สระแก้ว – พลังประชารัฐลุยเวทีภาคตะวันออก เปิดเวทีปราศรัยพื้นที่ จ.สระแก้วครั้งแรกคึกคัก คนแห่ร่วมฟังปราศรัยกว่า 2,000 คน “สุชาติ”ระบุต้องการยึดอำนาจปฏิวัติเผด็จการให้ทหารลงมาเสียที เอาประชาธิปไตยกลับคืนสู่ประเทศไทย กลับคืนสู่ประชาชน ส่วน”ฐานิสร์-ตรีนุช”วอนคนสระแก้วเลือกนโยบายพรรคขอให้เชื่อมั่นการตัดสินใจ ส่วนลุงเสนาะยังเป็นคนที่รักเหมือนพ่อคนที่ 2 ของครอบครัว แม้จะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน
เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 1 มี.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สนามกีฬาโรงเรียนบ้านคลองตาสูตร ต.คลองหินปูน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว พรรคพลังประชารัฐ จ.สระแก้ว ได้เปิดเวทีปราศรัยใหญ่เป็นครั้งแรก โดยมีแกนนำพรรค อาทิ นายสุชาติ ตันเจริญ และผู้สมัคร ส.ส.จาก จ.ฉะเชิงเทรา มาร่วมเวทีปราศรัยช่วยผู้สมัคร ส.ส.สระแก้ว เขต 2 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง อดีต ส.ส.หลายสมัย ที่ลงเลือกตั้งในนามพรรคพลังประชารัฐ พร้อมกับ นายฐานิสร์ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส.สระแก้ว เขต 1 ซึ่งบรรยากาศการหาเสียงครั้งนี้เป็นไปอย่างคึกคัก มีการนำรถบรรทุก 6 ล้อ จัดทำเป็นเวทีหาเสียงพร้อมป้ายของผู้สมัครเบอร์ 10 และมีประชาชนในพื้นที่ อ.วังน้ำเย็น โดยเฉพาะ ต.คลองหินปูน และ ต.วังน้ำเย็น ทยอยเดินทางมาร่วมเวทีตั้งแต่ช่วงหัวค่ำรวมประมาณกว่า 2,000 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังมีการแนะนำตัวผู้ร่วมเวทีปราศรัยและมอบดอกไม้พร้อมพวงมาลัยเสร็จสิ้น ได้เปิดโอกาสให้ นายไพรินทร์ หนูมาศ ประธานสภาจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้แนะนำนโยบายของพรรค ซึ่งประกอบด้วย นโยบายบัตรประชารัฐ ที่ประกาศจะเพิ่มจำนวนคนและสิทธิให้กับประชาชน ,นโยบายพักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 3 ปี สำหรับฟื้นฟูและเติมทุน ให้โอกาส ,นโยบาย สปก.4.0 ที่สามารถโอนสิทธิ์และเพิ่มมูลค่าได้ ,นโยบายเกษตรประชารัฐ 4.0 และนโยบายมารดาประชารัฐ ซึ่งสนับสนุนให้คนมีบุตร โดยรัฐเป็นผู้จ่ายสวัสดิการการเลี้ยงดูบุตรให้ตั้งแต่เด็กอยู่ในครรภ์มารดา ซึ่งได้รับเสียงปรบมือเป็นช่วง ๆ อย่างดี
นายสุชาติ ตันเจริญ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ จากกลุ่มบ้านริมน้ำ ซึ่งดูแลพื้นที่ภาคตะวันออก กล่าวบนเวทีปราศรัยว่า สาเหตุที่ตนเองร่วมกับพรรคพลังประชารัฐเพราะมีคนมาปรึกษาว่า จะทำอย่างไรทางการเมืองแล้วให้ทหารลงมาซะที เพราะถ้าอย่างนั้น ถ้าไม่ตั้งพรรคการเมือง ไม่มีที่รองรับ เพราะทุกครั้งมีการปฏิวัติรัฐประหารทีไร ทำไม่ต้องมีพรรคการเมืองมารองรับพวกนี้ เพราะเค้ากลัวว่าพอลงไปแล้ว จะถูกเช็คบิล เพราะสิ่งที่ทำรัฐประหารคือกบฏแห่งชาติ เมื่อมีการนิรโทษกรรมเสร็จแล้วจะต้องมีการเช็คบิลตามมา ถ้าปล่อยนักการเมืองเพียว ๆ เพราะนักการเมืองถูกปล้นไป รัฐธรรมนูญถูกฉีกไป
” ผมตอบกับนักข่าวและประชาชนว่า ที่มาอยู่พรรคนี้ เพราะผมจะยึดปฏิวัติอำนาจเผด็จการ ที่มาอยู่ตรงนี้เพราะผมต้องการยึดอำนาจ ต้องการปฏิวัติจากไอ้คณะรัฐประหาร เอาประชาธิปไตยกลับคืนสู่ประเทศไทย กลับคืนสู่ประชาชน ลองไปดูครับผมพูดชัดเจนและไม่ได้กลัวทหารด้วย” นายสุชาติกล่าวและว่า
การที่เราเรียกร้องมันจะดูเหมือนการปฏิวัติทั่ว ๆ ไป นึกว่าเค้าจะมาอยู่แค่ปีเดียวแล้วก็คืนอำนาจให้มีการเลือกตั้ง แต่ 1 ปีก็ผ่านไปแล้ว เพลงก็ยังฟังอยู่ว่า เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน จนกระทั่งมา 4-5 ปี ตนถึงได้ร่วมตั้งพรรคการเมืองและเอาทหารลงมา
นายฐานิสร์ เทียนทอง อดีต ส.ส.สระแก้ว และผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ได้กราบเรียนพี่น้องประชาชนชาว จ.สระแก้ว ว่าพรรคพลังประชารัฐแม้ว่าจะเป็นพรรคใหม่ แต่ก็สามารถมีนโยบายสอดคล้องกับความต้องการของ จ.สระแก้ว ของเรา โดยเฉพาะ สปก.4-01 ที่จะต้องมีการปฏิรูปกัน และพรรคการเมืองพรรคนี้ เป็นพรรคเดียวที่เปิดกว้างให้สมาชิกได้มีโอกาสเสนอนโยบายได้ พรรคอื่นไม่มี นโยบายถูกกำหนดจากส่วนกลาง เราก็มีหน้าที่รับฟังเพียงอย่างเดียว ซึ่งจังหวัดในภาคตะวันออกมีปัญหาเรื่องที่ทำกินโดยเฉพาะ สปก.ยังไงก็ต้องมีการปฏิรูป ทำอย่างไร สปก.เราจะเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจมากขึ้น บัดนี้ทางผู้ใหญ่นำมาบรรจุเป็นนโยบายเรียบร้อยแล้ว พร้อมที่จะปฏิบัติในอนาคต
ด้าน น.ส.ตรีนุช เทียนทอง อดีต ส.ส.สระแก้ว และผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 สระแก้ว กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 7 ปี ตนได้ลงพื้นที่และมีหัวใจให้กัน อยากให้ประชาชนเชื่อมั่นในการตัดสินใจครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจที่สำคัญ และพร้อมจะสานต่อนโยบายโดยเฉพาะบัตรประชารัฐที่ต้องการดูแลผู้มีรายได้น้อยและเดือดร้อนที่สุดก่อน
“อยากให้พี่น้องได้เชื่อมั่นอย่างหนึ่งว่า ตรีนุชเปรียบเสมือนเป็นลูกหลานของตระกูลเทียนทอง คุณลุงเสนาะ เป็นคนที่รักเหมือนพ่อคนที่ 2 ของครอบครัว เพราะฉะนั้น แม้ว่าเราอาจจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน แต่ความรักความผูกพันที่พวกเรานั้นยังมีต่อพ่อใหญ่ไม่เสื่อมคลาย ขอให้ทุกท่านได้เข้าใจถึงเจตนารมณ์ในการตัดสินใจในการทำงานครั้งนี้ และขอให้ทุกท่านได้เชื่อมั่นว่า การตัดสินใจครั้งนี้ ตรีนุชนั้นมีความตั้งใจในการที่จะอาสาตัวเข้ามารับใช้พี่น้อง เพื่อตอบแทนในสิ่งที่พี่น้องทุกท่านได้มอบความไว้วางใจ ดูแลและรักกันเสมอมา” น.ส.ตรีนุช กล่าวบนเวทีปราศรัย
น.ส.ตรีนุช ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมอีกว่า สำหรับการลงพื้นที่หาเสียงในช่วงใกล้โค้งสุดท้ายนี้ เริ่มเข้มงวดขึ้นมาเนื่องจากเวลาเหลือน้อย จะใช้เวลาที่มีให้มีโอกาสไปพบพี่น้องมากที่สุด บางทีก็ไปเดินพบปะบ้างหรือมีโอกาสได้เจอพี่น้องที่อยู่กันเป็นกลุ่มด้วย ก็จะใช้เวลาที่เหลืออยู่ในการที่จะประชาสัมพันธ์ การทำงาน ผลงานและนโยบายต่าง ๆ ที่จะเป็นประโยชน์กับพี่น้องในช่วงเวลาที่จำกัด ส่วนคู่แข่งจะสู้ได้หรือไม่ ต้องถามประชาชน เราก็ทำให้เต็มที่ก่อน ทำในส่วนของเราให้เต็มที่
อย่างไรก็ตาม นายสุชาติ ตันเจริญ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงแนวทางการลงพื้นที่ในพื้นที่ภาคตะวันออกของพรรคว่า เสียงตอบรับจากประชาชนขณะนี้เข้มแข็งมากในภาคตะวันออกและภาคกลาง จะได้ ส.ส.เป็นกอบเป็นกำ ตั้งแต่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี จันทบุรี สระแก้ว หรือแม้กระทั่งปราจีนบุรีเราก็ได้ ระยอง อาจจะได้ 1 คน ถือว่า ภาคตะวันออกเข้มแข็งมาก เชื่อว่า ได้มากกว่าทุกพรรค โดยพรรคพลังประชารัฐมีนโยบายดี ๆ อยู่หลายอย่าง เช่น เรื่องที่ทำกินในเขตป่าเสื่อมโทรม เรื่อง สปก. บัตรพลังประชารัฐทั่วประเทศ และตอนนี้มีนโยบายมารดาประชารัฐ ซึ่งเป็นนโยบายเด็ด ๆ ของเรา
—————————-
