ค.)และแถลงข่าว ซึ่งได้คุยกันมาหมดแล้วว่า ถ้าผิด เราดำเนินคดีไม่มีละเว้น ขอยื่นยัน เพราะตนได้ลงมาแล้ว ตรงไปตรงมา ใครผิดว่ากันไปตามผิด ใครถูกว่ากันไปตามถูก ใครที่ไม่เกี่ยวข้องก็คือไม่เกี่ยวข้อง ทุกอย่างมันตรวจสอบได้ด้วยหลักนิติวิทยาศาสตร์ และทางเทคนิค ไทม์ไลน์ทุกอย่างมันจะออกมาหมดเลย ไม่ต้องถามว่าไทม์ไลน์เป็นอย่างไร ขอให้มันอยู่ในกระบวนการสืบสวนสอบสวน และในสำนวนของคดี ส่วนเรื่องที่ประชาชนหรือพี่น้องสื่อมวชชนสนใจก็คือเรื่องคดีของแก๊งพวกนี้ ที่เกิดขึ้นมาอีก 6-7 คดี เราไล่ติดตามให้ผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความย้อนหลังด้วย ไม่ใช่เฉพาะสระแก้ว ฝากบอก ผกก.ทุกโรงพัก ผู้การทุกจังหวัด ท่านต้องไปสกรีนในพื้นที่ถ้ามีลักษณะนี้ ฝ่ายปราบปรามเข้าไปตรวจล้อมตรวจค้น ซึ่งได้สั่งการไปแล้วทั่วประเทศ
“กลุ่มแก๊งพวกนี้ เราไม่เคยมองข้าม ทฤษฏีภูเขาล้มหรือก้อนหินล้ม ถ้าเรามองข้าม เห็นว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ อาชญากรรมพวกนี้จะพัฒนาไปสู่อาชญากรรมใหญ่ ๆ สมัยก่อนที่เราเป็นนักเรียนก็มีการตีกันเช่นกัน เมื่อไหร่เราเอางานสืบสวนก้าวหน้ายุค 5 จี เข้ามาใช้ เราเอาทั้งกระบวนการทั้งแก๊ง เส้นทางโยงใย เส้นทางการเงิน ถ้าเราทำยกมาตรฐานการสืบสวนสอบสวน คนที่มีพฤติกรรมก็ต้องไปเตือน ใครที่ทำผิด พรบ.ตำรวจ เลิกได้แล้วนะครับ ปี 65 มีการดำเนินการกับตำรวจมาแล้วจำนวนมาก ซึ่งอีกอย่างคือ พรบ.อุ้มหาย ฉะนั้นทุกอย่างต้องทำภายใต้กฎหมายเท่านั้น สามารถตรวจสอบได้หมด ซึ่งต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนซึ่งข้อมูลอีกมุมหนึ่งที่ตำรวจไม่มี ก็ไปนำมาใช้เพื่อให้สำนวนคดีสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ทุกอย่างคือข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อคดีทั้งนั้น เรากำลังช่วยป้ากบ ช่วยลุงเปี๊ยก กรมการปกครองก็มีการเยียวยา ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวและว่า ที่ผ่านมาเราไม่เคยละเว้นตำรวจที่ทำผิด ย้อนหลัง 3 ปี ปี 64 จำนวน 103 คน ,ปี 65 จำนวน 133 คน ,ปี 66 จำนวน 117 คน รวมย้อนหลัง 3 ปี 353 คน และล่าสุด ปีนี้ 67 มีจำนวน 57 คน ซึ่งอะไรเป็นเนื้อร้ายเราก็ต้องตัดออก พรุ่งนี้ผลออกมาถ้าผิดเราดำเนินคดีเลยไม่เอาไว้
ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า หลังจากทาง ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ ผบช.ภาค 2 สอบสวนขยายผลและแจ้งข้อหากับผู้ที่กระทำความผิด โดยกำชับให้ทำอย่างตรงไปตรงมา เน้นความโปร่งใส่ เพราะฉะนั้น การสอบสวนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการสอบสวนโดยมิชอบ เดี๋ยวหลังจากนี้ไป ผบช.ภาค 2 จะลงไปดูและสรุปกันแล้วว่า ผบช.ภาค 2 จะดำเนินการให้เสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้แล้วก็จะแถลงข่าว เพื่อปิดคดีว่า มีการดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง ตามนโยบายของ ผบ.ตร.
ส่วนนายภูมิวัชร์ อุดมทรัพย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว สั่งการให้เข้าตรวจสอบ ซึ่งได้ลงมาประชุมร่วมกับทีมงานตั้งแต่การปล่อยตัวลุงเปี๊ยก ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบหมายให้ทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดไปดูแลทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นกรณีของลุงเปี๊ยก ,เหยื่อป้ากบ หรือใครก็ตามที่ได้รับผลกระทบจากแก๊งนี้หรือไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถมาร้องเรียนได้ที่ศูนย์ดำรงธรรม ขณะนี้สถานพินิจฯ เอง ก็ได้คุมตัวตามกฎหมาย โดยมีพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เข้าไปดูแลครอบครัวของผู้ต้องหารและเหยื่อ ส่วนฝ่ายปกครองเอง ผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบหมายให้นายอำเภอและตำรวจในพื้นที่อรัญประเทศ ติดตามคดีที่มีการร้องเรียนด้วยเพื่อให้ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายให้ดีที่สุด โปร่งใสที่สุด ตรวจสอบได้
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภาค 2 กล่าวว่า ประเด็นหนึ่งที่สื่อมวลชนสนใจอย่างยิ่ง เชื่อว่า สังคมก็สนใจ ซึ่งการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีประเด็นว่า เกี่ยวข้องหรือเข้าข้อกฎหมายเกี่ยวกับ พรบ.อุ้มหายและทรมานหรือไม่ ซึ่งตนได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงซึ่งกำหนดไว้ให้เสร็จภายใน 3 วัน ซึ่งประสานทุกอย่างแล้ว พรุ่งนี้ (20 ม.ค.)เสร็จแน่นอน ประมาณ 11.30 น.จะสามารถแถลงข่าวให้สื่อมวลชนได้ทราบว่า ผลการสืบสวนข้อเท็จจริงของตำรวจนายหนึ่งที่ว่า มีปัญหากับลุงเปี๊ยก และกระทำโดยเข้าข่ายข้อกฏหมายของ พรบ.ทรมาน หรือไม่ จึงเรียนเชิญสื่อมวชชนมารับฟังข้อสรุป
——————————–
ข่าว-ภาพโดย/ทีมข่าวสระแก้ว
