สระแก้ว – สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว แนะคนไทยที่เจ็บป่วยในปอยเปต หากต้องการกลับไปรักษาตัวในไทย ให้ติดต่อศูนย์ส่งต่อผู้ป่วยใน รพ.ปอยเปต หรือหากใช้เครือข่ายไทยได้ ให้ติดต่อผ่าน 1669 หลังตกเป็นข่าวไม่ใช่เหลือคนไทยในปอยเปตเมื่อสัปดาห์ก่อน
เมื่อวันที่ 25 ก.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีคนไทยที่ไปทำงานในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ได้รับการปฎิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ไร้มนุษยธรรม จากสถานพยาบาลเอกชน กรณีเจ็บป่วยหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน ด้วยการเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลที่สูงลิ่ว อาทิเช่น ค่านอนดูอาการ 3,000 บาท, ค่าให้น้ำเกลือกระปุกละ 7,000 บาท,ค่านอนดูอาการระหว่างการเจ็บท้องคลอด โดยไม่ได้รับการดูแลใด ๆ รวม 12,000 บาท, ค่าทำคลอดโดยใช้หมอพื้นบ้าน 8,000 บาท รวมทั้งการดูแลรักษา ที่ไม่ได้มาตรฐานทางการแพทย์
“ทั้งนี้ หากไม่สามารถเดินข้ามพรมแดนเข้ามายังประเทศไทยได้ ยังต้องจ่ายค่าวีลแชร์ อีก 500 บาท ทั้ง ๆ ที่มีการจัดตั้งศูนย์ส่งต่อผู้ป่วยระหว่าง อรัญประเทศ-บันเตียเมียนเจย แต่ศูนย์ดังกล่าว จะเอื้อประโยชน์สำหรับชาวเขมร ที่ถูกส่งตัวมารักษาตัวยังโรงพยาลอรัญประเทศ เสียมากกว่า ในขณะที่คนไทยในปอยเปตแทบไม่ได้รับประโยชน์ใด ๆ จากโครงการดังกล่าวเลย”
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณีดังกล่าว นพ.ธราพงษ์ กัปโก นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ผู้ป่วยคนไทยในปอยเปตที่ต้องการใช้บริการของศูนย์ส่งต่อผู้ป่วย สามารถติดต่อประสานงาน ผ่านโรงพยาบาลในปอยเปตก่อน จากนั้น ข้อมูลของผู้ป่วยจะถูกบันทึกลงในระบบการส่งต่อผู้ป่วย และส่งต่อไปโรงพยาบาลอรัญประเทศ และหน่วยงานที่รับผิดชอบ บริเวณจุดผ่านแดนให้รับทราบ และอำนวยความสะดวกให้เดินทางผ่านแดนโดยรวดเร็วและปลอดภัยจนถึงโรงพยาบาล
อย่างไรก็ตาม นพ.สสจ.สระแก้ว กล่าวอีกว่า อีกช่องทางหนึ่งที่ผู้ป่วยคนไทยในปอยเปต ที่สามารถใช้เครือข่ายของไทยได้คือ โทรผ่าน 1669 เพื่อประสานไปยังศูนย์ส่งต่อผู้ป่วย ที่ตั้งอยู่ภายในโรงพยาบาลอรัญประเทศ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป สำหรับในอนาคตทาง สสจ.สระแก้ว กำลังคิดและออกแบบ เพื่อประชาสัมพันธ์ ให้คนไทยในกัมพูชา สามรถประสานงานกับทางศูนย์ส่งต่อได้สะดวกที่สุด ได้ที่ใหนและอย่างไร ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือคนไทยได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
—————————-
ข่าวโดย/สมยศ สินธุพันธ์ ทีมข่าวสระแก้ว
