X

สุดรันทด!! ยาบ้าเต็มเมือง พ่อให้ลูกสาววัย 13 ปี ไปซื้อยาบ้าขณะ จนท.เข้าจับกุมพ่อค้ายา สุดอึ้งเด็กกำเงินมา 300 เพื่อซื้อยา 7 เม็ดไปให้พ่อ

สระแก้ว – ยาบ้าเต็มเมืองสระแก้ว พ่อให้ลูกสาววัย 13 ปี ไปซื้อยาบ้าขณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองฯ เข้าจับกุมพ่อค้ายาเสพติด สุดอึ้ง!! เด็กจับมอเตอร์ไซด์กำเงินมา 300 บาท บอกว่า มาซื้อยา 7 เม็ด ไปให้พ่อ ส่วนคนขายมีศักดิ์เป็นอาเขย ล่าสุด จับกุมผู้ค้ายาเสพติด จำนวน 1 ราย และเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามจับกุมผู้ค้ายาเสพติดที่หลบหนี

เมื่อวันที่ 21 ก.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จ.สระแก้ว นำโดย นายบุรินทร์ ล่วงเขต ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดสระแก้ว ร่วมกับกำนันช้าง นายสมบัติ แซ่อึ้ง กำนันตำบลสระขวัญ และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสระแก้ว เข้าปิดล้อมจับกุมพ่อค้ายาเสพติดในพื้นที่ ต.สระขวัญ อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ซึ่งขณะเข้าพื้นที่ พ่อค้ายาเสพติดเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ได้ไหวตัว วิ่งหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่เข้าถึงตัว พบเพียงหลักฐานบางส่วนเท่านั้น แต่สิ่งที่เจ้าหน้าที่ถึงกับตกตะลึง เนื่องจากขณะเข้าปิดล้อมจับกุม ในกระทั่ง มีเด็กหญิงอายุ 13 ปี ขับรถจักรยานยนต์ เข้ามาในพื้นที่ซึ่งเจ้าหน้าที่ปิดล้อมอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่สอบถามว่า เข้ามาทำอะไร โดยเด็กสาวบอกว่า พ่อแท้ ๆ เป็นคนให้ตนเอง มาซื้อยาบ้าให้ จำนวน 7 เม็ด โดยพบว่า ลูกสาววัย 13 ปี กำเงิน 300 บาท เพื่อมาซื้อยาบ้ากับอาตัวเอง ที่เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างปิดล้อมจับกุม จึงนำตัวเด็กกลับไปที่บ้านเพื่อนำพ่อมาพูดคุยและตรวจสอบตามกฎหมาย

นายบุรินทร์ ระบุว่า ทำไมพวกเราถึงยังต้องทำงานปราบปรามยาเสพติด ถึงมันจะยังไม่หมด แต่ขอให้ได้ช่วยให้มันลดลง แต่ระหว่างเราเข้าจับกุมผู้ค้าฯ ที่กระท่อมแห่งหนึ่ง ผู้ค้าไหวตัวทัน วิ่งหนีไป ระหว่างตรวจค้น มีผู้เสพหลายคนขับมอไซด์เข้ามาซื้อยา และหนึ่งในนั้นคือ น้องผู้หญิงคนหนึ่งอายุ 13 ปี ขับเข้ามาที่กระท่อม พอเจอเจ้าหน้าที่่ เลยสอบถามว่ามาทำไม คำตอบที่ได้จากน้องคือ พ่อให้เงินมา 300 บาท จะมาซื้อซื้อยาบ้าจากอาเขย 7 เม็ด แล้วเอากลับไปให้พ่อที่บ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่หันมองหน้ากัน นี่คือแบบใด เราเปลี่ยนใจจากการติดตามผู้หลบหนี ไปที่บ้านพ่อของน้อง แทน สังคมถึงขั้นนี้เลยหรอ ทำไมทำแบบนี้ ที่บ้านมีลูกอีกสี่คน เหตุผลที่เรายังต้องทำงานยาเสพติดกันต่อไป

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบกรณีดังกล่าว พบว่า การเข้าตรวจสอบจับกุมดังกล่าวเกิดขึ้นภายใต้การอำนวยการของ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว นายสุเทพ ชัยวัฒน์ ปลัดจังหวัดสระแก้ว สั่งการให้ นายประเสริฐ  สิงห์ทอง ป้องกันจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วย นายบุรินทร์ ล่วงเขต ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดสระแก้ว นำกำลังสมาชิก อส.ร้อย อส.จ.สระแก้วที่ 1 หรือ ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสระแก้ว เข้าดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในระยะ 3 เดือน ระหว่างเดือน ก.ค.-ก.ย.67 ตามมาตรการค้นหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด และผู้ค้ายาเสพติด (Re X-ray) โดยได้ลงพื้นที่ จากการประสานการปฏิบัติชุดปฏิบัติการพิเศษอำเภอเมืองสระแก้ว พร้อมด้วย กำลังพล อส. ร้อย อส.จ.ที่ 1 ร้อย อส.จ.ที่ 2 เพื่อขยายผลการปฏิบัติเกี่ยวกับยาเสพติด ในพื้นที่ตำบลศาลาลำดวน และตำบลสระขวัญ อ.เมือง จ.สระแก้ว

โดยผลการปฏิบัติการในพื้นที่ตำบลสระขวัญ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ค้ายาเสพติด จำนวน 1 ราย คือนายพงศ์ศักดิ์ เอี่ยมสะอาด อยู่บ้านเลขที่ 132 หมู่ที่ 1 ต.สระขวัญ อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่า กระทำความผิดฐาน มียาเสพติดยาบ้าใว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ฯ พร้อมของกลางจำนวน  56 เม็ด ส่วนพื้นที่ ต.ศาลาลำดวน อ.เมืองสระแก้ว เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดยาบ้า จำนวน 28 เม็ด ซึ่งผู้ต้องหาหลบหนีการจับกุม เหตุเกิดที่บริเวณหมู่ที่ 9 ต.ศาลาลำดวน อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว จึงได้ตรวจยึดเพื่อหาผู้กระทำความผิดมาลงโทษต่อไป ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สามารถตรวจพบผู้เสพยาเสพติด ประเภทยาบ้า จำนวน 4 คน นำตัวส่งบำบัดที่ รพ.สต.หนองไทร ส่วนผู้ค้ายาเสพติด เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ถูกจับส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระแก้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนพ่อของเด็กอายุ 13 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจับกุมและรับสารภาพ พร้อมยินดีเข้าสู่กระบวนการบำบัดที่ รพ.สต.ในพื้นที่ตามกฎหมายต่อไป

——————————
ภาพโดย/ฝ่ายปกครองสระแก้ว

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"