สระแก้ว – ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว สั่ง สพม.สระแก้วและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เยียวยาหญิงสาวสอบคัดสรรพนักงานราชการครูได้ที่่ 1 แล้วชื่อหายไป หลังลาออกจากงาน ญาติและผู้นำหมู่บ้านระบุ กลัวหลานคิดสั้น ยืนยันต้องมีการเยียวยาเพื่อให้มีงานทำ จนมีการพูดคุยได้ข้อสรุปจะให้ทำงานในอาชีพครูอัตราจ้างในพื้นที่ไปก่อน ปีหน้าค่อยสอบใหม่ คาดสัปดาห์หน้าจะกลับมาอยู่ที่บ้านใน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว
เมื่อวันที่ 14 ก.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีสาวเข้าสอบคัดเลือกสรรหาและเลือกสรรพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่ง ครูผู้สอน สาขาวิชาเอกวิทยาศาสตร์ทั่วไป ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว เพื่อเป็นครูในโรงเรียนพื้นที่ จ.สระแก้ว ซึ่งมีชื่อสอบได้ที่ 1 แต่ปรากฏว่า หลังจากนั้นชื่อหายไป หลังจากมีการลาออกจากงานในตำแหน่งครูอัตราจ้างในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อมาทำงานในตำแหน่งครูในพื้้นที่บ้านเกิด จ.สระแก้ว จนทำให้เกิดกระแสดังในโซเชียลและข่าวทางสื่อมวลชน
โดยทาง สพม.สระแก้ว ยอมรับว่า เกิดจากความผิดพลาดในกระบวนการสอบคัดเลือก จนทำให้ น.ส.เบญญาภา เย็นอุดม ต้องออกมาโพสต์ขอความเป็นธรรม กระทั่ง สพม.ต้องสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบ และ ปปช.สระแก้ว ได้เข้าไปสอบสวนความไม่โปร่งใสกรณีดังกล่าว
ทั้่งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เดินทางไปที่บ้านหนองติม ม.1 ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.เบญญาภา เย็นอุดม ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่กับน้าชายและน้าสาว ที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก นับถือเป็นเหมือนพ่อแม่ อาชีพครู พร้อมอยู่กับคุณยายซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็ง ภายหลังพ่อและแม่บังเกิดเกล้าแยกทางกันตั้งแต่ยังเล็ก โดยมีผู้นำหมู่บ้านในพื้นที่หมู่ 1 หมู่ 2 และหมู่ 3 ที่เป็นญาติกันคอยดูแลมาตั้งแต่ยังเล็ก ซึ่งทางญาติเปิดเผยว่า น.ส.เบญญาภา ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากกรณีนี้ ยังไม่พร้อมที่จะให้ข้อมูลกับสื่อ เนื่องจากญาติเกรงว่า เด็กจะคิดสั้น เพราะมีความหวังกับเรื่องนี้อย่างมาก เนื่องจากได้เก็บข้าวของเพื่อกลับมาอยู่ที่บ้านแล้ว แต่ต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ ทางน้าสาว จึงพาไปดูแลไว้ก่อนที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และจะกลับมาที่บ้านในช่วงสัปดาห์หน้าที่จะถึงนี้
ข่าวน่าสนใจ:
นายนพดล เพชรโกมล อายุ 58 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว มีศักดิ์เป็นอาของ น.ส.เบญญาภาฯ ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า หลังจากทางญาติของน้องผู้เสียหาย เดินทางเข้าพบกับ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เพื่อร้องเรียนปัญหานี้โดยผู้ว่าฯ สั่งการให้ สพม.สระแก้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เยียวยาแก้ปัญหานี้โดยด่วน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับเด็กที่ลาออกจากงานมาแล้ว ซึ่งเมื่อวาน นายประยงค์ สารภูมิ ผอ.สพม.สระแก้ว ได้เดินทางลงพื้นที่พร้อมกับผู้อำนวยการโรงเรียน 4 แห่งและกรรมการสอบสวน 4 คน ปลัดอำเภอตาพระยาและศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ กำนันตำบลทัพราชและญาติของหญิงสาวผู้เสียหาย ได้มีการพูดคุยกันเพื่อหาข้อสรุปกับกรณีการเสียโอกาสของ น.ส.เบญญาภาฯ พร้อมกับขอโทษญาติเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายนพดล กล่าวว่า ข้อสรุปที่มีการพูดคุยเบื้องต้น หากทาง สพม.สระแก้วไม่ดำเนินการอะไร ทางญาติจะไม่ยินยอมกับเหตุการณ์นี้ ซึ่งการสอบสวนของหน่วยงานก็ขอให้ดำเนินการไปตามระบบ ซึ่งสิ่งที่ทางญาติต้องการให้เยียวยาคือ เมื่อเด็กผู้เสียหายเสียโอกาสจากกรณีนี้ เพราะมีการลาออกจากงานเพื่อเดินทางมารายงานตัว แต่ชื่อกลับหายไป เพราะเป็นความผิดพลาดของ สพม.เอง จึงต้องการให้เด็กได้ทำงานในอาชีพครูในพื้นที่บ้านเกิด เบื้องต้น ได้เสนอให้ทาง สพม.ดำเนินการรับและจ้างเด็กเพื่อให้เป็นครูอัตราจ้าง ที่โรงเรียนทัพราชวิทยา อ.ตาพระยา ซึ่งเป็นโรงเรียนใกล้บ้าน เพราะโรงเรียนขาดแคลนครูวิทยาศาสตร์อยู่แล้ว เพื่อให้เด็กได้ทำงานไปก่อน หลังจากนั้น ก็ค่อยไปสอบใหม่ในปีต่อ ๆ ไป ซึ่งทาง สพม.รับที่จะดำเนินการเยียวยาตามความต้องการของญาติดังกล่าว โดยเด็กผู้เสียหายจะเดินทางมารายงานตัวที่ ร.ร.ทัพราชวิทยา ในสัปดาห์หน้า
“ญาติทุกคนในหมู่บ้านที่เป็นเครือญาติกันช่วยกันดูแลหลานคนนี้ ตอนนี้ทุกคนกลัวเด็กจะทำไม่ดีไม่งาม คิดสั้น ตัดช่องน้อยแต่พอตัว ทุกฝ่ายจึงนั่งคุยกันเพื่อจะช่วยเหลือในการที่เขาเสียโอกาสตรงนี้ในชีวิต เพราะเด็กลาออกจากงาน ขนของมาบ้านแล้ว รวมทั้งไปดูโรงเรียนที่ว่าสอบได้ที่ อ.วังน้ำเย็น ที่จะได้บรรจุแล้ว มีใบส่งตัวเรียบร้อยแล้ว ผ่านไป 2-3 วัน ชื่อกลับหายไป ลูกหลานสอบได้ที่่ 1 เราเป็นญาติก็ต้องดีใจกับหลาน ล่าสุด สพม.มาตกลงกัน ซึ่งเป็นความผิดพลาดทางเอกสาร ที่ทางเขตชี้แจงไป ผมก็ไม่ก้าวล่วง แต่ทำอย่างไรลูกหลานผมที่ลาออกไปจากงาน จะมีงานทำ” นายนพดล กล่าวและว่า
ตอนนี้น้องก็คิดจะร้องสิทธิ์ทุกอย่าง แต่ทาง สพม.ก็ยอมรับว่า เป็นความผิดพลาดตามที่เขาทำหนังสือชี้แจงไป น้องไม่รู้จะพึ่งใคร ทางญาติได้ไปที่ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว เพื่อพบผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อเรียกร้องสิทธิ์ให้เด็ก สงสารเด็ก เพราะเด็กเป็นเด็กดีจริง ไม่งั้นไม่ไปรับจ้างสอน เพื่อจะมารอสอบและตั้งใจสอบได้ที่ 1 แล้วชื่อมันหาย คนเราก็เสียดายเสียใจ ตนในฐานะตัวแทนฝ่ายพ่อ ผู้ใหญ่หมู่ 1 เป็นตัวแทนญาติฝ่ายแม่ กำนัน และศูนย์ดำรงธรรมไปที่อำเภอ เพื่อไปร้องเรียนตามขั้นตอน ทางคณะกรรมการเขตที่เป็น ผอ. 4 คน ได้เข้าไปพบผู้ว่าฯ ซึ่งผู้ว่าฯ ให้กลับมาคุยกันตรงนี้ เพื่อหาทางออกให้เด็ก ให้เด็กมีงานทำ ได้รับความเป็นธรรม ทางผู้ว่าฯ จึงสั่งการให้หาความเป็นธรรมให้กับเด็ก อย่างน้อย ๆ เด็กคนนี้สิทธิ์ของเค้าที่ควรจะได้ ก็ต้องได้ในบางส่วน เพราะชีวิตคนเราเกิดมาครั้งหนึ่ง ไม่มีโอกาสบ่อย ๆ ซึ่งเด็กก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ส่วน ผอ.สพม.ที่โดนสอบก็เป็นเรื่องส่วนตัวไป แต่ขอให้น้องอย่าเคว้งคว้าง ลาออกมาแล้วไม่มีงานทำ แล้วน้องจะอยู่อย่างไร ทางญาติจึงอยากให้มีงานทำเพื่อมาดูแลยายที่ป่วยมะเร็งด้วย ซึ่งได้รับการตอบรับเรียบร้อยแล้ว ทั้งคณะกรรมการ สพม. ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ และญาติ ได้ข้อสรุปร่วมกัน โดยให้เด็กทำงานเป็นครูอัตราจ้างที่ ร.ร.ทัพราชวิทยา
อย่างไรก็ตาม ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 กล่าวอีกว่า สำหรับเด็กผู้เสียหายจะได้งานทำในตำแหน่งครูอัตราจ้าง ครูวิทยาศาตร์ ที่ ร.ร.ทัพราชวิทยา โดย สพม.สระแก้ว รับที่จะดำเนินการ โดยเด็กจะกลับมาอย่างช้าสุดไม่เกินวันจันทร์ อังคารนี้ สำหรับกรณีฯ ตนในฐานะญาติขอให้กรณีนี้เป็นเคทสุดท้าย อย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก เพราะเมื่อผิดพลาดแล้ว กระทบกับเด็ก ทุกฝ่ายลำบากกันหมด กระทบความตั้งใจของเด็ก อีกทั้งเด็กที่ด้อยโอกาส ครอบครัวแตกแยก พ่อแม่เลิกกันตั้งแต่เด็ก น้าเลี้ยงดูมาเหมือนพ่อแม่ ตั้งใจเรียนจนเรียนจบครู ตั้งใจที่จะเป็นครู กลับมาดูยาย ยายก็ป่วยก็อยากกลับบ้าน นั่งอ่านหนังสือจนข้ามวันข้ามคืน พอสอบได้ลำดับที่ 1 แล้วมันหายไป ความดีใจก็เปี่ยมล้นมาเต็ม 100 สำหรับคนชนบทใครก็ดีใจถ้าหลานได้ที่ 1 พากันไปแสดงความดีใจ อีก 2 วัน หายไปเลย ให้เราคิดคนโต ๆ ไม่น่าจะเกิดเรื่องแบบนี้อีก ก่อนที่จะดำเนินการสอบ ประกาศผลก็ดี มีผลต่อคนที่มีชื่อ กระทรวงศึกษาธิการมีความรู้ที่สุดแล้ว ทำไมใส่ผิดพลาดอย่างนี้ อยากให้เคสนี้เป็นเคทสุดท้าย ซึ่งขณะนี้ น้องผู้เสียหาย รับทราบข้อสรุปทุกอย่างแล้ว ยอมรับและพร้อมรับการเยียวยาตามที่เสียโอกาสไป
——————————–
ข่าว-ภาพโดย/ธนภัท กิจจาโกศล ,รักพงษ์ กิตติวรเมธี, เด่นชัย วิสุทธิ์วุฒิพงษ์ ทีมข่าวสระแก้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: