สระแก้ว – สระแก้วสั่งห้ามเผาแล้ว ผวจ.ชี้มีโทษตามกฎหมายอาญา ตำรวจภาค 2 สั่งการทุก สภ.เพิ่มมาตรการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายผู้ลักลอบเผาพืชไร่ มีความผิดตาม พรบ.การสาธารณสุข โทษจำคุก 1 เดือนปรับไม่เกิน 2,000 บาท และให้รายงานข้อมูลทุกวัน ด้านชาวไร่อ้อย บอกส่วนใหญ่จำเป็นต้องเผาเพราะกลัวเก็บเกี่ยวไม่ทันปิดหีบ ระบุแม้ตัดสดก็ต้องเผาใบอยู่ดี
เมื่อวันที่ 27 ม.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ภายหลังพื้นที่ จ.สระแก้ว เกิดปัญหามลพิษฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน อยู่ในเกณฑ์ที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ แต่ปรากฏว่า เกษตรกรชาวไร่อ้อยในพื้นที่ ต.วังใหม่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ยังคงมีการเผาไร่อ้อยกันอย่างต่อเนื่องหลายพื้นที่ โดยการเผามักเกิดขึ้นในช่วงหัวค่ำของทุกวันและบางจุดอยู่ไม่ไกลจากถนนและชุมชนนัก ทางสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.สระแก้ว จึงทำหนังสือเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ลงนามเห็นชอบออกมาตรการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอัคคีภัย ฝุ่นละออง และหมอกควันของจังหวัดสระแก้ว ตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา
โดยนายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ระบุว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนงดเว้นการเผาในที่โล่ง เฝ้าระวังการลักลอบเผาและหากผู้ใดกระทำผิด โดยทำให้เกิดเพลิงไหม้แก่วัตถุใดแม้เป็นของตนเอง จนน่าจะเป็นอันตรายแก่ผู้อื่น หรือทรัพย์สินของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 14,000 บาท ตามประมวลกฎหมายอาญา และให้อำเภอติดชายแดนกัมพูชา ประกอบด้วย อำเภออรัญประเทศ คลองหาด โคกสูง และตาพระยา นำประเด็นการเผาและหมอกควันข้ามแดน เข้าวาระการประชุมหารือระหว่างสองประเทศ เพื่อหามาตรการป้องกันและลดผลกระทบจากปัญหาไฟป่าและหมอกควัน พร้อมทั้งแจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งในพื้นที่ เฝ้าระวังและเตรียมรับมือสถานการณ์ โดยจัดเตรียมรถบรรทุกน้ำ เจ้าหน้าที่ให้พร้อมปฏิบัติงานได้ทันที พร้อมกับแจ้งสถานการณ์คุณภาพอากาศและแนวทางปฏิบัติหากคุณภาพอากาศเกินมาตรฐานของกรมควบคุมมลพิษให้ประชาชนรับทราบด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
นายวิชิต กล่าวว่า สิ่งที่เราปฏิเสธไม่ได้คือ การเผาของเรายังมีอยู่ ไม่ว่าการเผาเพื่อเก็บผลผลิตอ้อย เผาเพื่อหาของป่า กำจัดหญ้า ซึ่งเหล่านี้ผิดกฎหมาย ตามกฎหมายอาญา ทำให้เสียทรัพย์ ,หรือการเผาที่ก่อให้เกิดความรำคาญ ก็ดำเนินการตาม พรบ.การสาธารณสุข และในกรณีในพื้นที่ที่มีเทศบัญญัติเรื่องเกี่ยวกับการเผา ที่ห้ามไว้ ก็ผิดตามเทศบัญญัติขององค์กรปกครองท้องถิ่น ซึ่งกรณีที่ทำให้เสียทรัพย์หรือความเสียหายแก่ร่างกายจะมีโทษหนักมากถึงจำคุก ซึ่งยิ่งถ้าเป็นข้าราชการเผาทำไม่ได้เลยเพราะผิดวินัย ทั้งนี้ จะได้มีคำสั่งเพิ่มเติมโดยอาศัยอำนาจของ กอ.รมน.หากเป็นปัญหาความมั่นคงเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย กระทบเศรษฐกิจ สังคม ชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งกำลังให้ปลัดจังหวัดสระแก้วดำเนินการร่างประกาศดังกล่าวอยู่
ขณะที่ พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รอง ผบก.ปฏิบัติราชการแทน ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้ลงนามในคำสั่งด่วนที่สุด เพื่อสั่งการไปยัง ผกก.สภ.ในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ตามหนังสือด่วนที่สุดของตำรวจภูธรภาค 2 ที่ 0017.132/242 ลงวันที่ 16 ม.ค.62 เรื่องแจ้งกำชับมาตรการควบคุมและบังคับใช้กฎหมาย ให้ทุก สภ.ในจังหวัดสระแก้ว บังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิดลักลอบเผาพืชไร่และพื้นที่เพาะปลูกเพื่อทำการเกษตร โดยมีความผิดตาม พรบ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 มาตรา 25,26,28 และ74 โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท แล้วให้รายงานข้อมูลให้สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้วทุกวัน ก่อนเวลา 10.00 น.ด้วยเช่นกัน
ทางด้าน นายอรุโณทัย พิชิ ผู้ประกอบการไร่อ้อยรายใหญ่กว่า 2,400 ไร่ กล่าวว่า เกษตรกรที่จำเป็นต้องเผาเพราะเป็นความสะดวก แรงงานต่างด้าวไม่ค่อยอยากจะตัดอ้อยสด เพราะกลัวจะตัดไม่ทันปิดหีบ ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องงูที่คนงานถูกงูกัดเสียชีวิตเยอะ โดยเฉพาะงูแมวเซา ถ้าเผางูก็จะตายและตัดได้สะดวกใจขึ้น และการตัดอ้อยสดขั้นตอนเยอะ สางใบ ตัดต้นตัดยอด แต่การตัดเผาตัดโคนรวมกองแล้วตัดยอดเลย ทำให้ตัดได้เยอะกว่าตัดอ้อยสด และที่สำคัญการตัดอ้อยสดไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาเผาอ้อยนัก เพราะภาพรวมหลังตัดเสร็จ เมื่อจะต้องมีการกรีดร่องฝังปุ๋ย ก็ต้องมีการเผาใบอ้อยก่อนอยู่ดีเพื่อให้โคนรัดและแตกหน่อใหม่ เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะตอบโจทย์ชัดเจนเลยคือ รถตัดอ้อย ใบสามารถนำรถมาม้วนส่งขายโรงงานชีวมวลได้อีกไร่ละถึง 2 ตัน ซึ่งไร่ที่ตัดด้วยคนทำแบบนั้นได้ยาก ซึ่งหากใช้รถตัดจะลดการเผาอ้อยได้ค่อนข้างเยอะ ซึ่งปัจจุบันตนใช้รถตัดอ้อยแทนคนงานเกือบทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบรายงานสถานการณ์และคุณภาพอากาศประเทศไทย ของกรมควบคุมมลพิษ ทางแอพพิลเคชั่น Air4Thai เมื่อวานนี้ (26 ม.ค.62) ปริมาณฝุ่นละอองและคุณภาพอากาศจากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบอัตโนมัติ ที่โรงเรียนอนุบาลศรีอรัญโญทัย ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พบว่า ดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index : AQI) ขึ้นไปอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพอีกครั้ง ปริมาณฝุ่นละอองอยู่ที่ระดับ 149 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งสูงสุดในรอบสัปดาห์เช่นกัน
——————————
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: