X

สระแก้ว จับชาวอินโดนีเซีย ขนเงินเกิน 450,000 บาทเข้าไทยกว่า 1 ล้านบาท

สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ประจำด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ร่วมกันจับกุมชาวอินโดนีเซีย ขนเงินเกิน 450,000 บาทเข้าไทย จำนวนกว่า 1 ล้านบาท 

เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ ฉก.ร.12 โดยมีเจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 1302 ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 13 จัดกำลังพล ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ศุลกากรอรัญประเทศ และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว เข้าตรวจสอบบริเวณช่องตรวจสัมภาระผู้โดยสารขาเข้า ด่านพรมแดน บ.คลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยตรวจพบ MR.EDDY (นายเอ็ดดี้) สัญชาติอินโดนีเซีย หนังสือเดินทาง PASSPORT อินโดนีเซีย เลขที่ X2496042 สะพายกระเป๋าสีดำ เดินผ่านลักษณะมีพิรุธ จึงได้เรียกตรวจสอบ


ทั้งนี้ จากการขอทำการตรวจค้นภายในกระเป๋าสีดำของ MR.EDDY ผลการตรวจค้นพบ เงินตราไทย ธนบัตร 1,000 บาท จำนวน 3 มัด มัดที่ 1 จำนวน 200 ใบ เป็นเงิน 200,000 บาท, มัดที่ 2 จำนวน 100 ใบ เป็นเงิน 100,000 บาท ,มัดที่ 3 จำนวน 80,000 บาท รวมเป็นเงิน 380,000 และเงินตราต่างประเทศ ดอลลาร์สหรัฐ ธนบัตร 100 ดอลลาร์สหรัฐ จำนวน 2 มัด มัดที่ 1 จำนวน 150 ใบ เป็นเงิน 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 540,000 บาท, มัดที่ 2 จำนวน 31 ใบ เป็นเงิน 3,100 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 111,600 บาท รวมเป็นเงิน 18,100 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 651,600 บาท รวมทั้งหมด 1,191,600 บาท


อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งให้กับ MR.EDDY ทราบว่า การนำเงินตราติดตัวเข้ามาในราชอาณาจักรไทยเกิน 450,000 บาท โดยไม่แจ้งรายการเกี่ยวกับเงินตราต่อพนักงานศุลกากร ขณะนำเดินทางผ่านด่านพรมแดนฯ ถือว่า ผิดกฎหมาย จึงยึดเงินดังกล่าว พร้อมนำตัว  MR.EDDY ผู้ต้องหา ส่งด่านศุลกากรอรัญประเทศ เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป


—————————
ภาพ/กกล.บูรพา

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"