X

ชาวบ้านชายแดนป่าไร่ ร้อง ผกก.สภ.คลองลึก ขอคืนของกลางจากป่าไม้ หลังอัยการสั่งไม่ฟ้อง กรณีที่ดินชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว

สระแก้ว – ชาวบ้านเจ้าของเอกสารใบจอง นส.2 ชายแดนป่าไร่ ร้อง ผกก.สภ.คลองลึก ขอคืนของกลางจากป่าไม้ หลังอัยการสั่งไม่ฟ้อง กรณีปัญหาที่ดินชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว ซึ่งถูกทางทหารกัมพูชากีดกันไม่ให้เข้าไปทำกินในที่ดินของตนเอง ตั้งแต่เมื่อกลางปี 65 ที่ผ่านมา และเตรียมแจ้งความ ม.157 กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหลังได้รับความเดือดร้อน 

เมื่อวันที่ 24 เม.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีปัญหาที่ดินของชาวบ้านในพื้นที่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นลูกหลานของชาวบ้านน้อยป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อกว่า 40 ปีก่อน ที่ต้องอพยพออกมาจากที่ดินของบรรพบุรุษในช่วงภัยสงครามเขมรแดง และมีเอกสารใบจอง นส.2 ก่อนประกาศพื้้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ แต่ปัจจุบันยังไม่สามารถเข้าไปทำกินในที่ดินของตนเองได้ เนื่องจากถูกกีดกันจากทหารกัมพูชาและเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยบางหน่วยงาน ล่าสุด นางกันจณา สามล ที่อยู่บ้านเลขที่ 140 หมู่ที่ 3 บ้านวังมน ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หนึ่งในผู้เดือดร้อนจากกรณีดังกล่าว ยื่นหนังสือถึง พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.คลองลึก เพื่อขอความอนุเคราะห์ ติดตามขอคืนทรัพย์สินของกลางทั้งหมดที่ตรวจยึดไว้ ตามบัญชีของกลาง ที่ 170/2565 พร้อมกับแนบเอกสารอ้างอิง หนังสือยื่นหน่วยป้องกันรักษาที่ สก 12 (ป่าไร่) เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2567 และสำเนาการลงบันทึกประจำวัน วันที่ 8 มิ.ย. 65, วันที่ 8 พ.ย. 65, วันที่ 29 ธ.ค. 65


ทั้งนี้ นางกันจณา สามล ระบุว่า ได้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ ประเภทใบจอง (นส.2 ก) เลขที่ 138 ได้ว่าจ้าง นายสมคิด สุขจำนงค์ เข้าไปปรับไถ พื้นที่ดังกล่าว ต่อมา นายสมคิด สุขจำนงค์ ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ดำเนินคดีอาญา โดยมี ร้อยโท กฤตนัย ลิขิตจิตถะ กับพวก เป็นผู้กล่าวหา นายสมคิด สุขจำนงค์ เป็นผู้ต้องหา ตามสำนวนการสอบสวนคดี ที่ 574/2565 ลงวันที่ 21 ธันวาคม 2565 ตามหนังสือยื่นหน่วยป้องกันรักษาที่ สก 12 (ป่าไร่) เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2567 ซึ่งภายหลังอัยการจังหวัดสระแก้ว ดำเนินคดีกับนายสมคิด ข้อหาพาอาวุธปืนเพียงเท่านั้น และสิ้นสุดคดีเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 ทั้งนี้ อัยการจังหวัดสระแก้ว ได้มีหนังสือแจ้งมา เพื่อจัดการของกลางตามบัญชี 170/2567 ที่ อส 0058(สก)/5618 ลงวันที่ 16 ตุลาคม 2566 และภายหลังของกลางได้ไม่ครบขาดเพียงพื้นที่ป่าเนื้อที่ 13 ไร่ 1 งาน 57 ตารางวา จำนวน 1 แปลง ไม้ประดู่ 8 ท่อน ไม้กอกกั๋น 4 ท่อน และไม้ท่อน 1 ท่อน ทั้งนี้ ข้อเท็จจริง เจ้าหน้าที่รัฐนั้น ต้องคืนทรัพย์สินของกลางตามบัญชี 170/2565 ทั้งหมด


นางกันจณา กล่าวอีกว่า เนื่องจาก นายสมคิด สุขจำนงค์ ไม่ได้มีความผิด ตามอธิบดีอัยการ ภาค 2 พิจารณาแล้ว จึงได้ฟ้องฐาน ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต จากพนักงานเจ้าหน้าที่, ก่อสร้าง แผ้ว ถาง เผาป่า หรือกระทำการด้วยประการใด ๆ อันเป็นการเสื่อมเสีย แก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ และอีกทั้งบริเวณที่เกิดเหตุมีหลักฐานใบจอง ซึ่งเป็นชื่อข้าพเจ้า นางกันจณา สามล เป็นผู้รับใบจอง นส 2 เลขที่ 138 และมีการรังวัด เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ก็มิได้โต้แย้งคัดค้านว่า พื้นที่เป็นป่าสงวนแต่อย่างใด ซึ่งข้าพเจ้าได้แสดงสิทธิ์มาโดยตลอด ตามการลงบันทึกประจำวันวันที่ 8 มิ.ย.65 (14.39 น.), วันที่ 8 พ.ย. 65 (11.27น.), วันที่ 29 ธ.ค. 65 (16.17 น.) ที่สถานีตำรวจภูธรคลองลึก จังหวัดสระแก้ว ซึ่งชัดเจนว่า ข้าพเจ้าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์


“ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงได้ทำหนังสือมาเพื่อขอความอนุเคราะห์ท่านให้ทาง ผกก.สภ.คลองลึก ช่วยดำเนินการติดตาม เนื่องจากข้าพเจ้าเกรงว่า จะไม่ได้รับความเป็นธรรม อีกทั้งเวลาเนิ่นนานไป จะทำให้ไม้ที่ถูกยึดไว้ ผุพัง เสื่อมมูลค่า และไม่ได้เข้าทำประโยชน์ใด ๆ ในพื้นที่ จึงเรียนมาเพื่อขอความอนุเคราะห์” นางกันจณา กล่าว หลังจากนั้นได้ยื่นหนังสือดังกล่าวไปทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองลึก ต่อไป โดยนางกันจณา ระบุด้วยว่า เตรียมแจ้งความดำเนินคดีอาญา ม.157 กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ สำหรับกรณีนี้ด้วยเช่นกัน


—————————-

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"