สระแก้ว – ชาวไร่อ้อย จ.สระแก้ว เร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตเข้าโรงงาน ใช้วิธีเผาจนเกิดไฟไหม้ลุกลามไหม้บ้านเสียหายครึ่งหลัง รถยนต์และทรัพย์สินคนอื่นได้รับความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท ล่าสุด ยังไม่ยอมรับผิดทั้งที่มีหลักฐานชัดเจน เตรียมประสานกองพิสูจน์ลงพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมสั่งห้ามตัดอ้อยที่เผาไว้ จนกว่าจะได้ข้อยุติ เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 8 ก.พ.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัยแดน สียิ่ง ผู้ใหญ่บ้านวังไทร ม.6 ต.ตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว รายงานเหตุการณ์เกษตรกรในพื้นที่ ม.6 ต.ตาหลังใน เผาไร่อ้อยจนเกิดไฟไหม้ลุกลามไปยังบ้านเรือนประชาชนครึ่งหลัง และมีทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก ไปยังนายกิจจา เสาวรส นายอำเภอวังน้ำเย็น โดยระบุว่า ได้รับแจ้งว่ามีเพลิงลุกไหม้ป่าอ้อยในหมู่บ้าน ซึ่งอยู่ติดกับบ้านเรือนประชาชน และได้ลุกลามเข้าบ้านเรือนประชาชน ซึ่งเป็นบ้านของ นายไฉน น้อยนาดี ได้รับความเสียหายไปครึ่ง หลังมีการแจ้งไปยัง อบต.ตาหลังใน ได้นำรถน้ำดับเพลิง อบต.ตาหลังใน 1 คัน และรถดับเพลิงเทศบาลเมืองวังน้ำเย็นอีก 2 คัน เข้าระงับเหตุเพลิงไหม้ไว้ได้ ก่อนที่เพลิงจะลุกไหม้เข้าไปภายในตัวบ้าน ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น มีรถยนต์กระบะอีซูซุแคป หมายเลขทะเบียน บย-6476 สระแกว ที่จอดไว้ในบ้าน ได้รับความเสียหาย 1 คัน และสิ่งของอุปกรณ์เครื่องมือเกี่ยวกับการเดินสายไฟฟ้า ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ขณะที่ นายอำนาจ พิพิธกุล นายก อบต.ตาหลังใน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่งานป้องกันสาธารณภัย อบต.ตาหลังใน ได้ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบเหตุและให้กำลังใจผู้ประสบอัคคีภัย และมอบสิ่งของอุปโภคบริโภค เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัวของ นายไฉน น้อยนาดี ที่อยู่บ้านเลขที่ 104 หมู่ที่ 6 บ้านวังไทร ต.ตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว พร้อมทั้งหาแนวทางพิจารณาช่วยเหลือตามระเบียบผู้ประสบภัยฯ ต่อไปด้วย
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านของ นายไฉนฯ จุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านที่มีรั้วลวดหนามล้อมรอบ มีต้นไม้และเศษวัสดุต่าง ๆ วางกองอยู่บริเวณรอบบ้าน มีถนนเส้นทางเข้าไร่อ้อยคั่นกลางระหว่างบ้านกับไร่อ้อย เพื่อเข้าไปภายในไร่อ้อยอีกหลายแปลงด้านใน หลังมีการจุดไฟเพื่อเผาไร่อ้อยให้กับคนงานชาวกัมพูชา สามารถตัดอ้อยได้ง่ายและรวดเร็ว ในช่วงกลางวัน ซึ่งปกติไม่มีใครทำกัน (ส่วนใหญ่จะเผาช่วงค่ำหรือเช้าตรู่) เมื่อมีกระแสลมพัดโหมแรง ทำให้ไฟลุกลามไหม้ไร่อ้อยบริเวณข้างเคียงแปลงต้นเพลิง ลุกลามเข้าบริเวณรั้วบ้านและตัวบ้านของนายไฉนฯ อย่างรวดเร็ว ประกอบกับช่วงเกิดเหตุมีเพียงหญิงชราและเด็ก อยู่บ้านตามลำพังภายในบ้าน จึงไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้ กระทั่ง มีการแจ้งรถดับเพลิงของ อบต.และเทศบาลฯ มาช่วยสกัดเพลิงไว้ได้ทันท่วงที ก่อนที่จะลุกลามไหม้บ้านทั้งหลัง
ข่าวน่าสนใจ:
- สระแก้ว จัดพิธีรับพระราชทาน “พระพุทธสิรินธรเทพรัตน์มงคลภูวดลสันติ”
- จัดยิ่งใหญ่ "กีฬาบ้านแก้งสัมพันธ์" สร้างสุขภาพ-สร้างความสามัคคี คนร่วมงานกว่าพันคน
- ป.ป.ช.ลงพื้นที่การรุกล้ำทางเข้าและกีดขวางการจราจร หน้าด่านคลองลึก-ตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว
- มอบของขวัญปีใหม่แก่ผู้พิการในงานวันคนพิการสากลฯ เฉลิมพระเกียรติฯ จ.สระแก้ว
นายอนุเทพ น้อยนาดี อายุ 38 ปี ลูกชายของนายไฉนฯ เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า ไฟลามเข้ามาถึงที่บ้านตอนประมาณบ่าย 2 ตอนนั้นตนเองไม่ได้อยู่ที่บ้าน คนที่อยู่บ้านมีแค่แม่กับลูกคนเล็ก อายุแค่ 2 ขวบกว่า ๆ ซึ่งตอนนั้นไฟไหม้และมีลมแรง โดยน่าจะเกิดจากการเผาอ้อย โดยต้นเพลิงมาจากไร่อ้อยบริเวณด้านหลังบ้าน หลังจากนั้นก็ลามมาติดไร่อ้อยแปลงอื่น ๆ และปลิวเข้ามาติดที่บ้าน ทำให้บ้านถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายไปครึ่งหลัง โรงเก็บของ ที่จอดรถ และรถยนต์ 1 คัน เสียหายทั้งหมด นอกจากนั้นยังมี รถจักรยานไฟฟ้า และอุปกรณ์ที่เป็นเครื่องมือ สายไฟสำหรับเดินสายไฟฟ้าต่าง ๆ ที่กองไว้บริเวณรอบบ้าน ได้รับความเสียหายทั้งหมด
นายอนุเทพ กล่าวอีกว่า ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาตรวจสอบปัญหานี้ มาตรวจสอบดูให้ละเอียด เพราะทรัพย์สินของเราเสียหายเยอะ โดยที่เราไม่ได้อยากให้มันเกิด ซึ่งค่าเสียหายทั้งรถ ทั้งบ้าน และอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมเป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท เนื่องจากมีอุปกรณ์เครื่องมือทำมาหากินด้วย ในส่วนของเจ้าของไร่อ้อยที่เป็นจุดต้นเพลิงนั้น เบื้องต้นที่มีการตรวจพบว่า ยังปฏิเสธอยู่ ไม่ยอมรับ ซึ่งปัจจุบันตำรวจ สภ.วังน้ำเย็น ได้เข้ามาสอบสวนและตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยทางผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่สั่งห้ามตัดอ้อยที่เผาไว้จนกว่าจะได้ข้อยุติ
อย่างไรก็ตาม นายอนุเทพฯ เรียกร้องให้เจ้าของไร่อ้อยหรือผู้รับเหมา ที่เป็นต้นเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้ ออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะปกติชาวบ้านก็รู้ ๆ กันว่าชาวไร่อ้อยจะมีการเผา แต่ปกติเขาจะเผากันช่วงค่ำ ไม่มีลมหรือช่วงเช้ามืดตี 4 ตี 5 ซึ่งใบอ้อยจะมีน้ำค้าง ไฟจะลุกไหม้ไม่รุนแรงมาก แต่ครั้งนี้ เป็นการเผาไร่อ้อยตอนกลางวัน มีลมแรงและพัดมาไหม้บ้านคนอื่นซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย จึงต้องการให้ออกมารับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น
————————————
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: