สระแก้ว – กลุ่มผู้ประกอบการรถบรรทุก 6 ล้อ จำนวนเกือบ 40 คัน ชายแดน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว รวมตัวประท้วงกรมทางหลวงและตำรวจทางหลวงสระแก้วเลือกปฏิบัติ ดักจับกุมรถบรรทุกขนมันสำปะหลัง นำเข้าจากประเทศกัมพูชาไม่เป็นธรรม เรียกร้องให้นายอำเภอตาพระยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปแก้ปัญหาทันที
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 8 ส.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังมีการร้องเรียนว่า ถนนลาดยางสายจุดผ่อนปรนตาพระยา-บึงตะกวน ต.ทัพเสด็จ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ของ อบจ.สระแก้ว พังเสียหายเนื่องจากมีรถบรรทุกของผู้ประกอบการขนส่งมันสำปะหลังจากฝั่งประเทศกัมพูชา ฝ่ายจุดผ่อนปรนตาพระยาเข้ามยังประเทศไทย แบกน้้ำหนักจนถนนพังและมีชาวบ้านนำต้นมันสำปะหลังมาปลูกมันสำปะหลังเพื่อประชดหน่วยงาน จนกระทั่งตกเป็นข่าวทางสื่อสารมวลชน ส่งผลทำให้มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะตำรวจทางหลวงสระแก้วและกรมทางหลวง เข้ามากวดขันจับกุมผู้ประกอบการบริเวณถนนทางหลวงสาย 348 จนผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ทำให้ผู้ประกอบการ นำโดย นางพรรณนัฐ เฟื่องฟุ้ง ผู้ประกอบการรถบรรทุก 6 ล้อ ร่วมกับ นายอภิวัฒน์ เงินสมบัติ ,นายชอยศักดิ์ เทพเทศ ,นายยุทธพัฒน์ เพชรประเสริฐ และผู้ประกอบการรายอื่น ๆ นำรถบรรทุก 6 ล้อ จำนวนเกือบ 40 คัน พร้อมคนขับรถเกือบ 50 คน นำป้ายเขียนข้อความ ต่อว่าหน่วยงานกรมทางหลวงและตำรวจทางหลวงสระแก้ว ที่บริเวณตู้ป้อมตำรวจ สภ.ตาพระยา สี่แยกคลองแผง ก่อนถึงจุดผ่อนปรนตาพระยา หลังเข้าจับกุมรถบรรทุกแบบเลือกปฏิบัติในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการได้นำป้ายผ้าระบุข้อความว่า”เรียนถึงท่านอธิบดีกรมทางหลวง ลูกน้องท่านในพื้นที่ ไม่สะอาดเลยครับท่าน” , “พวกเราคนชายแดน ต้องทำมาหากินกับประเทศเพื่อนบ้าน พวกเราเคยดูแลพวกคุณ แล้วมาวันนี้ คน ทล.มาไล่จับพวกเรา เราเป็นอาชญากรหรือ ?” ,”พวกเราคือ ชาวบ้านหาเช้ากินค่ำ ต้องทำมาหากินเลี้ยงครอบครัว เรานำเข้าพืชเกษตรในเส้นทางจุดผ่อนปรนที่ถูกกฎหมาย อยากรู้ว่า จนท.ทล.รับงานใคร ?” ,”นายทุนรับซื้อมันนำเข้าในตาพระยา ออกมาสู้สิ..โว้ย”, “มีคนแจ้ง ถ้าไม่จับ ผมก็โดน 157 งั้น ทล.เรามาวัดอนาคตกันนะ” และ เสี่ย ต.ได้ขี้หมา เปิดหน้ามารับผิดชอบด้วย กับคน ทล.ชื่อ พ, ก ว่างัย” โดยหลังรวมตัวอยู่บริเวณแยกคลองแผงได้ประมาณ 1 ชม.ได้เคลื่อนรถบรรทุกและมวลชนทั้งหมด ออกมาจอดที่บริเวณสามแยกถนนทางหลวง 348 ตาพระยา-อรัญประเทศ เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานกรมทางหลวงและตำรวจทางหลวง เดินทางมาชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้น โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 111 ตชด.12 และตำรวจจราจร สภ.ตาพระยา เข้าไปอำนวยความสะดวก
หลังเกิดเหตุ นายสุนทร มูเนาวาเราะ นายอำเภอตาพระยา ได้มอบหมายให้ นายราชสีห์ โพนะตะ ปลัดอำเภอฝ่ายอำนวยความเป็นกลาง อำเภอตาพระยา เข้าชี้แจงกับกลุ่มผู้ประกอบการและคนขับรถบรรทุก 6 ล้อ เบื้องต้นไม่สามารถตกลงกันได้ กลุ่มผู้ประกอบการและชาวบ้านที่เดือดร้อนดังกล่าว ได้เดินเท้าพร้อมถือป้ายเรียกร้องฯ จากสามแยกถนนสาย 348-จุดผ่อนปรนตาพระยา ไปยังที่ว่าการอำเภอตาพระยา เพื่อให้ทางพ่อเมืองตาพระยา ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งนายสุนทรฯ ติดราชการต้องเข้าไปที่กระทรวงมหาไทย จึงให้ปลัดอำเภอฝ่ายอำนวยความเป็นกลาง อำเภอตาพระยา ร่วมกับ กำนันตำบลทัพเสด็จและผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ รับทราบความเดือดร้อน พร้อมกับระบุว่า ทางอำเภอจะรับทราบปัญหาของผู้ประกอบการใน 2 ประเด็นคือ เรียกผู้ประกอบการทั้งหมดมาพูดคุยเพื่อแก้ไขปัญหา รวมทั้งเชิญหน่วยงานของตำรวจทางหลวงหารือ โดยจะมีการนำเข้าที่ประชุมคณกรรมการบริหารงานอำเภอตาพระยา (กปอ.) ในวันพรุ่งนี้ (9 ส.ค.67) ซึ่งภายหลังทางอำเภอรับปากและอธิบายรายละเอียดว่า จะเป็นผู้ประสานงานเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจนเป็นที่พอใจของผู้ชุมชุมแล้ว จึงมีการสลายการชุมนุมในช่วงเวลาประมาณ 12.00 น.
นางพรรณนัฐ เฟื่องฟุ้ง อายุ 45 ปี ผู้ประกอบการรถบรรทุก 6 ล้อ ที่ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า คนที่ได้ผลประโยชน์คือนายทุน พอนายทุนทะเลาะกัน บางคนได้ของมาก บางคนได้ของน้อย ราคาสู้ไม่ได้ อีกคนได้ออเดอร์มากกว่า แต่ก่อนเค้าแบกน้ำหนักกันทุกพ่วง เมื่อทะเลาะกันก็หยุดแบกน้ำหนัก ผลลัพธ์จึงมาอยู่ที่พวกเราเป็นแพะ ซึ่งน้ำหนักตามข้อกฎหมายคือ 15 ตัน เจ้าหน้าที่บอกเราว่า ถ้าไม่ปฏิบัติก็จะผิดมาตรา 157 แต่สิ่งที่เราเรียกร้องตอนนี้คือ อยากให้ลานมันที่รับซื้อทั้งหมด มาจับมือคุยกันได้มั้ย อย่าทะเลาะกันได้มั้ย เพราะผลลัพธ์ที่พวกเราได้รับมันหนักหนาสาหัส โดนแต่ละครั้งไม่มีเงินที่จะไปวิ่งตรงนี้ แล้วต้องหวาดระแวงมากในแต่ละวันว่า จะเอาตัวรอดมั้ย เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเลือกปฏิบัติ กับเฉพาะพวกเรา 40 กว่าคัน แต่ไม่จับอีก 20 กว่าคัน ที่เป็นฝ่ายของผู้ประกอบการอื่น
“ปัญหาที่มีการนำชาวบ้านมาปลูกต้นมันสำปะหลังกลางถนน เป็นการสร้างภาพจัดฉากมา เพื่อให้เจ้าหน้าที่่มาจับชาวบ้าน ตำรวจทางหลวงอ้างว่า มีคนร้องฯ มีคนร้องเรียนมา ซึ่งต้องมีตัวตนว่า ใครร้อง ใครที่เสียผลประโยชน์ตรงนี้ให้เขามาคุยได้มั้ย ขอร้องให้หยุดได้มั้ย หยุดทำร้ายพวกเราได้มั้ย ทางหลวงอ้างทำตามหน้าที่อ้างว่า นายสั่งมา การร้องเรียนว่า ถนนพังนั้น เป็นการจัดฉาก คนที่เป็นพี่เป็นน้องก็ไปเรียกมาให้ 500 ไปถ่ายรูปก่อน แล้วนำเสนอข่าวออกไป เราต้องการให้ทุกฝ่ายมารับรู้มาแก้ไขร่วมกัน เพราะตอนนี้เราถูกจับแบบเลือกปฏิบัติจาก จนท.เพราะอีกกลุ่มของนายทุนประมาณ 20 คัน ไม่โดนจับ แต่รถของชาวบ้าน 30-40 คัน โดนจับทุกคัน
นายอภิวัฒน์ เงินสมบัติ อายุ 54 ปี ผู้ประกอบการชายอีกราย บอกว่า น้ำหนักที่เรานำมันสำปะหลังออกมาที่เป็นหัวสด 20ตัน 800 กก. เราก็ไม่ได้วิ่งเกินจากน้ำหนักที่ทางการอนุญาตให้เคลื่อนย้ายนำเข้ามาของศุลกากร แต่ปรากฏว่า กฎหมายของกรมทางหลวงกับศุลกากร น้ำหนักไม่เท่ากัน กรมทางหลวงเอาน้ำหนักไม่เกิน 28 ตัว รวมตัวรถ แต่เราวิ่งตามน้ำหนักของใบเคลื่อนย้าน เมื่อกฎหมายคนละฉบับกัน ทำให้ตำรวจทางหลวงหาช่องทางมาจับพวกเรา ทั้งที่ไม่ได้วิ่งเกินกว่าน้ำหนักที่ศุลกากรอนุญาตเลย ปัญหาเกิดจากนายทุนทะเลาะกันเองแล้ว ฝ่ายที่ได้ของน้อยเพราะไม่ซื้อเงินสด ก็ไปแจ้งให้ตำรวจให้มาจับพวกเรา
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ภายหลังเกิดกรณีปัญหาชาวบ้านและผู้ประกอบการดังกล่าวออกมารวมตัว เพื่อเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหานี้ โดยเฉพาะการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ที่มีการเลือกปฏิบัติอย่างชัดเจน ซึ่งไม่พบว่า มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานตำรวจทางหลวงและกรมทางหลวงเดินทางมารับเรื่องปัญหานี้แต่อย่างใด โดยชาวบ้านบอกว่า หากทางอำเภอรับเรื่องเพื่อเข้าไปดำเนินการแก้ไขกรณีนี้แล้ว ไม่ประสบผลสำเร็จ ชาวบ้านจะรวมตัวกันเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่า เพื่อกดดัน รวมทั้งเดินทางไปร้องเรียนที่จังหวัดและหน่วยงานต้นสังกัดของตำรวจทางหลวงที่เลือกปฏิบัติดังกล่าวต่อไป เนื่องจากมีหลักฐานการปฏิบัติไม่ถูกต้องของเจ้าหน้าที่ในช่วงที่ผ่านมาด้วย
—————————-
ข่าวโดย/ธนภัท กิจจาโกศล ,เด่นชัย วิสุทธิ์วุฒิพงษ์ ทีมข่าวสระแก้ว
