ปราจีนบุรี – รองผู้ว่าฯปราจีนบุรี ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาช้างป่า พื้นที่ ต.เขาไม้แก้ว และ ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
นายชนาธิป โคกมณี รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เดินทางไปร่วมรับฟังการแก้ไขปัญหาช้างป่า จากเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเขาอ่างฤาไน จังหวัดฉะเชิงเทรา เนื่องจากมีช้างป่าเขาอ่างฤๅใน เข้าพักอาศัยในพื้นที่ป่าสะเดา ระหว่างบ้านโปร่งศรีเจริญ หมู่ที่ 8 บ้านคลองตามั่น หมู่ที่ 11 ต.เขาไม้แก้ว กับ บ้านวังกวาง หมู่ที่ 11 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เป็นพื้นที่ของกรมป่าไม้ที่หมดสัมปทานจากเอกชน ซึ่งปัจจุบันชุดอาสาสมัครผลักดันช้างป่า ทั้ง 2 ตำบล เจ้าหน้าที่อนุรักษ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเขาอ่างฤาไน ได้ทำการผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นประจำทุกปี
ทั้งนี้ จากการปรึกษาหารือกับสำนักจัดการทรัพยากรป้าไม้ที่ 9 ปราจีนบุรี และกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาติดตามผลการดำเนินการ และศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาช้างป่าอย่างยั่งยืน สภาผู้แทนราษฎร พร้อมทั้งเกษตรกรชาวไร่อ้อยทั้ง 2 ตำบล พิจารณาแล้วเห็นว่า 1.ขออนุญาตเข้าดำเนินการการปรับปรุงถนนในบริเวณป่าสะเดา (เดิมที่มีอยู่แล้ว) สามารถให้ชุดผลักดันช้างป่าตลอดจนเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน เข้าทำการผลักดันช้างป่าได้อย่างปลอดภัย 2. การดำเนินการดังกล่าวได้รับความอนุเคราะห์จากเกษตรกรชาวไร่อ้อยทั้ง 2 ตำบล โดยไช้รถแทรกเตอร์ไถดินบริเวณถนน เพื่อให้รถยนต์และชุดผลักดันช้างสามารถเข้าดำเนินการผลักดันและมองเห็นช้างป่าได้ในระยะไกล ร่วมกับชุดบินโครน ของทั้ง 2 ตำบล 3. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการพื้นที่ป่าดังกล่าว ให้เป็นที่โล่งไม่รกทึบอีกต่อไปในอนาคต ซึ่งผลที่จะได้รับ ทำให้ราษฎรในพื้นที่รอบบริเวณดังกล่าวทั้ง 2 ตำบล ได้ประกอบอาชีพในที่ดินของตนเองอย่างปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน และการผลักดันช้างป่าปลอดภัยรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม นายชนาธิป กล่าวว่า จากการลงพื้นที่หมู่ที่ 8 บ้านคลองตามั่น ต.เขาไม้แก้ว ร่วมกับ กำนันผู้ใหญ่บ้าน อบต.เขาไม้แก้ว อบต.วังท่าช้าง และจิตอาสาฯ พบว่า ยังมีช้างเหลืออยู่ในพื้นที่จำนวนหนึ่ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ออกทำการผลักดันทุกคืน ในส่วนตนเองได้พูดคุยปรึกษากับหน่วยงานทั้งกรมอุทยานฯ อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อหาแนวทางป้องกันปัญหาที่จะส่งผลกระทบนั้น ซึ่งในแผนงานระยะยาว กรมอุทยานฯ จะดำเนินงานต่อไป เพราะชัดเจนอยู่แล้ว แต่ปัญหาเฉพาะหน้า ถือว่าเป็นปัญหาเร่งด่วนที่จะต้องเฝ้าระวังป้องกัน ไม่ให้ช้างมาส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงได้สั่งการให้ทางกรมอุทยานฯ จัดเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมเข้ามาดูแลในเรื่องการลาดตระเวนตามแนวเขตอุทยานฯ ที่เป็นจุดที่ช้างจะออกมานอกเขตป่าอุทยานฯ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เนื่องจากทุกวันนี้พี่น้องประชาชนเป็นจิตอาสา ที่ร่วมกันป้องกันช้างอย่างเข้มแข็งอยู่แล้ว
—————————
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์
