สระแก้ว – พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ฯ ขยายเวลาเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด 3 ปีเป็น 6 ปี รอบใหม่ เดือนละ 600 บาท เริ่มพร้อมกันสิ้นเดือน พ.ค.นี้
เมื่อวันที่ 28 พ.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสระแก้ว และบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสระแก้ว ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อชี้แจงแนวทางการขับเคลื่อนงานโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ประจำปี 2562 ที่ห้องประชุมโรงแรมตะวัน ตำบลท่าเกษม อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นเจ้าหน้าที่จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดสระแก้ว จำนวน 65 แห่ง โดยมี นายพิเชษฐ ปานจันทร์ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสระแก้ว ชี้แจงวัตถุประสงค์การประชุม ซึ่งตัวแทนของทั้งสองหน่วยงานได้ร่วมกันชี้แจงแนวทางการขับเคลื่อนงานโครงการเงินอุดหนุนฯประจำปี 2562 พร้อมทั้งทบทวนและชี้แจงแนวทางปฏิบัติงานบันทึกข้อมูล แบ่งกลุ่มระดมความคิดเห็น สรุปปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงาน
ทั้งนี้ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เป็นนโยบายสำคัญระดับชาติ ตามแผนบูรณการการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต มุ่งเน้นให้เด็กแรกเกิดได้รับการเลี้ยงดูที่มีคุณภาพและมีพัฒนาการที่เหมาะสมตามวัย เพื่อให้เติบโตเป็นประชากรที่มีคุณภาพในอนาคต รวมทั้งเป็นหลักประกันให้เด็กได้รับสิทธิด้านการอยู่รอด และการพัฒนาตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก โดยได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปีงบประมาณ 2559 ถือเป็นสวัสดิการขั้นพื้นฐานที่รัฐบาลส่งผ่านบิดามารดา หรือผู้ปกครองไปยังเด็กแรกเกิด โดยให้เงินอุดหนุนเพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย เป็นการคุ้มครองทางสังคมที่ทัดเทียมนานาประเทศ ตามมติคณะรัฐมนตรี ดังนี้ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2558 เห็นชอบโครงการกับเด็กที่อยู่นอกระบบประกันสังคม ครอบครัวมีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 36,000 บาท ได้รับค่าเลี้ยงดู 400 บาทเป็นเวลา 1 ปี /มติ เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2559 เห็นชอบโครงการต่อเนื่องโดยเพิ่มเงินอุดหนุน เดือนละ 600 บาท จนอายุครบ 3 ปี /มติ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 ยกเลิกเงื่อนไขประกันสังคมและให้ศึกษาความเป็นไปได้ในการเทียบฐานข้อมูลผู้มีรายได้น้อยตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ รวมทั้งให้ทบทวนการรับรองสถานะครัวเรือน และมติ วันที่ 26 มีนาคม 2562 ขยายระยะเวลาจาก 3 ปี เป็น 6 ปี และขยายฐานรายได้ของกลุ่มเป้าหมาย รวมเฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาท ต่อคนต่อปี เด็กที่รับสิทธิ์ในปีงบประมาณ 2559-2561 รับเงินต่อเนื่องจนครบอายุ 6 ปี/ เด็กที่เกิดตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2558 ทีมีคุณสมบัติและไม่เคยได้รับสิทธิ์ ให้ได้รับสิทธิ์เมื่อมาลงทะเบียน จนครบอายุ 6 ปี และเด็กที่เกิดตั้งแต่ปีงบประมาณ 2562 ได้รับสิทธิ์จนอายุครบ 6 ปี
ข่าวน่าสนใจ:
- ททท.เตรียมเปิดตัวการแข่งขันวิ่งเทรลไตรบูรพาซีรีย์ 4 สนาม 3 จังหวัดภาคตะวันออก นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว
- ครัวคุณต๋อยยกทัพ บุกขอนแก่น จับมือศูนย์การค้าเซ็นทรัล ขอนแก่น ขนร้านอาหารชื่อดังนับร้อย มาเสิร์ฟสายกิน 11 วันเต็ม 14 - 24 พ.ย.นี้
- จับงูเหลือมยักษ์ขนาดใหญ่ยาวกว่า 4 เมตร เข้าร้านข้าวต้มชื่อดังกลางเมืองอรัญประเทศ
- "ทีเส็บ" และภาคีเครือข่าย ชวนคนไทยร่วมพลิกฟื้นเศรษฐกิจเชียงรายหลังวิกฤตน้ำท่วม
สำหรับคุณสมบัติ ของหญิงตั้งครรภ์หรือบิดามารดาหรือผู้ปกครองที่เลี้ยงเด็กแรกเกิด เป็นผู้มีสัญชาติไทย เด็กแรกเกิด มีสัญชาติไทยอยู่ในครัวเรือนที่มีรายได้น้อย มีรายได้รวมเฉลี่ยไม่เกิด 100,000 บาท ต่อคนต่อปี และไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ และไม่อยู่ในความดูแลของหน่วยงานของรัฐหรือเอกชน เอกสารหลักฐานประกอบการลงทะเบียน 1)แบบคำร้องลงทะเบียน (ดร.10) 2)แบบรับรองสถานะของครัวเรือน (ดร.02)หรือสำเนาสวัสดิการแห่งรัฐของบิดามารดา 3)บัตรประจำตัวประชาชนของหญิงตั้งครรภ์หรือผู้ปกครอง 4)สำเนาสมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก 5)สูติบัตรเด็กแรกเกิด 6)สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากของผู้ที่ขอรับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด สถานที่ลงทะเบียน ส่วนภูมิภาค ณ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาล สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทุกจังหวัด สระแก้ว 037425068 กรมกิจการเด็กและเยาวชน 0 2651 6534,0 2255 5850-7 ต่อ 121,122,123,147 ศูนย์ช่วยเหลือสังคม OSCC โทร 13000 ตลอด 24 ชั่วโมง www.dcy.go.th
นายพิเชษฐ ปานจันทร์ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า เพื่อให้การดำเนินงานตามโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เด็กผู้อยู่ในครองครัวผู้มีรายได้น้อยได้รับการช่วยเหลือครบทุกครัวเรือน และมีเอกสารจำนวนที่เพิ่มมากขึ้น จึงได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ และประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงการขยายระยะเวลา 3 ปี เป็น 6 ปี รวมทั้งเด็กที่เกิดตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2558 ให้ไปขึ้นทะเบียนรับเงินอุดหนุนทั่วกัน พร้อมเริ่มดำเนินการตั้งแต่สิ้นเดือนพฤษภาคม 2562 นี้เป็นต้นไป
——————————
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: