ปราจีนบุรี – 2 วัยรุ่นปราจีนบุรีเหิมเกริมหนัก ไม่กลัวบาปกรรมบุกรุมชกต่อยคู่อริ ม.6 ขณะเข้าค่ายธรรมะในวัด พร้อมใช้ปืนตบศรีษะแตกเลือดอาบกลางดึกก่อนหลบหนี
เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 7 ก.พ.62 ผู้สื่อข่าวรายงาน ร.ต.อ.ประกาศศักดิ์ คำประภา รองสารวัตรเวร(สายตรวจ) สภ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญู ว่ามีเหตุวัยรุ่นถูกตบด้วยปืนพกสั้นไม่ทราบขนาด ได้รับบาดเจ็บ หน่วยกู้ภัยและตำรวจเดินทางถึงที่เกิดเหตุ บริเวณวัดบ้านขิงกระชาย หมู่ 13 ต.บุฝ้าย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี และนำส่งผู้ป่วยที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.ประจันตคาม
ภายหลังเจ้าหน้าที่ร้อยเวร รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นและพร้อมด้วย นายอาทร หัสดี ผญบ.หมู่ 13 ต.บุฝ้าย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี รีบไปตรวจสอบพบผู้รับบาดเจ็บทราบชื่อต่อมาคือ นายยุทธนา สุราฤทธิ์ อายุ 18 ปี เลขที่ 22 หมู่ 1 ต.บุฝ้าย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ถูกตีที่ศีรษะด้านท้ายทอยเป็นแผลเจาะลึกเข้ากะโหลกยาวเกือบ 5 ซม.เลือดอาบ
ร.ต.อ.ประกาศศักดิ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนในเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุที่วัดขิงกระชายได้จัดนำนักเรียนระดับชั้นมัธยมต้น วัดบ้านหว้าน บ้านด่าน และนักเรียนระดับชั้นมัธยมปลาย วัดพรหมประสิทธิ์ เข้าค่ายคุณธรรม หรือค่ายธรรมะร่วมกัน
ทั้งนี้ หลังจากเลิกกิจกรรมอบรม-ปฏิบัติธรรม ก่อนเข้านอนผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นนักเรียนระดับชั้น ม.6 เป็นรุ่นพี่ ได้ดูแลรุ่นน้องนักเรียนชาย อาบน้ำ-เข้าห้องน้ำ ระหว่างนั้นได้มี นายศตพล หรือมอส ปิ่นสุวรรณ อายุ 20 ปี และนายเจมส์ สู่สุข อายุ 20 ปี วัยรุ่นในหมู่บ้านขิงกระชาย หมู่ 13 ต.บุฝ้าย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นคู่อริเก่า เคยมีเรื่องบาดหมางกัน ขับขี่รถ จยย.เข้ามา พร้อมตรงเข้ามาทำร้ายรุมชกต่อยนายยุทธนา พร้อมกันนั้น นายศตพล หรือมอส ได้ชักปืนพกสั้นแบบบรรจุแมกกาซีน ตบเข้าศีรษะนายยุทธนาจนแตกเลือดอาบล้มทรุดกับพื้น ท่ามกลางความตกใจของนักเรียนรุ่นน้อง และพากันร้องเอะอะโวยวาย จนผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ตกใจรีบขับขี่รถ จยย.หลบหนีไปท่ามกลางความมืด
ทางด้านคณะครู-พระสงฆ์ ที่ดูแลค่ายคุณธรรม หรือค่ายธรรมะ จึงแจ้งหน่วยกู้ภัยรีบนำผู้บาดเจ็บส่ง รพ.ประจันตคาม ต่อมาเวลา 01.30 น.หลังทำการรักษาบาดแผลแล้ว ผู้ปกครอง,ครู ได้นำผู้บาดเจ็บมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับ พ.ต.ท.วีระพล สิทธิพันธุ์ สารวัตรเวร(สอบสวน) สภ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ไว้เป็นหลักฐานและเร่งติดตาม 2 วัยรุ่น ผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปอย่างเร่งด่วน
—————————-
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์
