สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองตำบลพระเพลิง “ทีมหมูหลุม” อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว บุกรวบ “บังโจ” ขาใหญ่ ท่าผักชี พ่อค้ายาเสพติดในพื้นที่ตำบลพระเพลิง หลังได้รับการร้องเรียนและถูกซัดทอดว่าเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่
เมื่อวันที่ 17 ส.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ ตำบลพระเพลิง “ทีมหมูหลุม” ต.พระเพลิง อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว โดยการอำนวยการและสั่งการของ นายสมใจ พุทธเสนา นายอำเภอเขาฉกรรจ์ และ พ.ต.อ.เข็มชาติ สุวะศรี ผกก.สภ.เขาฉกรรจ์ สั่งการให้ นายศตวรรษ สมจิตร์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ,นายสมชาย ท่าใหญ่ กำนันตำบลพระเพลิง ,นายพลวัตร โพธิ์จักร ผรส.ม.10, นายสกล พันทอง ,นายทองแดง แก้วศิลชัย ผรส.ม.14 นายบุญช่วย เหงี่ยมสำโรง ผรส.ม.4 นายสัญจกร โพธิ์คำ ผรส.ม.11 ,นายสมศักดิ์ พงษ์เกษม ผรส.15, นายกิตินันท์ ชาวสวน ผรส.ม.6 ,นายสุรเชษฐ์ เกษนาค ผรส.ม.7,นายสัญญา ปาปะเก ผรส.8 ,นายทองสูน ไทยอาสา ผรส.2 ,นายสมชาย แย้มศรี ผรส.12 ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายสุธาวี เพียรขุนทด หรือ “บังโจ” ขาใหญ่ท่าผักชี อายุ 31 ปี พร้อมด้วยของกลาง พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ชนิดกลม/แบน เม็ดสีแดงมีตัวอักษร WY บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีน้ำเงิน จำนวน 60 เม็ด ,โทรศัพท์มือถือรุ่น VIVO สีน้ำเงิน-ดำ 1 เครื่อง โดยตั้งข้อกล่าวหาว่า กระทำผิดฐานจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ สำหรับพฤติการณ์ของนายสุธาวีภายหลังชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองตำบลพระเพลิง ลาดตระเวนในพื้นที่ ต.พระเพลิง อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ในเวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ฯได้ ผ่านหน้าร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ หมู่ที่ 16 ต.พระเพลิง อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว พบนายสุธาวี หรือบังโจ เพียรขุนทด นั่งอยู่บนเปล ท่าทางมีพิรุธ และมีพฤติการณ์พยายามจะหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว เพื่อขอเข้าพูดคุยกับนายสุธาวี ซึ่งก่อนหน้านี้ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองตำบลพระเพลิงได้ทำการจับกุม นายกิตติกร พุฒแถลง ถูกจับในคดีมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติด (ยาบ้า) ตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน ที่ผ่านมา และนายกิตติกรฯ เคยให้การซัดทอดไว้ว่า ยาเสพติดที่อยู่กับตนเป็นของนายสุธาวี หรือบังโจ เพียรขุนทด เมื่อเจ้าหน้าที่พบนายสุธาวี เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อขอเข้าพูดคุยกับนายสุธาวี แต่นายสุธาวี มีพฤติการณ์ต้องสงสัย และพยายามจะหลบหนี โดยนายสุธาวีฯ ได้ลุกขึ้นจากเปลและกำสิ่งของบ้างอย่างที่มือข้างซ้าย เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวและสอบถามนายสุธาวี กำลังจะไปไหน และในมือถือกำอะไรอยู่ นายสุธาวีฯ ไม่ตอบและทำท่าจะวิ่ง เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนายสุธาวีฯ ไว้
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ระหว่างควบคุมตัว นายสุธาวีได้โยนสิ่งของบางอย่างที่อยู่ในมือข้างซ้ายทิ้ง ในบริเวณที่เกิดเหตุ หลังจากเจ้าหน้าที่ฯ ควบคุมตัวนายสุธาวี ไว้ได้ เจ้าหน้าที่ได้เดินไปตรวจสอบสิ่งของที่นายสุธาวี โยนทิ้งระหว่างถูกควบคุมตัว พบถุงพลาสติกสีน้ำเงิน 1 ถุง ภายในบรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท ๑1เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ชนิดกลม/แบน เม็ดสีแดงมีตัวอักษร WY จำนวน 60 เม็ด ซึ่งนายสุธาวี ได้ยอมรับว่า ยาเสพติด เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) เป็นของตน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาเบื้องต้นว่า นายสุธาวีถูกจับกุมในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ไว้ในครอบครอง “โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย” จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนายสุธาวีไปยังที่ว่าการอำเภอเขาฉกรรจ์ เพื่อทำบันทึกจับกุม และขอทำการเก็บตัวอย่างปัสสาวะเพื่อตรวจสอบสารเสพติด โดยสุธาวียินยอมให้ตรวจโดยสมัครใจ ผลการตรวจปัสสาวะนายสุธาวีเบื้องต้น ผลเป็นบวก จึงได้เก็บตัวอย่างปัสสาวะของนายสุธาวี นำส่งโรงพยาบาลเขาฉกรรจ์ เพื่อยืนยันผล ซึ่งผลการตรวจปัสสาวะจากโรงพยาบาลเขาฉกรรจ์ พบสารเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะของนายสุธาวี จริง เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมให้นายสุธาวี ว่ากระทำความผิดฐาน “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย
ต่อมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองชุดจับกุม ได้ขอตรวจข้อมูลโทรศัพท์มือถือรุ่น VIVO สีน้ำเงิน-ดำ ซึ่งนายสุธาวีฯ ให้การยินยอม ภายในโทรศัพท์ดังกล่าว พบแชทการซื้อขายยาเสพติด (ยาบ้า) เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้ทำการเก็บหลักฐานไว้ประกอบบันทึกจับกุม ระหว่างเก็บหลักฐานภายในโทรศัพท์ฯ ปรากฏว่า ข้อมูลการติดต่อซื้อขายได้หายไป จึงได้สอบถามนายสุธาวีว่าได้เข้าระบบเมสเซนเจอร์เฟสบุ๊คไว้ที่ใดบ้าง นายสุธาวีตอบว่า ได้เข้าระบบเมสเซนเจอร์เฟสบุ๊ค ไว้ที่โทรศัพท์หลายเครื่อง และบางเครื่องก็ขายไปแล้ว ซึ่งหนึ่งในนั้นมี นางกัญญาภัสร หรือมิน ภรรยาของนายสุธาวีฯ เข้าระบบไว้คอยตรวจสอบพฤติกรรมชู้สาวของนายสุธาวี ด้วย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งสิทธิให้ผู้ถูกจับทราบด้วยว่า ผู้ถูกจับมีสิทธิที่จะไม่ให้การหรือให้การก็ได้ และถ้อยคำของผู้ถูกจับนั้น อาจใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้ และมีสิทธิที่จะพบหรือปรึกษาทนายความ หรือผู้ซึ่งจะเป็นทนายความได้ ถ้าผู้ถูกจับประสงค์จะแจ้งให้ญาติ หรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจทราบถึงการจับกุมที่สามารถดำเนินการได้โดยสะดวก และไม่เป็นการขัดขวางการจับหรือการควบคุมผู้ถูกจับ หรือทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยแก่บุคคลหนึ่งบุคลใด เจ้าพนักงานสามารถอนุญาตให้ผู้ถูกจับดำเนินการได้ตามสมควรแก่กรณี หลังจากนายสุธาวีรับทราบข้อกล่าวหา และสิทธิของผู้ถูกจับดังกล่าวข้างต้นฯ แล้ว นายสุธาวี ให้การยอมรับสารภาพทุกข้ากล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงนำตัวนายสุธาวี พร้อมของกลางทั้งหมด ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เขาฉกรรจ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
—————————–
ภาพโดย/ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองตำบลพระเพลิง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: