ปราจีนบุรี – เกิดเหตุชาวบ้านผวาชายชุดดำซุ่มข้างทาง บางวันก็มาหลายคนโดยนั่งรถกระบะ มีคนขับมาส่ง พื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ต้องการให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้
เมื่อวันที่ 4 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องทุกข์จากชาวบ้าน หมู่ที่ 10 ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ว่าพบเห็นชายชุดดำนิรนามมาดักมาดักซุ่มอยู่ข้างทางเข้าออก ระหว่างหมู่บ้านและไร่สวน สร้างความหวาดผวาให้กลับชาวบ้านที่ออกไปทำไร่มันและไร่ข้าวโพด โดยชายชุดดำนิรนามคนดังกล่าว ไม่ทราบเป็นใคร จะออกมาดักซุ่มอยู่บริเวณทางเข้าออกดังกล่าวทุกวัน บางวันก็มาหลายคน โดยนั่งรถกระบะ มีคนขับมาส่ง บางวันช่วงพลบค่ำ จะมีโดรนบินสำรวจบริเวณทางเข้า-ออก ระหว่างหมู่บ้านและโรงงาน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านได้ถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน เพราะคนในหมู่บ้าน ไม่มีบุคคลใดที่จะซื้อโดรนมาใช้งานเพื่อประโยชน์ จากเหตุการณ์ดังกล่าว ชาวบ้านหลายคนวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานาว่า ชายชุดดำนิรนามคนดังกล่าว อาจจะเป็นแรงงานเมียนมาร์ ที่มาทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่ง ใกล้หมู่บ้าน จุดที่พบชายชุดดำซุ่มอยู่ข้างทาง อยู่ในป้อมยามร้าง ซึ่งเป็นที่ดินของเอกชน บริเวณจุดดังกล่าวอยู่ติดกับจุดที่ตำรวจและภรรยาท้อง ถูกยิงแล้วนำศพไปทิ้งไว้กลางไร่มัน
โดย นายเส็ง วงษ์เสนา ชาวบ้านผู้ที่ถูกกลุ่มชายชุดดำนิรนามใช้ผ้าพันหน้า สวมหมวกไอ้โม่ง เข้าไปหาถึงที่บ้านหลายครั้ง ซึ่งไม่เคยรู้จักกับบุคคลดังกล่าว วันต่อมา ชายชุดดำนิรนามซึ่งเป็นชาวเมียนมาร์ มาหาถึงที่บ้าน ซึ่งไม่รู้ว่าจะมาดีหรือมาร้าย และไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และลูกสาวบอกว่า มีกลุ่มชายชุดดำมาถามหาที่บ้าน จึงได้ขับรถตามไป จนทราบว่า ชายหนุ่มนิรนามที่นั่งรถกระบะมาหาที่บ้าน เป็นคนทำงานอยู่ในโรงงานใกล้บ้าน ซึ่งเป็นคนไทย และชาวเมียนมาร์ จากนั้นได้ไปทำธุระ ต่อมา ลูกสาวได้โทรโทรศัพท์ไปบอกว่า กลุ่มชายชุดดำและนั่งรถกระบะสีดำ พาพวกมาที่บ้านเยอะกว่าเก่า จึงบอกลูกสาวไม่ให้ออกจากบ้าน เกรงว่า จะไม่ปลอดภัย
ส่วนตนเองที่ถูกสะกดรอยตาม ไม่รู้สึกกลัว เท่าที่จำได้ ถูกชายชุดดำนิรนามประกบตามเท่าที่จำได้ 5-6 ครั้ง เมื่อเดือน ก.ย.และต้นเดือน ต.ค. ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา จากเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่รู้จุดประสงค์ของชายชุดดำ ที่ตามประกบตนเองหลายครั้ง ตนเองไม่เคยกลัว และทราบว่า กลุ่มชายชุดดำได้ขับรถไล่ตามชาวบ้าน ที่ออกมาดูไร่ ดูสวน สร้างความหวาดกลัวให้กับเพื่อนบ้านอย่างมาก แต่ไม่มีใครกล้าออกมาพูด เพราะกลัวจะได้รับอันตราย จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบด้วย
—————————–
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์
