ปราจีนบุรี – เจ้าของบ้านพบเต่าตัวใหญ่มาขอจำศีลอยู่บ้านวันออกพรรษา แล้วก็จะหายไปถึงช่วงเข้าพรรษาปีต่อไป ก็จะมาอยู่ที่บ้านใหม่อีก เต่าตัวดังกล่าวตัวใหญ่มาก เจ้าของบ้านเชื่อ อาจเป็นบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วมาขออยู่ด้วย
เมื่อวันที่ 14 ส.ค.67 ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรี รายงานว่า เจ้าของบ้านพบเต่าตัวใหญ่มาขอจำศีลอยู่บ้านวันออกพรรษา เต่าตัวใหญ่ก็จะหายไปถึงช่วงเข้าพรรษาปีต่อไป ก็จะมาอยู่ที่บ้านใหม่อีก เต่าตัวดังกล่าวตัวใหญ่มาก เจ้าของบ้านเชื่อ อาจเป็นบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วมาขออยู่ด้วย จึงเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 137 ม.9 ต.นนทรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้พบกับเจ้าของบ้าน พบเป็นบ้านปูนยกพื้นสูง 2 เมตร ปลูกอยู่ติดกับทุ่งนาติดกับบ้าน
คุณพิทยา มาขน เจ้าของบ้าน เล่าว่า เมื่อก่อนเข้าพรรษา พ.ศ.2564 ขณะที่กำลังยืนอยู่ที่ระเบียงข้างบ้าน พบเต่าตัวใหญ่มาวนเวียน ตอนแรกคิดว่า คงมากับน้ำเพราะเวลาฝนตก น้ำจะหลากเข้าทุ่งนา แต่เต่ายังวนเวียนอยู่ใต้ถุนบ้านและให้กินกล้วยน้ำหว้า เต่าก็กินกล้วย กินเสร็จก็จะเข้าไปอาศัยอยู่ใต้ถุนบ้าน ซึ่งคนในบ้านก็ไม่ได้รบกวนเต่าตัวนี้แต่อย่างใด และวันต่อมา ได้จับเต่าตัวนี้ช่างกิโลน้ำหนักได้ 7.3 ขีด และที่หน้าประหลาดใจเต่าตัวนี้จะมาก่อนวันเข้าพรรษา 1 วัน และจะไปจากใต้ถุนบ้านมันออกพรรษาพอดีจะเป็นแบบนี้ทุกปี ปีที่ 2 เต่าตัวนี้ก็จะมาที่บ้านหลังนี้ก่อนเข้าพรรษา 1 วัน และจับชั่งกิโลมีน้ำหนัก 7.8 ขีด ปีที่ 3 จับช่างได้ 8.8 ขีด
ปีนี้ยังไม่ให้จับตัวขึ้นมาชั่งน้ำหนัก ถ้าเต่าจะให้จับตัว หรือจะกินกล้วยจะเรียกบอกว่า “เต่า…มานี่เลยมากินกล้วย”เต่าก็จะลอยขึ้นมาเหนือน้ำคาบกล้วยลงไปกิน การกินกล้วยแต่ละครั้งจะกิน6-8ลูก กินเสร็จก็จะไปอาศัยอยู่ใต้ถุนบ้าน ไม่มีใครเห็นตัว ถึงเวลาก็จะลอยออกมาให้เห็นตัว คนเฒ่าคนแก่บอกว่าอาจเป็นบรรพบุรุษ ที่เสียชีวิตไปแล้วมาขออาศัยอยู่ด้วย ซึ่งที่ผ่านมา อาจขึ้นอยู่ดวงว่าจะมีโชคลาภหรือไม่ ทุกคนในบ้านใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุข งวดนี้อาจจะเสี่ยงดวงซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล 137 และ788
—————————-
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์
