สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ กสทช.ลงพื้นที่ชายแดนตลาดโรงเกลือและพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ตรวจสอบเสาโทรศัพท์และชุมสายอินเตอร์เน็ตพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ป้องกันการลักลอบเชื่อมเครือข่ายและสัญญาณอินเตอร์เนตไปฝั่งกัมพูชา ด้วยรถเครื่องมือพิเศษ พบเสาสัญญาณโทรศัพท์ ที่มีพื้นที่ครอบคลุมสัญญาณไปยังประเทศกัมพูชา และเสาสัญญาณยังหันไปยังฝั่งกัมพูชาอยู่ เตรียมเรียกบริษัทคู่ค้าปลุดอุปกรณ์กระจายสัญญาณ
เมื่อวันที่ 24 พ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. นำโดย นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ กสทช. พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ กสทช. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังบูรพา ,เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 , เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการข่าวกองทัพภาคที่ 1, เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบเสาสัญญาณโทรศัพท์และชุมสายนำสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่บริเวณพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว จำนวน 4 จุด เพื่อสอบเสาสัญญาณและการเชื่อมอินเตอร์เนตลักลอบข้ามแดนไปยังกัมพูชา
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว ได้เข้าตรวจสอบจุดแรกที่บริเวณตลาดผลไม้ ตลาดโรงเกลือ ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พิกัด TA35081208 ต่อด้วยจุดที่ 2 ที่บริเวณตลาดเบญจวรรณ ใกล้กับตลาดโรงเกลือ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว พิกัด TA35081208 ,จุดที่ 3 ที่บริเวณด่านพรมแดนไทย-กัมพูชา ด้านหลังสถานีรถไฟบ้านคลองลึก ด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก-ปอยเปต ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ที่พิกัด TA34861171 และจุดที่ 4 บริเวณใกล้จุดตรวจ อ.24 บ้านวังมน ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ที่่พิกัด TA36110964 ด้วยรถเครื่องมือพิเศษ ของ กสทช.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ กสทช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังกล่าว ด้วยรถเครื่องมือพิเศษ สามารถตรวจพบเสาสัญญาณโทรศัพท์ ที่มีพื้นที่ครอบคลุมสัญญาณไปยังประเทศกัมพูชา และเสาสัญญาณยังหันไปยังฝั่งกัมพูชาอยู่ ซึ่งหลังตรวจพบดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ กสทช. อยู่ระหว่างตรวจสอบใบอนุญาต และจะดำเนินการเรียกให้ผู้ให้บริการ มาดำเนินการปลดอุปกรณ์กระจายสัญญาณ และในการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ นท.กสทช.แจ้งว่า ชุมสายอินเทอร์เน็ตแต่ละเครือข่ายจะต้องมีคู่ค้าทางฝั่งกัมพูชาและจะต้องได้รับอนุญาตจาก กสทช.
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ทาง กสทช.จะต้องดูว่า เสาสัญญาณการเชื่อมต่ออินเตอร์เนตนั้น คู่ค้าคือใคร และถ้าคู่ค้าจะขอต่ออินเทอร์เน็ตไปยังฝั่งกัมพูชา ต้องให้ขอต่อชุมสายอยู่ในบริเวณเดียวกันของทุกเครือข่าย เพื่อเจ้าหน้าที่ กสทช. จะสามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้น และจะต้องตรวจสอบทางฝั่งกัมพูชา ว่าเอาอินเทอร์เน็ตที่ต่อจาก กสทช.ในฝั่งไทย ไปใช้ประโยชน์อะไรบ้าง และถ้ามีการลักลอบต่อข้ามฝั่งไปยังประเทศกัมพูชา ก็จะรวบรวมข้อมูลและแจ้งความ เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสอบสวนขยายผลและดำเนินคดีตามกฎหมาย และหลังจากนี้ต่อไป ทางเจ้าหน้าที่ กสทช. จะมีการเข้มงวดในการใช้อินเทอร์เน็ตทั้งทางฝั่งไทยและฝั่งกัมพูชา ถ้ายังมีการลักลอบ ก็จะดำเนินการตัดสายและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
——————————–
