สระแก้ว – ผู้อำนวยการ ปปช.ประจำจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยผลตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีครูเบญฯ ได้มีการตรวจสอบอย่างละเอียดรอบด้าน ทุกมิติ และมีหลักฐานเชิงประจักษ์ เหลือเพียงผลการตรวจสอบผลยืนยันเอกสารตัวจริง จากกองพิสูจน์หลักฐานหลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คาดว่า จะแล้วเสร็จต้นเดือนตุลาคมนี้
เมื่อวันที่่ 26 ก.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิเชฐ พิมพา ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปช.ประจำจังหวัดสระแก้ว (ผอ.ปปช) เปิดเผยในระหว่างการแถลงข่าวผลงาน ปปช.สระแก้ว ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ วิทยาเขตสระแก้ว ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีครูเบญ “น.ส.เบญญาภา เย็นอุดม” อายุ 24 ปี ที่เข้าสอบคัดเลือกคัดสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่งครูผู้สอน สาขาวิชาวิทยาศาตร์ทั่วไป ของสำนักงานพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว (สพม.สระแก้ว) ซึ่งมีชื่อได้อันดับที่ 1 แต่หลังจากนั้นชื่อหายไป จนมีการร้องเรียนขอความเป็นธรรมและเป็นข่าวครึกโครมทางสือมวชชนว่า ทาง ปปช.สระแก้ว หลังเข้าไปสอบสวนกรณีดังกล่าวเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา จะสามารถแถลงข้อเท็จจริงทั้งหมดได้ ภายในต้นเดือนตุลาคมนี้ อาจจะล่าช้าบ้างเนื่องจาก ปปช.ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดรอบด้าน ทุกมิติ และต้องมีหลักฐานเชิงประจักษ์ ทั้งนี้ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ผอ.ปปช.สระแก้ว ยังกล่าวอีกว่า การตรวจสอบได้มุ่งไปที่ประเด็นหลัก ๆ คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มาจากสาเหตุอะไร เกิดจากความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการจัดการสอบหรือมีเจตนาทุจริต และที่ผ่านมาได้สอบปากคำของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหมดแล้ว ตั้งแต่ นายประยงค์ สารภูมิ ผอ.สพม.สระแก้ว และผู้เกี่ยวข้องกับการจัดการสอบ โดยเน้นไปที่เส้นทางเงินของทุกคน และพยานแวดล้อมอื่น ๆ ส่วนพยานเอกสารและหลักฐานอื่น ๆ นั้น ได้มีการยึดเครื่องตรวจคะแนนไปตรวจสอบ เพื่อหาร่องรอยการแก้ไขเปลี่ยนแปลงคะแนนหรือไม่ มีการตรวจสอบกระดาษคำตอบของทุกคนที่สอบผ่าน ไม่ได้เน้นเฉพาะเพียง 2 คน ที่เกี่ยวข้องโดยตรงเท่านั้น และระหว่างการตรวจสอบหรือดำเนินการ ทาง ปปช.ได้ถ่ายทำวีดีโอไว้เป็นหลักฐานทุกขั้นตอน เช่นเดียวกับ การตรวจสอบกระดาษคำตอบของทั้ง 2 คน ที่เกี่ยวข้องโดยตรงทั้ง 2 คนตามข่าว
นายพิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในส่วนของกระดาษคำตอบนั้น ได้มีการตรวจสอบว่า ได้มีการแก้ไข เปลี่ยนแปลงหรือไม่ และเป็นฉบับจริงหรือเป็นของปลอมหรือไม่ ซึ่งการตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้จึงรอผลการตรวจสอบผลยืนยันเอกสารตัวจริง จากกองพิสูจน์หลักฐานหลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาเปรียบเทียบกับผลการตรวจสอบ ของ ปปช.สระแก้ว เท่านั้น คาดว่า คงจะสรุปผลการตรวจสอบภายในต้นเดือนตุลาคมนี้
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ภายหลังที่ผลการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบที่ สพฐ.แต่งตั้ง ซึ่งเบื้องต้นสรุปว่า ครูเบญฯสอบไม่ผ่านทั้งข้อสอบ ภาค ก.และ ภาค ข. ถูกเผยแพร่ออกไป ก่อนหน้านี้ ได้กลายเป็นประเด็นไวรัลในสังคม โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดสระแก้วที่ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นผ่านทางแฟลทฟอร์มต่าง ๆ ที่ไม่ยอมรับและไม่เชื่อมั่นในผลการตรวจสอบที่ออกมา เกือบทั้งหมดยังเชื่อมั่นว่า เป็นการทุจริตของเจ้าหน้าที่ เนื่องจาก เป็นการตรวจสอบของคนในองค์กรเดียวกัน ข้าราชการตรวจสอบข้าราชการด้วยกัน เปรียบเสมือนการชงกันเองกินกันเอง รวมทั้งประเด็นข้อสงสัยอื่น ๆ ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่การให้สัมภาษณ์ของ ผอ.สพม.สระแก้ว ที่ไม่ชัดเจนและตรงประเด็นคำถาม ,การปฎิเสธไม่ให้ครูเบญฯ ขอดูคะแนนตั้งแต่แรก, การให้ครูเบญฯ ลบโพสต์, การไม่ชี้แจงถึงสาเหตุที่ชื่อครูเบญฯ หลุดหายไป, การเรียกครูเบญไปพบเป็นการส่วนตัว และให้เซ็นเอกสารบางอย่าง รวมทั้งอื่น ๆ จึงทำให้สังคมมไม่เชื่อมั่น ดังนั้น ผลการตรวจสอบของ ปปช.เท่านั้น ที่จะคลี่คลายเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ และสังคมยังต้องการเห็นการลงโทษเจ้าหน้าที่ ถ้ามีการกระทำผิดพลาดหรือทุจริตในหน้าที่จริง
————————————–
ข่าวโดย/สมยศ สินธุพันธ์ ทีมข่าวสระแก้ว
