สระแก้ว – จับยาบ้าล๊อตใหญ่ 110,000 เม็ด มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท เครือข่ายบอสฯ ชลบุรี ร่วมกับผู้ต้องหาในคุก ขับรถทะเบียนปลอมนำยามาส่งที่ จ.สระแก้ว ถูกรวบหน้าโรงพยาบาลและถือเป็นการจับยาเสพติดครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปี
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 9 ม.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เปิดแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดให้โทษจำนวนมาก ร่วมกับ พ.อ.เฉลิม เนียมช่วย รอง ผอ.ก.รมน.สระแก้ว ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว มณฑลทหารบกที่ 19 และกองกำลังบูรพา ภายหลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กองกำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เข้าทำการจับกุม น.ส.อุมาพร หรือไหม สอาดสิทธิ์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 132/1 ม.9 ต.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จว.สระแก้ว ,น.ส.สมหมาย หรือ ยุ้ย สอาดสิทธิ์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 217/5 ม.7 ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ,นางวรรณนิภา หรือ วรรณ ศรพุฒ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/1 ม.8 ต.หนองพะยอม อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร และ นายมารุต หรือ น๊อต มาลา อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 624 ม.7 ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี
พล.ต.ต.สุรจิต กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตั้งข้อหากับผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 4 (เมทเอมเฟตามีน)ไว้ในความครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฏหมาย และสามารถยึดของกลางยาบ้าได้ จำนวน 110,000 เม็ด มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท บรรจุไว้ในกระสอบปุ๋ย 4 ถุง และกระสอบสีขาวอีก 1 ถุง ซุกซ่อนภายในรถยนต์เก๋งยี่ห้อซูซุกิ สีดำ จำนวน 1 คัน พร้อมกับโทรศัพท์มือถือ อีกจำนวน 4 เครื่อง ได้ที่บริเวณทางออกประตูหน้าโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ต.สระขวัญ อ.เมืองสระแก้ว
โดยเป็นเครือข่ายของนายบอส ไม่ทราบนามสกุลจริง ที่ติดต่อผ่านสามีของ น.ส.อุมาพร ผู้ต้องหาที่อยู่ในคุก จ.ชลบุรี ให้นำรถไปจอดรับยาตามจุดนัดหมายและทิ้งกุญแจไว้ในรถยนต์ ก่อนจะมีคนนำยาเสพติดมาใส่ในรถ เพื่อให้ขับรถยนต์คันดังกล่าวเอายามาส่งให้กลุ่มลูกค้าในจังหวัดสระแก้ว กระทั่งถูกตำรวจจับกุม และถือว่าเป็นการจับยาเสพติดล๊อตใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปี และที่ผ่านมา จ.สระแก้วยังไม่ถือว่าเป็นแหล่งพักยามาก่อน
พ.อ.เฉลิม เนียมช่วย รอง ผอ.กอ.รมน.สระแก้ว กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนของนายพรพจน์ เพ็ญพาส ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว มีนโยบายจะใช้การบูรณาร่วมกันระหว่าง ฝ่ายทหาร ตำรวจ และพลเรือน ร้อย รส. มณฑลทหารบกที่ 19 และกองกำลังบูรพา เพื่อการทำงานร่วมกันอย่างสัมฤทธิ์ผล ส่วนนายมารุต หนึ่งในผู้ต้องหา บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นญาติกัน เจ้าของรถเป็นพี่สาวหลอกชวนมาเที่ยว ไม่รู้ว่าในรถมียาเสพติด ถ้ารู้คงไม่มาด้วย พร้อมกับร้องไห้โฮด้วยกันรวม 3 คน
