สระแก้ว – เกิดเหตุหนุ่มเมาคลั่ง แม้แต่แม่ยังจำไม่ได้ อาละวาดบีบคอแม่และหลาน บาดเจ็บ นำตัวส่ง รพ. เหตุเกิดในพื้นที่ ม.19 ต.พระเพลิง อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว
เมื่อวันที่ 10 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชาย ท่าใหญ่ กำนันตำบลพระเพลิง อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (9 ม.ค.68) ชุดปฏิบัติการพิเศษ ตำบลพระเพลิง “ทีมหมูหลุม” ได้รับแจ้งว่า มีชายเมาคุ้มคลั่งหลอนยา จำแม่ไม่ได้ บีบคอแม่และหลานจนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดในพื้นที่ หมู่ 19 บ้านเนินสยาม ต.พระเพลิง อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว จึงเดินทางลงพื้นที่
ทั้งนี้ นายสุรศักดิ์ ปินสันเทียะ ผู้ใหญ่บ้าน ม.19 บ้านเนินสยาม ต.พระเพลิง อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตำบลพระเพลิง ได้ช่วยกันควบคุมตัว นายเพชร อายุ 36 ปี ผู้ก่อเหตุซึ่งมีอาการขณะเข้าถึงที่เกิดเหตุ มีอาการคุ้มคลั่ง จึงควบคุมตัวไว้ แต่นายเพชร มีอาการชักเกร็ง จึงต้องเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนแม่และหลานได้รับบาดเจ็บไม่มาก
ข่าวน่าสนใจ:
- เครือข่ายเจ๊ดาว!! ชุดสืบฯ เปิดปฏิบัติการบุกค้นขบวนการนำพาคนข้ามแดนตามทางช่องทางธรรมชาติ พบขบวนการนำพาคนเปิดบัญชีม้าข้ามแดน-สแกนใบหน้า
- แก๊งหัวหมอ!! ตำรวจโคกสูงบุกจับแก๊งแสบ 3 ราย รับบุหรี่เขมร มาส่งขายผ่านขนส่ง ฟัน 3 ข้อหาหนัก
- สระแก้ว เปิดคลิประทึก!!คนไทยตกตึกชั้น 14 ตึก 18 ชั้นในเมืองปอยเปต ที่ตั้งกาสิโน-แก๊งคอลเซ็นเตอร์
- กัมพูชารวบแล้ว!! "จ่าเอ็ม" มือยิงอดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชาได้ที่ จ.พระตะบอง ขณะหลบหนีและนำตัวไปพนมเปญ
ทั้งนี้ นายสมชาย กล่าวว่า หลังควบคุมตัวลูกชายรายนี้และสงบสติอารมณ์แล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวนายเพชร ชายคลั่งยาหลอนและแม่ ส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลเขาฉกรรจ์ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นผลมาจากโทษและพิษภัยของการติดยาเสพติด ที่เข้าไปทำลายประสาทสมอง ทำให้จิตใจเสื่อม ซึมเศร้า กังวล เลื่อนลอย และเป็นโรคจิตจากพิษยานั้น ๆ ,ทำให้เสียบุคลิกภาพ ขาดความสนใจตนเอง ขาดสติสัมปชัญญะ ,ร่างกายซูบซีด อ่อนเพลีย และพิษยายังทำลายอวัยวะต่าง ๆ ให้เสื่อมลง มีโรคแทรกได้ง่าย และนำไปสู่การประสบอุบัติเหตุได้ง่าย หากขับรถ เพราะการควบคุมทางกล้ามเนื้อและระบบประสาทบกพร่องไปหมด ดังนั้น ทางเราจึงพยายามเร่งปราบปรามยาเสพติด เอาผู้เสพออกไปรักษา ตานนโยบายของกรมการปกครองและรัฐบาล
—————————-
ภาพโดย/ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองตำบลพระเพลิง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: