สระแก้ว – ชาวสวนลำไยสระแก้วบุกโรงพัก ถูกนายตำรวจยศ ร.ต.อ.รีดส่วยคนงานเขมร เสียเป็นหลักหมื่น แม้ว่าจะทำถูกต้องตามกฎหมายยังถูกกลั่นแกล้ง ด้าน ผกก.สภ.เขาฉกรรจ์สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน และเตรียมตั้งกรรมการสอบสวน พร้อมย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ประจำโรงพักทันที
เมื่อวันที่ 5 ม.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่เมื่อบ่ายวานนี้ ชาวสวนลำไยในพื้นที่ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว นำโดยนายศิริไพบูลย์ วัฒนวงศ์ชัย และ น.ส.น้ำค้าง คานเจริญ พร้อมตัวแทนชาวบ้านที่ปลูกลำไยและตัวแทนล้งรับซื้อลำไยในเขต จ.สระแก้ว ได้รวมตัวกันที่ สภ.เขาฉกรรจ์ เพื่อยื่นหนังสือในนามสมาคมผู้ปลูกลำไยจังหวัดสระแก้ว ต่อ พ.ต.อ.สุภัค วงษ์สวัสดิ์ ผกก.สภ.เขาฉกรรจ์ ซึ่งระบุว่า ขอให้ตรวจสอบและดำเนินการกับตำรวจในสังกัดที่ออกรีดไถเรียกรับผลประโยชน์ ที่ลงนามโดย ร.อ.ทองวราห์ มากสาคร รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้วและนายกสมาคมผู้ปลูกลำไยจังหวัดสระแก้ว ตั้งอยู่ที่ ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว
ทั้งนี้ หนังสือดังกล่าวระบุว่า เนื่องจากสมาคมได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการเก็บเกี่ยวผลผลิตลำไยว่า มีข้าราชการตำรวจในสังกัดของ สภ.เขาฉกรรจ์ นายหนึ่ง ยศร้อยตำรวจเอก ได้ออกทำการเรียกรับผลประโยชน์รีดไถเงินจากผู้ประกอบการเก็บเกี่ยวผลผลิตลำไย จนผู้ประกอบการไม่สามารถนำแรงงานเข้ามาเก็บผลผลิตในพื้นที่ได้ จึงทำให้ชาวสวนลำไยในพื้นที่เดือดร้อน ผลผลิตเกิดความเสียหาย จึงขอให้ผู้กำกับการฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้แจ้งผลการดำเนินการกับทางสมาคมทราบโดยด่วน โดยมีการแนบเอกสารภาพถ่ายและสลิปการโอนเงินมาเป็นหลักฐานประกอบด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
- หนุ่มวัย 31 ขับ AEROX 155 ข้ามถนนถูกตู้ชนร่างกายกระแทกกระบะจอดรอกลับรถดับ
- นายกฯ "อิ๊ง" เปิดงานออนซอนกลองยาวชาววาปี สานตำนานเมืองวาปีปทุม 142 ปี
- "กรุงเทพฯ ดีต่อใจ" ชวน ฮีลกาย..ฮีลใจ รับปีใหม่ 3-5 ม.ค.68
- หมดวาระอบจ.ตรัง รุ่งขึ้น “บุ่นเล้ง” เปิดตัวทันควัน ใช้ชื่อ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” แทน “ทีมกิจปวงชน” ชูนโยบาย “รวมพลังที่ยิ่งใหญ่ ขับเคลื่อนตรังให้เป็น 1”
นายศิริไพบูลย์ วัฒนวงศ์ชัย อายุ 41 ปี ตัวแทนชาวสวนและล้งรับซื้อลำไย เปิดเผยว่า ชาวสวนลำไยได้รับความเดือดร้อนจากการถูกตำรวจรีดไถช่วงที่ลำไยออกมาก มีตำรวจบางนายบางท่าน ออกทำการรีดไถรถเก็บผลผลิตลำไยจนล้งไม่กล้าส่งแรงงานเข้ามาเก็บลำไย อย่างกรณีของตนเองเมื่อวานแรงงานมีบอร์ดเดอร์พาสถูกต้อง แต่ก็ถูกกลั่นแกล้งโดยใช้เวลาตรวจสอบเป็นเวลานาน จนลูกน้องไม่สามารถทำงานได้
“ผมใช้แรงงานถูกต้องทุกอย่าง แต่ก็ยังโดนกลั่นแกล้ง ตรวจตั้งแต่บ่าย 3 โมงถึง 5 โมงเย็น ไม่ให้ลูกน้องผมทำงาน ตรวจเสร็จทำอะไรไม่ได้ก็กลับไป ลูกน้องก็ทำงานได้น้อย จึงต้องการสะท้อนให้ผู้หลักผู้ใหญ่ได้รับทราบ เข้าไปเก็บทีเสียกันเป็นหลักหมื่น ขนาดผมเป็นอดีตตำรวจแท้ ๆ ยังเสีย เสียจนเสียไม่ไหว จนต้องออกมาเรียกร้อง ถ้าหากไม่มีคนออกมาเรียกร้อง คนคนนี้ก็ยังออกหากินอย่างนี้ตลอดไป เป็นความเดือดร้อนของพี่น้องชาวสวนลำไย มีผลกระทบขายผลผลิตราคาถูกเพราะล้งก็ดีดราค่าใช้จ่ายตรงนี้ออกมา ถ้าหากแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้ ก็จะขายลำไยได้ในราคาที่สูงขึ้น เพราะตัดภาระค่าใช้จ่ายตรงนี้ออกไป เช่น ล้งลำไยแห่งหนึ่ง เข้ามาเก็บลำไยแปลงเดียว ได้ลำไย 15 ตัน เสียเงินหลักหมื่น เท่ากับกิโลละ 2 บาท แทนที่ 2 บาทจะไปตกกับพี่น้องชาวสวนลำไย แต่กลับต้องเอามาจ่ายส่วย เพื่อที่ตัวเองจะได้เข้าไปเก็บผลผลิตได้ จึงต้องรวมตัวกันเข้าพบ ผกก.สภ.เขาฉกรรจ์ เพราะถ้ายังปล่อยให้ตำรวจออกหากินแบบนี้ ก็จะไม่มีล้งกล้าเข้ามารับซื้อในเขตพื้นที่ จ.สระแก้ว” นายศิริไพบูลย์กล่าว
ล่าสุด วันนี้ (5 ม.ค.) พ.ต.อ.สุภัค วงษ์สวัสดิ์ ผกก.สภ.เขาฉกรรจ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ย้ายนายตำรวจรายนี้ที่ชาวสวนลำไยร้องเรียนจากเดิมที่ประจำดูแลในพื้นที่ ต.พระเพลิง อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว มาประจำอยู่ที่ สภ.เขาฉกรรจ์ และจำดำเนินการสอบสวนกรณีนี้ให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน ตามคำสั่งของ พล.ต.ต.สรุจิต ชิงนวรรรณ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว หากพบข้อเท็จจริงมีมูล ก็จะตั้งกรรมการสอบสวนทันที
“วันนี้จะเรียกผู้เสียหายที่ระบุว่า ถูกเรียกเก็บส่วยทั้งหมดมาสอบสวนที่ สภ.เขาฉกรรจ์ โดยได้เตรียมพนักงานสอบสอบไว้แล้ว เพื่อให้ได้ข้อมูลตามที่ร้องเรียน หากผิดจริงก็คงจะไม่เอาไว้ ” พ.ต.อ.สุภัค กล่าว
อย่างไรก็ตาม ผกก.สภ.เขาฉกรรจ์ ยังรับปากกับชาวสวนลำไยและตัวแทนล้งลำไยที่มายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมก่อนหน้านี้ว่า กรณีของการใช้แรงงานชาวกัมพูชา ขอให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่ทางหน่วยความมั่นคงและกองกำลังบูรพากำหนด เช่น การอนุโลมให้แรงงานมาเช้าเย็นกลับสามารถเข้ามาเก็บลำไยได้ หรือมีบอร์ดเดอร์พาสอย่างถูกต้อง
ทางด้าน ร.อ.ทองวราห์ มากสาคร รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้วและนายกสมาคมผู้ปลูกลำไยจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า การเรียกเก็บส่วยเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทุกปี ซึ่งปีที่แล้วก็มีการรวมตัวกันไปที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อขอให้มีการแก้ปัญหาเรื่องนี้ เพราะปัญหาการเรียกรับส่วย ส่งผลให้เกษตรกรขายผลผลิตได้ราคาต่ำ เพราะล้งจะหักเงินส่วนที่จะขายได้ไปเป็นค่าใช้จ่ายส่วยตรงนี้ เช่น แทนที่จะขายผลผลิตได้กิโลกรัมละ 30 บาท ก็ขายได้แค่กิโลกรัมละ 25 บาท ส่วนอีก 5 บาท ล้งก็จะเอาไปเป็นค่าใช้จ่ายตรงนี้ หากไม่จ่ายก็จะเข้ามาเก็บไม่ได้ ซึ่งไม่ยุติธรรมกับเกษตรกรและปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นทุกปี
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: