สระแก้ว – ทางการกัมพูชาส่งตัว 26 คนไทยที่ถูกจับกุมคดีคอลเซ็นเตอร์ให้ประเทศไทย หลังศาลกรุงพนมเปญพิพากษาจำคุกคนละ 2 ปี และถูกจำคุกแล้ว 10 เดือน เหยื่อระบุ นายจ้างอ้างว่าจะให้เงินเดือน 30,000 บาท ทำมาได้ 3 เดือน ได้เงินเดือนแรกแค่ 15,000 บาทและทุกคนไม่ได้เงินเดือนเหมือนกัน
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 22 ธ.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองสระแก้ว ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจภูธรภาค 2 และพนักงานสอบสวน สน.ร่มเกล้า ได้เดินทางมารับตัวคนไทย จำนวน 26 คน ที่บริเวณด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จากทางการประเทศกัมพูชา นำโดย พล.ต.ต.รุณ โสวรรณา ผอ.ฝ่ายสืบสวนและดำเนินการตามกฎหมาย ตรวจคนเข้าเมืองราชอาณาจักรกัมพูชา ในคดีคอลเซ็นเตอร์ 25 คน และแม่บ้านหญิงไทยอีก 1 คน ภายหลังถูกจับกุมเมื่อวันที่ 16 ก.พ.61 ที่บ้านเช่าในกรุงพนมเปญที่ใช้เป็นสถานที่กระทำความผิด โดยศาลกรุงพนมเปญตัดสินจำคุกคนละ 2 ปี ฐานกระทำผิดคดีอาญาทั้งหมด 9 กระทง และถูกจำคุกในกัมพูชาแล้ว เป็นเวลา 10 เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ตำรวจภูธรภาค 2 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว กวดขันตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายหลังจัดตั้งศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยได้ประสานร่วมมือกับทางการราชอาณาจักรกัมพูชา ในการจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับคดีคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 25 ราย ในกัมพูชา และต่อมาทางการราชอาณาจักรกัมพูชาได้แจ้งการส่งตัวผู้ต้องหาให้กับตำรวจไทยในวันนี้
พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองสระแก้ว ได้กล่าวแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่กัมพูชาและจับมือร่วมกับ พล.ต.ต.รุณ โสวรรณา ผอ.ฝ่ายสืบสวนและดำเนินการตามกฎหมาย ตรวจคนเข้าเมืองกัมพูชา ในการประสานความร่วมมือสำหรับการส่งตัวผู้ต้องหาครั้งนี้ และกล่าวว่า หลังนำผู้ต้องหาทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการแจ้งข้อกล่าวหาเสร็จสิ้น ก็จะนำผู้ต้องหาเข้ากรุงเทพฯ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อ พร้อมกันนี้ พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว มอบหมายให้ พ.ต.อ.ผดุงศักดิ์ รักษาสุข รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ลงพื้นที่ดูแลการสอบสวนผู้ต้องหาด้วย
ทั้งนี้ ภายหลังนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด เข้าสู่กระบวนการตรวจคนเข้าเมืองบริเวณด่านชายแดน ท่ามกลางชาวกัมพูชากว่า 200 คน ที่มารอดูการส่งตัวครั้งนี้ พร้อมทั้งนำตัวไปสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาต่อ ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 ค่ายเจ้าพระยาราชสุภาวดี อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ พร้อมอาวุธครบมือ ดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งภายหลังนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 25 คนไปสอบสวนและลงบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาเดินทางด้วยรถควบคุมผู้ต้องหา จำนวน 5 คัน เข้ากรุงเทพฯเพื่อส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ร่มเกล้า ท้องที่เกิดเหตุ สอบสวนเพิ่มเติมและดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทางด้าน น.ส.กรชวัล คำนำ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในคดีดังกล่าว เปิดเผยว่า อยู่ที่กัมพูชาลำบาก จะเดินทางกลับก็กลับไม่ได้ ถูกให้มาทำงาน โดนด่า ซึ่งตอนแรกบอกว่า จะให้เงินเดือน ๆ ละ 30,000 บาทและถ้าทำยอดแตกจะได้เงินเพิ่ม แต่ตนไม่เคยทำยอดได้เลย ลูกค้าไม่ค่อยจะเชื่อ ส่วนมากจะเจอลูกค้าด่ามากกว่า ตอนอยู่ที่กัมพูชาก็จะมีแม่บ้านคอยหุงข้าวทำกับข้าวให้กิน ซึ่งตนทำได้แค่ 3 เดือนกว่า แต่ได้รับเงินเดือนมาแค่ 15,000 บาทในเดือนแรก ซึ่งทุกคนก็เจอแบบนี้หมด
