สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว สนธิกำลังร่วมกับ ทหารพราน ทพ.12 และตำรวจท่องเที่ยว จับกุมคนไทย-เขมร ไม่เข้าออกตามช่องทาง บริเวณช่องทางธรรมชาติ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่่ตรวจคนเข้าเมืองสระแก้ว ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จ.สระแก้ว พ.ต.ท.อมรศักดิ์ แสงวรรณ รอง ผกก.ตม.จ.สระแก้ว และ ว่าที่ พ.ต.ท.พฤกษ์ โชติพฤกษ์ชูกุล สว.ตม.จ.สระแก้ว สั่งการให้ชุดสืบสวน ชป.2 บูรณาการร่วมกับ ตำรวจท่องเที่ยวสระแก้ว เจ้าหน้าที่ทหารพราน ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่่ 12 ร่วมกันจับกุม นายอภิรักษ์ ทอนชัย อายุ 18 ปี สัญชาติไทย ที่อยู่ 189/276 หมู่ 9 ต.หนองจ๊อม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ โดยจับกุมได้ที่ได้ที่บริเวณถนนไม่มีชื่อ ห่างเส้นแบ่งเขตแดนไทย-กัมพูชา ประมาณ 50 เมตร พื้นที่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และตั้งข้อกล่าวหาว่า “เข้ามาหรือออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งมิใช่ช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่าสถานีหรือท้องที่และตามกำหนดเวลาตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา”
โดยพฤติการณ์ของนายอภิรักษ์ ฯ ก่อนการจับกุม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกันออกตรวจสอบการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองพ.ศ.2522, พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวพ.ศ. 2560 และความผิดอื่น ๆ ภายในเขตพื้นที่รับผิดชอบตามนโยบายของรัฐบาล และได้รับแจ้งจากสายลับที่ขอปิดนาม หวังสินบนรางวัลนำจับว่า มีกลุ่มบุคคลลักลอบเข้าออกราชอาณาจักรทางช่องทางธรรมชาติ โดยมีคนไทยเข้ามารอรับ ตามสถานที่นัดหมาย จึงได้ประสานและร่วมกันออกตรวจสืบสวนและเฝ้าสังเกตตามบริเวณที่รับแจ้ง กระทั่งมาถึงบริเวณถนนไม่มีชื่อ ห่างเส้นแบ่งเขตแดนไทย-กัมพูชา ประมาณ 50 เมตร ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน คขง-439 นครสวรรค์ พ่วงข้าง โดยมีชายชาวกัมพูชาไม่ทราบชื่อเป็นคนขับขี่ และได้วิ่งหลบหนีไปขณะขอตรวจสอบ
ข่าวน่าสนใจ:
- ขอนแก่นเข้มต่อเนื่อง!!เปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด รวบคู่รักนักค้ายา หลังฝ่ายชายเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำ
- ผู้ช่วย ผบ.ทบ.ร่วมงานวันสถาปนาหน่วย ร.12 รอ. ครบรอบปีที่ 42 จ.สระแก้ว
- องคมนตรีเชิญสิ่งของพระราชทานเนื่องในโอกาสปีใหม่ 2568 มอบให้ทหารกองกำลังป้องกันชายแดน จ.สระแก้ว
- พัทลุง!ล๊อตมโหฬารกว่า 200 ล้าน พัทลุงคือ1ใน 3 อันดับแรกของเมืองหลวงบุหรี่เถื่อน
ทั้งนี้ พบนายอภิรักษ์ฯ นั่งโดยสารอยู่ในพ่วงข้าง มีลักษณะท่าทางมีพิรุธและพบกระเป๋าสัมภาระเดินทาง มุ่งหน้าเข้าสู่ราชอาณาจักรไทย ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นเส้นทางเป็นช่องผ่านแดนซึ่งเป็นช่องทางธรรมชาติเขตติดต่อชายแดนไทย-กัมพูชา ห่างชายแดนไทย-กัมพูชาประมาณ 50 เมตร เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานให้หยุดและขอตรวจสอบ พบว่า ผู้ขับขี่ได้ทิ้งรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวแล้ววิ่งหลบหนีไป และพบนายอภิรักษ์ฯ นั่งโดยสารมาที่พ่วงข้าง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สอบถามว่า เดินทางมาจากที่ไหน นายอภิรักษ์ฯ ยอมรับว่า เดินทางมาจากประเทศกัมพูชาทางช่องทางธรรมชาติ เพื่อจะกลับภูมิลำเนาของตนที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีชายชาวกัมพูชาไม่ทราบชื่ออายุประมาณ 40 ปี เป็นคนพามาส่งขึ้นรถที่ช่องทางดังกล่าว โดยเสียค่าใช้จ่าย 1,500 บาท
นายอภิรักษ์ ยังยอมรับด้วยว่า ตนได้ลักลอบเดินทางเข้าไปทำงานที่ประเทศกัมพูชา เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา โดยมีเพื่อนที่เป็นคนไทยชักชวนไปทำงาน และตนไม่มีหนังสือเดินทางพาสปอร์ตแต่อย่างใด จึงนำตัวไปทำบันทึกจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหา ก่อนควบคุมตัวไปดำเนินการตามกฎหมายและเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว ยังสามารถจับกุม นายบอย อู๊ท (MR.BOY OEUT) อายุ 34 ปี สัญชาติกัมพูชา ที่อยู่ประเทศกัมพูชา ได้ที่ บริเวณถนนไม่มีชื่อ ห่างเส้นแบ่งเขตแดนไทย-กัมพูชา ประมาณ 50 เมตร ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดย นายบอยฯ ยอมรับว่า เดินทางจากชายแดนประเทศกัมพูชา มุ่งหน้าเข้าสู่ราชอาณาจักรไทย โดยจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่่ ปรากฎว่า ไม่มีเอกสารแสดงตัวแต่อย่างใด และได้ลักลอบเดินทางเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติบริเวณใกล้สถานที่จับกุม เพื่อมาหาทำงานรับจ้าง บริเวณตลาดโรงเกลือ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปทำบันทึกจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นบุคคลต่างด้าว (กัมพูชา) เดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายและผลักดันส่งกลับประเทศกัมพูชาต่อไป
—————————–
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: