สระแก้ว – ปปช.สระแก้ว ทำหนังสือถึงนายก อบจ.สระแก้ว ให้ชี้แจงกรณีผู้ค้าในตลาดโรงเกลือร้องเรียน ให้ตรวจสอบการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ด้าน “ฐานิสร์ เทียนทอง” ระบุกรณีล๊อคสเปค ปัญหาเก็บค่าขยะและอื่น ๆ เกิดขึ้นก่อนเข้ารับตำแหน่ง มีเพียงการยกเลิกสัญญาเท่านั้น เพื่อปรับปรุงและทำให้ตลาดโรงเกลือทันสมัยเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่เกิดปัญหาต่าง ๆ เหมือนที่ผ่านมา วางแผนรื้อถอนก่อสร้างใหม่ แต่จะพยายามไม่ให้ผู้ค้าขายในตลาดเดือดร้อน
เมื่อวันที่ 24 ก.พ.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังได้มีผู้ค้าในตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ส่งบัตรสนเท่ห์ร้องเรียนไปยังสำนักงานงาน ปปช.จังหวัดสระแก้ว ให้ตรวจสอบการปฎิบัติหน้าที่ของ นายฐานิสร์ เทียนทอง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว ว่ามีการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบใน 8 ประเด็นด้วยกัน คือ ปล่อยให้มีการก่อสร้างอาคารในตลาดโรงเกลือ โดยเอื้อประโยชน์ให้กับบางบริษัทได้สิทธิในการก่อสร้าง เปิดประมูลการก่อสร้างโดยการล๊อคสะเปค ให้กับกลุ่มคนของตน ยกเลิกสัญญาเช่าโดยผู้เช่าไม่มีความผิด ไม่ต่อสัญญาเช่าให้ผู้เช่ารายเดิม ปล่อยให้มีการก่อสร้างต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต ปล่อยให้มีการเจาะน้ำบาดาลในตลาด ปล่อยให้บุคคลก่อสร้างห้องน้ำ แล้วเก็บรายได้เอง และ เรียกเก็บเงินค่าขยะกับผู้ค้าในตลาด ห้องละ 100 บาทต่อเดือน ซึ่งหลังจากทาง ปปช.สระแก้ว ไดรับเรื่องร้องเรียน นายพิเชฐ พิมพา ผอ.ปปช.สระแก้ว ได้ทำหนังสือถึง นายฐานิสร์ฯ ลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 ให้ชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับประเด็นการร้องเรียนที่ลงนามรับรองทุกแผ่น ไปยัง ปปช.สระแก้ว ภายใน 15 วัน หลังได้รับหนังสือ
ทั้งนี้ นายฐานิสร์ เทียนทอง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้ทำหนังสือขอเลื่อนการชี้แจงและมอบเอกสารต่าง ๆ ที่ทาง ปปช.สระแก้ว ต้องการ ออกไปก่อน เพราะประเด็นการร้องเรียนดังกล่าว ตนมีส่วนเกี่ยวข้องเพียงประเด็นเดียว คือการไม่ต่อสัญญาเช่า ให้กับผู้ค้าในตลาดโรงเกลือ ที่หมดสัญญากำหนด 3 ปี ซึ่งเพิ่งจะเริ่มทะยอยหมดสัญญาไปที่ละล๊อตเท่านั้น ส่วนประเด็นอื่น ๆ โดยเฉพาะเรื่องการก่อสร้างและการประมูลการก่อสร้างนั้น เกิดขึ้นมานานมากแล้ว บางโครงการสามารถค้นหาหลักฐานได้ แต่บางโครงการยังไม่สามารถค้นหาเอกสารหลักฐานที่สำคัญพบในสาระบบในตอนนี้ จึงจำเป็นต้องขอเลื่อนการส่งเอกสารชี้แจงกับ ปปช.สระแก้ว ออกไปก่อน คาดว่าจะ 30 วัน หรือมากกว่านี้
นายฐานิสร์ กล่าวถึงการไม่ต่อสัญญาเช่าให้ผู้เช่าเดิมว่า เนื่องจาก อบจ.สระแก้ว มีโครงการที่จะปรับปรุงพัฒนาอาคารเก่าให้ทันสมัย เป็นระเบียบเรียบร้อย หากมีการต่อสัญญาเช่า จะมีปัญหาเรื่องของการเข้าไปดำเนินการ เพราะบางอาคารจำเป็นต้องรื้อถอน แล้วก่อสร้างใหม่ แต่แม้ว่า จะไม่มีการต่อสัญญาเช่า อบจ.ก็ยังคงอนุญาตให้ผู้ค้ารายเดิม ทำมาค้าขายต่อไปเหมือนเดิม โดยไม่ได้เก็บค่าเช่าแต่อย่างใด สำหรับการที่ผู้ค้าได้ต่อเดิมอาคาร หรือก่อสร้างอาคารในพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาตนั้น ทาง อบจ.ได้ทำการรื้อถอนออกจนเกือบหมดแล้ว ทำให้สภาพโดยทั่วไปในตลาด มีความสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อยกว่าเดิมมากแล้วในขณะนี้
“ส่วนการรื้อถอนอาคารเก่า หรือปรับปรุงอาคารนั้น อบจ.วางแผนที่จะดำเนินการในอาคาร หรือห้องเช่าที่หมดสัญญาเช่าก่อน โดยจะค่อย ๆ ดำเนินการไปเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ผู้ค้าขายในตลาดเดือดร้อน คาดว่า ต้องใช้เวลาอีกหลายปี อาจจะแล้วเสร็จตอนที่่ตนหมดวาระการดำรงตำแหน่งก็ได้” นายฐานิสร์ กล่าว และว่า ตนอยากให้ผู้เช่ามั่นใจว่า หลังการก่อสร้างหรือปรับปรุงอาคารแล้ว ผู้เช่าจะยังคงได้สิทธิการเช่าต่อไปเหมือนเดิม ส่วนการเรียกเก็บเงินค่าขยะนั้น อบจ. ไม่ได้เป็นผู้เรียกเก็บแต่อย่างใด และได้แจ้งให้ผู้เช่าทราบแล้ว พร้อมท้้งบอกให้ผู้เช่าไม่ต้องจ่าย เพราะ อบจ. ได้เหมางานเก็บขยะให้กับเอกชนเป็นผู้ดำเนินการแล้ว จากเดิม อบจ.มีรายได้จากตลาดโรงเกลือประมาณปีละ 20 ล้าน แต่ต้องจ่ายค่าเก็บขยะไปจำนวนมากถึงปีละ 12 ล้าน ตนจึงแก้ปัญหาด้วยการให้มีการชั่งน้ำหนักขยะและมีการจ่ายเงินตามจำนวนขยะที่เกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาขยะในโรงเกลือลดลง ทำให้ตอนนี้เราเสียค่าขยะเพียงปีละ 6 ล้านบาท ลดค่าใช้จ่ายไปได้ถึง 6 ล้านบาท หลังมีการประมูลใหม่และมีการชั่งน้ำหนักขยะทุกวัน
นายก อบจ.สระแก้ว ยังกล่าวอีกว่า ปัจจุบันนี้ผู้ค้าในตลาดโรงเกลือที่ไม่ได้รับการต่อสัญญาส่วนใหญ่กังวลว่า จะยึดคืน ซึ่งตนอยากพัฒนาให้ตลาดโรงเกลือเป็นตลาดที่เป็นสากล เป็นตลาดที่น่าเดินกว่าปัจจุบัน ไม่ใช่ฝนตกก็น้ำท่วม มีปัญหาร้องเรียนต่าง ๆ เหมือนปัจจุบัน ในใจอยากทำ แต่ต้องดูระเบียบและวิธีการปฏิบัติด้วย เพราะว่า การจะไปรื้อทั้งหมด หรือจะให้สิทธิคงเดิมกับคนที่ค้าขายอยู่ ซึ่งระหว่างที่ก่อสร้าง ฐานะคนเราไม่เหมือนกัน บางคนก็หาเช้ากินค่ำ บางคนบางกลุ่มก็มีอาชีพรายวัน เค้าจะอยู่อย่างไร แต่ถ้าหากค่อย ๆ ทำทีละเฟส ซึ่งวันนี้คนเริ่มไม่ค่อยบ่นแล้ว เพราะเริ่มรู้แล้วว่า อบจ.กำลังจะทำอะไร ซึ่งต่อไปค่าเก็บขยะต่อไปก็จะต้องเอามาพ่วงอยู่ในสัญญาเช่าด้วย และคิดว่า ทุกคนยอมจ่ายเพราะมันจะสะอาด เมื่อสามารถพัฒนาให้ตลาดโรงเกลือมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ก็จะสร้างรายได้เข้ามามากขึ้น และตนได้ตั้งกองขึ้นมาดูแลตลาดโรงเกลือโดยเฉพาะ ซึ่งต่อไปรายได้ของตลาดโรงเกลือก็จะไม่เอาไปทำอย่างอื่น ก็จะเอามาพัฒนาตลาดโรงเกลือ ซึ่งเป็นเป้าหมายของตนเอง
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตั้งอยู่ใกล้กับด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก สถานีรถไฟบ้านคลองลึกและสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา ซึ่งในพื้นที่ตลาดการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา มีทั้งตลาดของเอกชนและของรัฐ รวม 7-8 ตลาด โดยตลาดโรงเกลือซึ่งอยู่ในความดูแลขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว มีเนื้อที่ประมาณ 70 ไร่ มีแผงค้าที่แบ่งตามหมวดต่าง ๆ รวมประมาณ 1,500 ห้อง ปัจจุบันมีลักษณะพื้นที่เป็นเหมือนแอ่งกระทะ ช่วงที่เกิดฝนตกหนัก มักเกิดปัญหาน้ำท่วมเป็นประจำ ลักษณะแผงค้าตั้งอยู่ติดกัน มีถนนผ่ากลางแต่ละโซน ซึ่งยังขาดการจัดระเบียบหลายจุด เช่น ร้านค้ากลางถนน ร้านอาหาร ที่ทิ้งขยะ รถเช่าและอื่น ๆ มีการต่อเติมแผงค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต หรืออาคารบางส่วนขาดการดูแล และใช้ประโยชน์ ซึ่งจากการสอบถามผู้ค้าส่วนใหญ่ ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ยินดีและต้องการให้ อบจ.ปรับปรุงพัฒนาตลาดโรงเกลือให้ได้มาตรฐาน แต่ขอให้ผู้เช่ารายเดิมได้มีโอกาสเข้ามาค้าขายเช่นเดิม หลังดำเนินการเสร็จ เนื่องจากก่อนหน้านี้เซ้งกันมาในราคาสูง หากนำทั้งหมดไปประมูลใหม่ เกรงว่าจะไม่ได้สิทธิ์เหมือนเดิมและขาดทุนกับส่วนที่ลงทุนเซ้งแผงค้าไปก่อนหน้านี้
——————————
ข่าว-ภาพโดย/ทีมข่าวสระแก้ว
