X

“อัมรินทร์ ยี่เฮง” เครือข่ายภาคประชาชนสระแก้ว โพสต์ระบุ “กัน จอมพลัง” ทำตัวเป็นนักเลง สร้างภาพ ท้าทายกัน เตรียมฟ้อง 1 ล้าน

สระแก้ว – ทัวร์ลง!! “อัมรินทร์ ยี่เฮง” เครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดสระแก้ว โพสต์เดือดระบุ “กัน จอมพลัง” เป็นแค่พ่อค้าก๋วยเตี๋ยว ทำตัวเป็นนักเลง สร้างภาพแก้ปัญหาไม่ได้ มีการท้าให้ฟ้อง ส่วน”กัน จอมพลัง” เตรียมฟ้อง 1 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 25 ม.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานวา ภายหลังเกิดข่าวคดีการฆาตกรรม น.ส.บัวผัน ตันสุ หรือ เจ๊กบ อายุ 47 ปี หญิงสติไม่ค่อยดี ถูกนำศพมาทิ้งสระน้ำข้างโรงเรียนศรีอรัญโญทัย อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ในสภาพสวมเสื้อแขนกุด นุ่งกางเกงขายาวสีดำ มีแผลแตกที่ศีรษะและใบหน้า คาดว่าจะถูกฆาตกรรม พบศพเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งมี นายปัญญา หรือเปี๊ยก คงแสนคำ อายุ 54 ปี สามีผู้ตาย มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจและให้การรับสารภาพ เล่าเป็นตุเป็นตะว่า ตนเองเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายภรรยา ซึ่งมีการนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ในช่วงเช้าวันที่ 13 ม.ค. แต่ปรากฏว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณพระสยามเทวาธิราช ด้านหน้าทางเข้าข้าง สภ.อรัญประเทศ และ รพ.อรัญประเทศ พบผู้ก่อเหตุที่แท้จริง เป็นกลุ่มวัยรุ่น 5 คน อายุระหว่าง 13-16 ปี เป็นผู้เข้าทำร้าย เตะที่หน้าคนตายและพยายามนำร่างขึ้นรถจักรยานยนต์หลายรอบจนสลบ และนำร่างไปทิ้งสระน้ำจนเสียชีวิต กระทั่ง สามารถจับกุมผู้ต้องหาวัยรุ่น 5 โจ๋แก๊งลูกตำรวจ ซึ่งกรณีนี้ นายปัญญาหรือลุงเปี๊ยก ถูกจับเป็นแพะในคดี กระทั่งสื่อออนไลน์ออกมาแฉข้อมูลความพฤติกรรมในการทำคดีของตำรวจ จนมีการสั่งย้ายตำรวจรวม 5 นายและมีความผิดวินัยและอาญา 2 ราย โดยมี “กัน จอมพลัง” ได้ออกมาเคลื่อนไหวในการช่วยเหลือเหยื่อในคดีดังกล่าว หลังไม่ได้รับความเป็นธรรม และออกมาเดินหน้าชนแก๊งวัยรุ่น”แก๊งตังค์ไม่ออก”และแก๊งอื่น ๆ ในพื้นที่ จังหวัดสระแก้วอย่างต่อเนื่อง

กระทั่ง นายอัมรินทร์ ยี่เฮง เครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดสระแก้ว ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก “อัมรินทร์ ยี่เฮง” ระบุว่ากล่าวหาว่า “กัน จอมพลัง” ทำตัวเป็นนักเลง ทั้งที่เป็นแค่พ่อค้าก๋วยเตี๋ยว ทำตัวเหมือนนักเลง พร้อมท้าให้ฟ้องร้องเรียก 1 ล้านบาท ซึ่งจากการตรวจสอบโพสต์ของนายอัมรินทร์ ระบุข้อความว่า คุณมันก็แค่นักสร้างกระแสคนนึง ผมถามว่า กัน จอมพลัง ซึ่งเป็นอดีตพ่อค้าก๋วยเตี๋ยวบะหมี่กันจอมพลัง แล้วก็มีคนสนับสนุนให้มาช่วยเหลือคน ก็ต้องถามว่า คุณจะมาช่วยเหลือคน หรือจะมาเป็นนักเลงที่นี่ เที่ยวไปบอกให้ผู้ว่าฯ ท่านรองผู้ว่าฯ เปิดบัญชีรับบริจาคให้กับครอบครัวของป้ากบ เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในงานศพ ผมต้องถามก่อนว่า กัน เป็นคนในพื้นที่หรือเปล่า รู้ตื้นลึกหนาบางดีขนาดนั้นเลยเหรอ กูถูกยิงมา 4 รอบ กูไม่ได้หิวแสงแต่หมั่นไส้ มึงเป็นใคร มึงแค่พ่อค้าก๋วยเตี๋ยวคนนึง แล้วก็มีคนสนับสนุน แล้วสิ่งที่มึงแสดงออก มันแก้ปัญหาได้ไหม กัน กลายเป็นสร้างความหมั่นไส้ให้กับตัวมึงเองอีก”

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ “อัมรินทร์ ยี่เฮง” ยังโพสต์ข้อความ คล้ายปกป้องกลุ่มเด็กที่ก่อเหตุ โดยนายอัมรินทร์ ได้โพสต์คลิปขณะลงพื้นที่สังเกตการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ แล้วแท็กไปถึง กัน จอมพลัง ระบุว่า ให้ช่วยลงมาดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ในประเด็นอื่น ๆ บ้าง ไม่ใช่มาสร้างกระแสแค่วันสองวันแล้วกลับ แต่ปรากฏว่าในคลิปนี้ นายอัมรินทร์ ใช้ถ้อยคำหยาบคาย และพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับเจ้าหน้าที่ ทำให้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กต่างพากันรุมจวก จำนวนหลายร้อยความคิดเห็นในแต่ละโพสต์  ซึ่งกรณีดังกล่าว นายอัมรินทร์ กล่าวว่า จริง ๆ แล้ว ตนชื่นชมที่คุณ กัน ช่วยเหลือคนอื่น แต่อยากให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมวางมาด ทำท่าเป็นนักเลงในการลงพื้นที่ เพราะเกรงว่า อาจเป็นการกดดันเจ้าหน้าที่ และอาจเป็นพฤติกรรมเลียนแบบ โดยหลังจากนี้ตนเองพร้อมสู้หากโดนฟ้อง

ทางด้าน “กัน จอมพลัง” ก็ได้โพสต์ข้อความตอบกลับถึงนายอัมรินทร์ ยี่เฮง ผ่านเพจ “กันจอมพลัง ช่วยสู้” โดยระบุว่า ผมไปช่วยคนสระแก้วจนทุกอย่างจบ แต่กลับมีตัวแทนเด็กที่ก่อเหตุ ออกมาบอกว่า ผมมาทำลายสระแก้ว วันนี้กูกับพี่หนุ่ม กรรชัย และเพื่อน ๆ ควักเงิน 60,000 บาท ช่วยใช้หนี้งานให้ป้ากบอยู่เลย นี่หรือคือพฤติกรรมของคนทำลายสระแก้ว แล้วมึงอยู่สระแก้วทุกวันมึงทำอะไรอยู่ พอกูช่วยจนจบกลับมาถึงกรุงเทพฯ มึงมาแหลม อยากเจอกูมากใช่ไหม กูจัดให้ ผมให้ทนายฟ้อง 1 ล้านที่กรุงเทพฯ ได้เจอกันแน่นอน จากอดีตพ่อค้าก๋วยเตี๋ยว

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า กัน จอมพลัง ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงกรณีที่ถูกกล่าวหาว่า ตนเองไม่เคยไปบังคับให้ท่านรองผู้ว่าฯ เปิดบัญชีรับบริจาคใด ๆ แต่เป็นความคิดเห็นตรงกัน ที่อยากจะช่วยเหลือเหยื่อ และไม่เคยเป็นนักเลง พร้อมรับคำท้า ฟ้องหมิ่นประมาท 1 ล้านบาท ต่างกรรมต่างวาระซึ่งจะไม่รับคำขอโทษหรือเจรจายอมความกันแต่อย่างใด


ล่าสุด เมื่อช่วงเวลา 20.00 น.วันที่ 25 ม.ค.67 นายอัมรินทร์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า กรณีของ กัน จอมพลัง อย่างที่ตนเองพิมพ์ไป เหมือนกันว่า สร้างเรื่อง คือเรื่องมันเกิดอยู่แล้ว พอมาเหมือนกันว่า เป็นนักเลง มาหาเรื่องเด็ก มาทะเลาะกับเด็กอะไรประมาณนี้ ซึ่งก็เห็นอยู่ว่า มีการโพสต์ถึงท่านผู้ว่าราชการจังหวัดในไลฟ์สด และพูดถึงท่านรองผู้ว่าฯ เกี่ยวกับเรื่องให้เปิดบัญชีรับบริจาคเงินให้กับครอบครัวนี้ ผมก็มองว่า เฮ้ย จะไปบังคับไปอะไรกับท่านผู้ว่าฯ ได้ยังไง ขนาดท่านผู้ว่าฯเอง ผมยังโทรไปหาท่านให้ช่วยเหลือพวกที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกหน่อย ท่านผู้ว่าฯเองก็ยังพูดเลยว่า ท่านไม่ใช่มูลนิธินะ ซึ่งก็ไม่ควรไปทำแบบนี้ เป็นการมัดมือชก ไปบีบบังคับท่านรึเปล่า ในลักษณะที่มันออกไปแบบนี้ในมุมมองก็เป็นเรื่องที่ไมควรทำ

นายอัมรินทร์ กล่าวอีกว่า ผมก็มองว่า ผมไปพูดหมิ่นเค้าตรงไหน ผมก็ถามปกติ ไม่เห็นผิดอะไรเลย คิดไปเองรึเปล่า ผมคิดว่า ผมไม่ได้ไปทำอะไรให้เค้าเสียหาย ไปพูดหมิ่นเค้าตรงไหน ผมก็เห็นเค้ามียอดไลฟ์เพิ่ม มีคนไปกดยอดเพิ่ม ผมไปหมิ่นเค้าตรงไหน ซึ่งก็ไม่มีอะไรที่จะบอก คือถ้าเค้าฟ้อง เค้าอาจจะคิดว่า เค้าเสียหาย ผมก็มองว่า เขาไม่ได้เสียหายตรงไหน สิ่งที่ผมทำคือ คุณมาท้าตีท้าต๋อยกับเด็ก ซึ่งกับเด็กก็เข้าสู่กระบวนการแล้วนะครับ มีการร้องเรียนก็ว่ากันไปเข้าสู่ตามกระบวนการ รัฐมีหน่วยงานที่ดำเนินการเกี่ยวข้องกับตรงนี้อยู่แล้ว คุณกันฯ เอง ถามว่า ดีไหม ผมว่าดีที่ทำให้กลุ่มเยาวชน ปัญหาที่มันอยู่ใต้พรมมานานคลี่คลายขึ้น บางส่วนเท่านั้นเอง แต่ปัญหาสิ่งที่คุณกัน มาแสดงอาการเหมือนกับว่า ท้าตีท้าต่อยกับกลุ่มเยาวชน เด็ก ผมถามว่า ปัญหาถ้ามันเกิดในอนาคต สมมุติถ้ามีคนอ้างชื่อคุณกันฯ แล้วก็บอกว่า กูลูกน้องกันฯ ไปท้าทาย คุณกันฯ ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ เกิดการเขม่นขึ้นมา ลูกน้องกันฯ เกิดมีการตีกันขึ้นมา เจ็บตายขึ้นมา ใครรับผิดชอบปัญหาที่มันจะเกิดขึ้นในอนาคต

—————————
ภาพ/เฟซบุ๊ก อัมรินทร์ ยี่เฮง, กัน จอมพลัง

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"