สระแก้ว – เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข Kick Off นโยบายยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว เฟส 2 ที่จังหวัดสระแก้ว
นายสุรชาติ เทียนทอง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ Kick Off นโยบายยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวในพื้่นที่ จ.สระแก้ว โดยกล่าวว่า นโยบายกระทรวงสาธารณสุขยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ระยะที่ 2 ดำเนินการใน 8 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สิงห์บุรี หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ นครราชสีมา พังงาและสระแก้ว ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป จังหวัดสระแก้วเป็น 1 ในจังหวัดนำร่องของระยะที่ 2 โดย จ.สระแก้วดำเนินการตามนโยบายและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในการให้บริการเพื่อประชาชน โดยไม่ต้องใช้ใบส่งต่อ สามารถใช้บริการข้ามเครือข่ายภายในจังหวัดและสามารถเลือกหน่วยบริการที่เข้ารับการรักษาได้ ซึ่งปัจจุบันจังหวัดสระแก้วมีหน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการตามนโนบายฯ ได้แก่ โรงพยาบาลภาครัฐทั้งหมด 9 แห่ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขตำบล 111 แห่ง สถานบริการสาธารณสุขเทศบาล ภาคเอกชน เช่น ร้านยา คลินิกเวชกรรม คลินิกเทคนิคการแพทย์ คลินิกทันตกรรม คลินิกการพยาบาลและผดุงครรภ์ เป็นต้น
สำหรับโครงการดังกล่าว จะใช้ระบบสุขภาพดิจิทัลมาใช้ในการให้บริการ เชื่อมโยงประวัติสุขภาพของประชาชน ดูประวัติตนเองผ่านมือถือ ส่งเสริมให้ประชาชนใช้เพลทฟอร์มหมอพร้อม ส่งเสริมรณรงค์ให้ประชาชนยืนยันตัวตน มี Health ID ใช้บริการผ่านหมอพร้อม ออกใบรับรองแพทย์ดิจิทัล การแพทย์ทางไกล (Telemeddicine) การนัดหมายออนไลน์ บริการเจาะเลือดใกล้บ้านและเชื่อมโยงบริการส่งยาและเวชภัณฑ์ ถึงบ้านด้วย Health Rider ครบทุกอำเภอ พัฒนาระบบให้บริการทำให้ประชาชนชาวจังหวัดสระแก้วเข้าถึงบริการแบบไร้รอยต่อ นำระบบดิจิทัลสุขภาพมาใช้ มีหน่วยบริการ ทั้งภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมดำเนินงาน ซึ่งทาง จ.สระแก้ว มีความพร้อมในการดำเนินงาน นโยบาย “ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชน” เพื่อความสะดวกของประชาชน เข้าถึงบริการได้มากขึ้น เพียงใช้บัตรประชาชนในเดียวเข้ารับบริการ ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นมา
สำหรับการดำเนินการโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่เฟสแรกของกระทรวงสาธารณสุขที่ผ่านมา ได้ผลตอบรับดี โดยมีการตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาและโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เพื่อดูความพร้อมในการจัดบริการ เช่น ประวัติสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์, การออกใบรับรองแพทย์ดิจิทัล, ใบสั่งยา, การแพทย์ทางไกล, เภสัชกรรมทางไกล, ดูแลผู้ป่วยทางไกล, การเชื่อมระบบบริการสุขภาพดิจิทัล, ห้องตรวจแพทย์, แสดงประวัติผู้ป่วย แสดงใบรับรองแพทย์, การจองคิวนัดพบแพทย์ และเริ่มเฟส 2 โดยยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ใน 8 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ สิงห์บุรี สระแก้ว หนองบัวลำภู นครราชสีมา อำนาจเจริญ และพังงา ซึ่งปัจจุบันมีความพร้อม 100% โดยได้เชื่อมโยงข้อมูล PHR ของโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขครบทุกแห่งและทุกกองทุนสุขภาพแล้ว และภาพรวม 8 จังหวัด มีประชาชนลงทะเบียน Health ID แล้ว มากกว่า 2 ล้านคน
ข่าวน่าสนใจ:
อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างประเมินความเสี่ยงของโรงพยาบาลในระยะที่ 2 ทั้ง 96 แห่ง เพื่อยกระดับการป้องกันและสร้างความปลอดภัย , มีการอัปเกรดคอมพิวเตอร์และระบบปฏิบัติการของโรงพยาบาล , สปสช.เร่งทำข้อสรุปหลักเกณฑ์และกระบวนการเบิกจ่าย การยืนยันตัวตน การเปิดสิทธิ์ ปิดสิทธิ์ ให้มีความชัดเจน เพื่อให้หน่วยบริการภาคเอกชนมั่นใจและเข้าร่วมโครงการ และขับเคลื่อนระยะที่ 3 จะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้ และภายในสิ้นปี 2567 ประชาชนคนไทยได้ใช้ 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวทั้งประเทศ โดยไม่ต้องมีใบส่งตัว ตามเงื่อนไขคือ ต้องเป็นผู้ป่วยที่มีสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ,แพทย์วินิจฉัยว่า เป็นโรคเรื้อรังรายเก่า อาการคงที่ ควบคุมโรคได้ดี, ไม่มีความซับซ้อนในการดูแล และหน่วยบริการมีการบันทึกข้อมูลการรักษาในเวชระเบียน รวมทั้งจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ด้วยระบบบริการส่งด่วนให้แก่ผู้ป่วยที่บ้าน
—————————–
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: