X

ค้นหาตัวป้าหลงป่าเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (ขญ.9) พลัดหลงป่าขณะไปหาของป่ากับเพื่อนบ้าน

ปราจีนบุรี – เจ้าหน้าที่เร่งหาตัวป้าหลงป่าเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (ขญ.9) พลัดหลงป่าขณะไปหาของป่ากับเพื่อนบ้าน ล่าสุด พบตัวแล้ว 

ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจาก นายสมชาย แก้วดวงใจ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ต.สัมพันตา อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ว่ามีลูกบ้านออกไปหาของป่าในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (ขญ.9) พลัดหลงป่าขณะไปหาของป่ากับเพื่อนบ้าน โดยทั้งสองออกจากบ้านเพื่อที่จะไปหาของป่ากัน ซึ่งพื้นที่ที่พัดหลงป่าห่างจากหมู่บ้าน 2 กม. ทราบว่าพวกที่สูญหายชื่อ ป้ากองหนุน เจริญภูมี อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 340 หมู่ที่ 7 ต.สัมพันตา อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี


นายไพศาล เจริญภูมี สามี กล่าวว่า ภรรยากับเพื่อนบ้านได้ออกไปหาของป่า ที่ผ่านมาภรรยาและเพื่อนบ้านมักจะออกไปหาของป่า เก็บเห็ด ยอดหวาย มาประกอบอาหารในครัวเรือน กระทั่งเวลา 17.00 น. นายเหมียน นาเสาร์ เพื่อนบ้าน ได้ไปบอกสามีว่า นางกองหนุน เจริญภูมี ได้พลัดหลงกับตนเองและได้ตะโกนเรียกหาในป่า แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงตัดสินใจเดินออกมาบอกกับทางบ้านให้แจ้งผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจะพุทธธรรมกบินทร์บุรี เพื่อติดตามค้นหา โดยจะใช้โดรนจับความร้อนบินสำรวจช่วยเหลือ


นายสมชาย แก้วดวงใจ ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่าลูกบ้านได้พลัดหลงกัน ขณะหาของป่า จึงได้ประสานทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และขอกำลังอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจะพุทธธรรมกบินทร์บุรี มาช่วยค้นหา ขณะเกิดเหตุได้โทรศัพท์ติดต่อกับนางกองหนุนได้เป็นระยะ ๆ เนื่องจากไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือเพราะเป็นจุดอับ และผู้สูญหายได้ติดต่อกลับมาว่า ตอนนี้หลงป่าอยู่ใกล้ทางน้ำไหล จึงได้บอกกลับไปว่า ให้ก่อไฟเพื่อให้มีแสงสว่าง โดยได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ว่า จุดที่รับสัญญาณโทรศัพท์ได้มีอยู่ที่จุดเดียว ซึ่งอยู่ที่คลองมะไฟหวาน อยู่ในป่าห่างจากชายเขาเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถติดต่อและออกติดตามผู้สูญหายได้ อยู่ระหว่างการวางแผนที่จะเข้าไปค้นหาช่วยเหลือผู้สูญหาย


กระทั่ง เวลา 02.30 น.อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจะพุทธธรรมกบินทร์บุรี นำโดรนจับความร้อนบินสำรวจค้นหาครึ่งชั่วโมง โดยจับความร้อนจับพิกัดได้ห่างจากจุดขึ้นบินระยะทาง 450 เมตร เจ้าหน้าที่ป่าไม้และกู้ภัยฯ 10 นาย เดินเท้าเข้าไปยังจุดต้องสงสัย หากพบผู้พัดหลงป่าจะได้ลำตัวเดินออกมาปฐมพยาบาลด้านนอก โดยมีสามีร่วมเดินเท้าเข้าไปค้นหาด้วย กระทั่งเวลา 03.39 น. ทีมค้นหาได้ถอนกำลังออกมาด้านนอกและยุติการค้นหาเนื่องจากไม่พบตัว และจะได้วางแผนการค้นหาอีกครั้งหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังจะวางแผนเดินเท้าหาตัวป้ากองหนุน ปรากฏว่า มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินโซเซออกจากป่ามาบังถนนลูกรัง จึงพากันวิ่งเข้าไปสอบถามหญิงคนดังกล่าว ซึ่งหญิงคนดังกล่าวอยู่ในสภาพอิดโรย บอกว่า เป็นป้ากองหนุน เจริญภูมี สร้างความดีใจให้กับทีมค้นหาเป็นอย่างมาก และเจ้าตัวรู้สึกดีใจที่ออกมาจากป่าได้


ป้ากองหนุน กล่าวว่า ช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา ตนเองได้ก่อไฟผิงอยู่ข้างคลอง วังแคน ช่วงเวลานี้หลับ ๆ ตื่น ๆ ยังสับสนคิดไม่ออกกระทั่งประมาณ 08.00 น.รวบรวมพลังตัดสินใจเดินออกจากจุดที่นอน ออกมาจากป่าด้านนอก และมีเจ้าหน้าที่ได้พบเห็น จึงช่วยกันพยุงมานั่งพักและได้ตรวจสุขภาพ เบื้องต้นโดยวัดความดัน ซึ่งค่าความดันปกติ ไม่มีไข้ ทางผู้ใหญ่บ้านและญาติจึงแนะนำว่า ให้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลนาดีต่อไป


สำหรับสาเหตุที่พัดหลงในป่า เกิดจากเดินข้ามเครือเถาวัลย์เทาสาวหลงตามความเชื่อของชาวบ้านนะในละแวกนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า เมื่อหลายปีที่ผ่านมา เกิดเหตุมีคนพลัดหลงในป่าลักษณะนี้ 2 ราย โดยรายแรก นายมนตรี ขอสงวนนามสกุล ได้หายตัวลึกลับไป ดูหนังกลางแปลงที่หมู่บ้านใกล้กันเรื่องแม่นาคพระโขนง และหายไป 7 วัน จึงพบตัวในสภาพเปลือยกาย อยู่บริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ รายที่ 2 ยายปลา ขอสงวนนามสกุล ได้พลัดหลงป่า เป็นเวลา 3 วัน จึงพบตัว หลังจากที่พบตัวป้ากองหนุน เจริญภูมี เจ้าตัวและสามี กล่าวขอบคุณผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยสัจจะพุทธธรรมกบินทร์บุรี พร้อมชาวบ้านทุกคน ที่ออกติดตามค้นหาจนพบตัว


—————————–
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"