สระแก้ว – เกิดเหตุสุดสลด ช้างป่าอ่างฤาไน เขตป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก ทำร้ายชาวบ้านในพื้นที่บ้านท่าเต้นท์ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว จนเสียชีวิตกลางป่าเอาหัวไปด้วย พบศีรษะขาดหายไป ต้องเร่งระดมอาสาและเจ้าหน้าที่ตามหา ยังไม่พบชิ้นส่วนอวัยวะส่วนหัว จนต้องยุติการค้นหาไปก่อน เนื่องจากช่วงเย็นเป็นช่วงเวลาที่ช้างป่าออกหากิน
เมื่อเวลา 09.12 น.วันที่ 15 ก.พ.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ท.วรวุฒิ แหวนแก้ว ร้อยเวร สภ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งจาก นายธนกร ทิวิน ผู้ใหญ่บ้านท่าเต้นท์ ม.9 ต.พระเพลิง อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ขอให้นำกำลังอาสาสมัครกู้ภัยฯออกปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาฉกรรจ์ กรณีตรวจสอบร่างชาวบ้านผู้เสียชีวิต ไม่ทราบสาเหตุ ในพื้นที่บ้านท่าเต้นท์ ม.9 ต.พระเพลิง อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นหมู่บ้านติดกับเขตป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก หลังรับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิสว่างสระแก้ว ได้ออกปฏิบัติงานในที่เกิดเหตุอยู่ภายในป่าพื้นที่บ้านท่าเต้นท์ฯ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ใหญ่บ้าน และนายกิตติ ปักครึก นายก อบต.พระเพลิง ได้มอบหมายให้ รองนายก อบต.พร้อมเจ้าหน้าที่ป้องกันเดินทางเข้าพื้นที่ ม.9 อย่างเร่งด่วน รวมกับ นายสมศักดิ์ พยนต์ หัวหน้าชุดหน่วยพิทักษ์ป่าเขาตระกรุบ และเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอ่างฤาไน, ร.อ.สุระ โสรักนิษฐ์ ผบ.ร้อย.ทพ.1306 เจ้าหน้าที่ทหารพรานกองร้อยทหารพรานที่ 1306 ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 13 และเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) เข้าร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ได้ให้การว่า ผู้เสียชีวิตรายดังกล่าว มีอาชีพหาของป่าและได้หายตัวไปเมื่อประมาณ 2 วันที่ผ่านมา ทางญาติจึงได้แจ้งผู้นำหมู่บ้านและได้ช่วยกันออกค้นหาแต่ก็ไม่พบตัว กระทั่งล่าสุด เมื่อช่วงสายวันนี้ พบศพผู้เสียชีวิตรายนี้ภายในป่า เสียอยู่ในลักษณะนอนคว่ำหน้า ไม่พบศีรษะ ซึ่งจากการคาดการณ์ของเจ้าหน้าที่ คาดว่า ผู้เสียชีวิตถูกช้างป่าทำร้ายจนเสียชีวิต เนื่องจากมีร่องรอยของช้างป่าในจุดที่เกิดเหตุ โดยทราบชื่อผู้เสียชีวิตในเวลาต่อมา คือ นายร้าน วงค์ทะแยง อายุ 66 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 71 ม.9 ต.พระเพลิง อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว หลังเจ้าหน้าที่ร้อยเวร สภ.เขาฉกรรจ์ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและถ่ายภาพเสร็จสิ้น จึงได้มีคำสั่งมอบหมายให้ เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยสว่างสระแก้ว เคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตออกจากจุดเกิดเหตุ และนำส่งชันสูตรเพิ่มเติมที่ รพ.เขาฉกรรจ์
นอกจากนั้น พ.ต.อ.เข็มชาติ สุวะศรี ผกก.สภ.เขาฉกรรจ์ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ฝ่ายปกครองและชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมกันเดินเท้าเดินเท้าปูพรมค้นหาศีรษะของผู้เสียชีวิต โดยค้นหายกระจายเป็นวงกว้าง จากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร แต่ก็ยังไม่พบศีรษะของผู้เสียชีวิต ซึ่งผู้เสียชีวิตรายนี้ไม่ค่อยมีญาติ มักจะอาศัยอยู่กระท่อมบริเวณใกล้กับป่าและออกหาของป่าเป็นประจำ คาดว่า จะถูกช้างทำร้ายจนเสียชีวิต เพราะบริเวณใกล้กันพบรอยเท้าช้างและการหักกิ่งไม้โดยรอบ ขณะที่ กำนันสมชาย ท่าใหญ่ กำนันตำบลพระเพลิง ได้เดินทางลงพื้นที่บ้านท่าเต้น หมู่ที่ 9 ต.พระเพลิง และรายงานเหตุการณ์ช้างทำร้ายคนเสียชีวิตประมาณ 2 วันให้กับนายอำเภอเขาฉกรรจ์รับทราบ พร้อมเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าบ้านท่าเต้น จนพบผู้เสียชีวิต เป็นชายนอนคว่ำหน้า มีมีดอีขอกับยอดหวายอยู่ข้างศพ จึงกันพื้นที่รอตำรวจชันสูตรพลิกศพ ซึ่งสิ่งที่สะเทือนใจที่สุดคือ ศีรษะไม่มี ช้างทำร้ายจนเสียชีวิตเอาศีรษะไปด้วย ชุดปฏิบัติการพิเศษตำบลพระเพลิง พร้อมด้วยชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.)หมู่ 9 บ้านท่าเต้น ตั้งทีมค้นหาศรีษะเพื่อนำมาให้ญาติบำเพ็ญกุศลต่อไป พร้อมกับเป็นกำลังใจให้ทีมงานและครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย
ผู้สื่อข่าว จ.สระแก้ว เดินทางลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบกับ นายธนกร ทิวิน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านท่าเต้นท์ ต.พระเพลิง เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านช่วงเช้าที่เข้าไปตัดหวายในป่าว่า พบศพชายคนหนึ่งในป่า ถูกช้างทำร้ายเสียชีวิต จึงร่วมกับชุด ชรบ. อบต.และชาวบ้านท่าเต้นท์ และหน่วยป้องกันป่าไม้ออกมาช่วยกันหาศีรษะของผู้เสียชีวิต ซึ่งผู้ตายเป็นชาวบ้านในหมู่บ้านที่ทำอาชีพกรีดยาง ส่วนใหญ่ชาวบ้านก็จะเข้าไปเก็บหวายและเห็ดในบริเวณใกล้ ๆ คูกันช้าง ซึ่งที่เกิดเหตุใกล้ศพพบหวายอยู่ประมาณ 6-8 ยอด และมีตะขอสำหรับตัดหวายเพื่อมาทำกินตอนเช้า สำหรับผู้เสียชีวิตอยู่คนเดียว ไม่มีภรรยา นอนกรีดยางอยู่ในสวนคนเดียว เมื่อมาหากับข้าวตอนเช้าคาดว่า ขากลับ ซึ่งคนก็จะกลับบ้าน ช้างก็จะกลับป่า น่าจะไปเจอกันระหว่างทางจึงถูกทำร้ายเสียชีวิต
“ทางเราได้ร่วมกับกำนัน รองนายก อบต. ได้รายงานไปทางนายอำเภอรับทราบ ตอนนี้ศพของคนตายได้นำไปตรวจชันสูตรที่ รพ.เขาฉกรรจ์ หลังจากดำเนินการเรียบร้อยแล้ว จะนำศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่วัดท่าเต้นท์ ต.พระเพลิง ซึ่งศพที่พบน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน มีกลิ่นและเริ่มขึ้นอืดแล้ว อาจจะทำพิธีสวดอภิธรรมศพเพียงแค่ 1 คืนและเผาในวันรุ่งขึ้น ซึ่งจากการตรวจสอบเหตุการณ์ครั้งนี้ ช้างที่ทำร้ายชาวบ้านน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 3 ตัว ซึ่งปกติช้างกลุ่มนี้เมื่อ 3-4 วันก่อน ก็จะมาหาอาหารกินน้ำอยู่บริเวณนี้ ซึ่งคนกรีดยางจะเจอเกือบทุกวัน ซึ่งเมื่อ 4 วันที่แล้ว นายดิเรก บุญแจ่ม ได้ขี่รถมอไซด์มาเพื่อนอนเฝ้าช้างตอน 2 ทุ่ม ช้างกำลังขึ้นคูกันช้างจนเกิดชนกันระหว่างคนกับช้าง จนได้รับบาดเจ็บต้องเย็บแผล หลังจากนั้นไม่คิดว่า จะมีการสูญเสียเกิดขึ้น ซึ่งช้างที่ทำร้ายชาวบ้านตัวนี้น่าจะน้ำหนักประมาณ 5-6 ตัน มีร่องรอยการหลบหนีไปทางบ้านนาอีสาน คาดว่า ไม่น่าเกินสัปดาห์จะกลับมาเหมือนเดิม อยากให้หน่วยงานเกี่ยวกับเรื่องช้าง จังหวัด อำเภอ หรือหน่วยงานอนุรักษ์ ช่วยดูแลศพและสงเคราะห์ผู้เสียชีวิตด้วย
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเวลาประมาณ 15.20 น. เจ้าหน้าที่และทีมค้นหาที่เป็นชาวบ้านในหมู่บ้านรวมประมาณ 50 คน ได้ออกค้นหาศีรษะของผู้ตาย โดยจุดธูปบนบานเจ้าป่าเจ้าเขา ขอให้เจอหัวของผู้ตายโดยเร็ว เพื่อจะนำศพไปบำเพ็ญกุศล หลังจากนั้น ได้เดินเข้าไปในป่าค้นหากันอีกรอบประมาณเกือบ 1 ชม. อีกรอบ กระทั่ง ช่วงเวลา 16.00 น.ชุดค้นหาศพต้องถอนกำลังออกจากพื้นที่ป่า เนื่องจากหลังช่วงเวลานี้ จะเป็นช่วงเวลาที่ช้างป่าจะออกมาหากินบริเวณแถวนี้ ซึ่งเป็นอันตรายมาก จึงสั่งการให้ถอนกำลังออกมาจากพื้นที่ทันที
——————————
ขอบคุณภาพ/กู้ภัยสว่างสระแก้ว, กกล.บูรพา
ข่าว-ภาพโดย/เด่นชัย วิสุทธิ์วุฒิพงษ์ , สมศักดิ์ ปัญญาสัย ทีมข่าวสระแก้ว
