X

“ไอ้แป๊ก”เปิดปากถูกตบหน้า!! ปิดประตูล้อมไม่ให้ออกจากลานจอดหลังผับเลิก ใช้มีดปาดคอก่อนเดินหลบหนี

สระแก้ว – เปิดปากผู้ต้องหาคดีฆ่าปาดคอ อ้างถูกตบหน้า ปิดประตูล้อมไม่ให้ออกจากลานจอดรถหลังผับเลิก ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาคดีฆ่าปาดคอกู้ภัยฯ ไปฝากคุมขังไว้ที่ สภ.เขาฉกรรจ์ ก่อนจะลงบันทึกจับกุมพร้อมคุมตัวไปตรวจค้นหาหลักฐานสำคัญต่อ โดยเฉพาะมีดที่ใช้ก่อเหตุ เสื้อผ้าและรองเท้า โดยไม่มีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ กลัวญาติและเพื่อน ๆ รุมประชาทัณฑ์ ก่อนจะนำตัวฝากขังต่อศาลในช่วงบ่ายวันเดียวกัน

เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีฆ่าปาดคอหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างสระแก้ว บริเวณด้านหน้าผับชื่อดังในพื้นที่ตลาดวังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ภายหลังตำรวจสามารถจับกุมตัว นายสามารถ ทะสูงเนิน หรือ แป๊ก อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับได้ที่บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ตำบลคลองไก่เถื่อน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เมื่อบ่ายวานนี้ (6 มิ.ย.) แต่ยังไม่สามารถนำผู้ต้องหามาลงบันทึกจับกุมและแถลงข่าวที่ สภ.วังน้ำเย็น ท้องที่เกิดเหตุได้ เนื่องจากมีญาติของผู้เสียชีวิตและเพื่อนหน่วยกู้ภัยฯ จำนวนมากมารอดูหน้าผู้ต้องหา เกรงว่าจะเกิดเหตุรุมประชาทัณฑ์ขึ้น อีกทั้งตำรวจยังอยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติมและนำตัวผู้ต้องหาไปตรวจค้นหาหลักฐานอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ ชุดเสื้อผ้าและรองเท้า ที่ใส่ในวันก่อเหตุด้วย จึงยังไม่มีการนำตัวผู้ต้องหามาที่สถานีตำรวจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา ทีมสอบสวนได้นำตัวนายสามารถ หรือแป๊ก ไปฝากคุมขังไว้ที่ สภ.เขาฉกรรจ์ อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ห่างจากท้องที่เกิดเหตุประมาณ 20 กม.เป็นการชั่วคราวก่อน กระทั่งช่วงเช้าเวลาประมาณ 09.00 น.ตำรวจได้รับตัวผู้ต้องหาเพื่อลงบันทึกจับกุม ก่อนจะคุมตัวไปตรวจค้นหาหลักฐานที่ใช้ก่อเหตุเพิ่มเติม โดย พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวสั้น ๆ เพียงว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพได้ เนื่องจากผู้ต้องหาแจ้งความประสงค์ไม่ขอทำแผน จึงจะยังไม่มีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพจนกว่าจะได้หลักฐานครบถ้วน

ร.ต.อ.ยศ ชาสมบัติ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี สภ.วังน้ำเย็น ได้รับลงบันทึกจับกุม นายสามารถ ทะสูงเนิน เพื่อเริ่มกระบวนการสอบสวนตามกฎหมายแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ไม่เกิน 48 ชม. และได้เดินทางลงพื้นที่ภูมิลำเนาของผู้ต้องหา ที่ ต.คลองไก่เถื่อน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เพื่อสอบสวนพยานบุคคลเพิ่มเติมให้ครบถ้วน ก่อนจะนำเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ รถยนต์ที่ผู้ต้องหาใช้หลบหนีและหลักฐานอื่นให้ครบถ้วน ก่อนจะนำผู้ต้องหาส่งศาลฝากขังต่อศาลในช่วงบ่ายวันนี้

กระทั่งเวลา 12.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางธำรงลักษณ์ คงเสือ อายุ 42 ปี ภรรยาของ นายบริบูรณ์ ปัทมะชัยวัฒน์ และน้องสาวของผู้ตาย ได้เดินทางมาที่ สภ.วังน้ำเย็น เพื่อขอรับเอกสารการตาย และเปิดเผยว่า คนตายเป็นผู้รับเคราะห์แทนเพื่อน ซึ่งมือกลองของร้าน ยอมรับกับตนเองว่า เป็นคนตบหน้าผู้ต้องหาเอง จนเป็นเหตุให้มีการฆ่าปาดคอดังกล่าว เนื่องจากวันที่มีการนำศพคนตายเข้าสู่เมรุเผาศพ น้องซึ่งเป็นนักดนตรีของผับดังกล่าว ได้มาขอขมาและรับสารภาพกับตนเองว่า เป็นคนลงมือตบหน้าผู้ต้องหาเอง แต่คนตายต้องมารับเคราะห์แทน และอยากให้ไปขอขมาศพแฟนตนซะจะได้ไม่เข้าใจผิดเป็นเวรเป็นกรรมกันตลอดไป

สอดคล้องกับคำให้การของ”ไอ้แป๊ก”หรือนายสามารถ ทะสูงเนิน ผู้ต้องหา ที่ให้การเปิดปากภายหลังถูกจับกุมว่า มูลเหตุของการฆ่าปาดคอครั้งนี้ เกิดจากบันดาลโทสะ ทะเลาวิวาทกันซึ่งหน้า หลังถูกกลุ่มคนตายตบหน้า ทั้งที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเหตุการณ์ลวนลานผู้หญิงในร้าน ซึ่งเมื่อร้านเลิกทางคนตายพร้อมพวกพยายามที่จะออกมาตามหาคนที่พูดว่า จะเอาปืนไปยิงการ์ดที่ตบหน้าหนุ่มที่ลวนลามสาวในร้านให้ได้ ซึ่งเขาไม่ได้เกี่ยวข้อง และชายกลุ่มนั้นซึ่งมีเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์รวมอยู่ด้วยได้ขับรถกลับบ้านไปแล้ว แต่ปรากฏว่า ผู้ตายซึ่งอ้างว่าเป็นการ์ดของผับพยายามจะปิดประตูบริเวณที่จอดรถไว้ไม่ให้ใครออกไป เพื่อจากหากลุ่มคนที่พูดว่า จะเอาปืนไปยิงการ์ดให้ได้ กระทั่งมีการโต้เถียงกันและถูกตบหน้า จึงลงมือก่อเหตุฆ่าปาดคอแบบซึ่งหน้าทันที ซึ่งผู้ต้องหายืนยันว่า ถูกคนตายตบหน้าจึงก่อเหตุดังกล่าวก่อนจะหลบหนี

—————————–

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"