สระแก้ว -ชาวบ้านพบขยะอิเลคทรอนิกส์จำนวนมาก จากต่างประเทศโผล่ที่ จ.สระแก้ว หวั่นเกิดผลกระทบด้านมลพิษ ร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ หลังมีกลุ่มบุคคลอ้างกำนันในพื้นที่ อ.วังน้ำเย็น ใช้บ่อลูกรังร้างหลังภูเขาเขตป่าอนุรักษ์ (โซนซี) นำขยะจากพื้นที่ชลบุรีที่ขนมาจากต่างประเทศเพื่อบดย่อย ก่อนจะขนถ่ายมากองไว้ใน จ.สระแก้ว ทุกวันเกือบ 2 เดือน จนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งขุดบ่อน้ำบาดาลตั้งแคมป์ให้แรงงานชาวเขมรคัดแยกส่งขายส่งขาย โดยไม่ได้รับอนุญาต
เมื่อวันที่ 6 ก.ค.62 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากชาวบ้านในพื้นที่บ้านหนองแก ม.8 ต.ตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ว่ามีการนำขยะอิเลคทรอนิกส์และขยะพิษมาทิ้งในพื้นที่ จึงประสานงานกับ นายอำนาจ พิพิธกุล กำนันตำบลตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เดินทางเข้าตรวจสอบ โดยมีผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 , ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านส่วนหนึ่งร่วมเดินทางเข้าไปตรวจสอบด้วย พบว่า บริเวณดังกล่าวอยู่ด้านทิศตะวันออกของหมู่บ้าน มีการนำป้ายไวนิลมาตั้งไว้ว่า รวมใจรีไซเคิล เลขที่ 283 ม.8 ต.ตาหลังใน อ.ตาหลังใน จ.สระแก้ว อยู่บริเวณเชิงเทือกเขาซับพลู-เขาภูหีบ ซึ่งเป็นเขตป่าอนุรักษ์ โดยจุดที่พบมีการนำขยะไปทิ้งอยู่ในพื้นที่เขตป่าโซนซี มีขยะซึ่งเป็นขยะอุตสาหกรรม เศษชิ้นส่วนรถยนต์ที่ถูกบดย่อยจำนวนมาก ถูกนำมากองทั่วบริเวณพื้นที่กว่า 20 ไร่ นอกจากนั้น ยังมีกองขยะอิเลคทรอนิกส์ประเภทจอคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีการบดย่อยแล้วกองเรียงรายทั่วบริเวณ พบคนงานชาวกัมพูชาประมาณ 30 คน กำลังคัดแยกขยะเพื่อให้นายทุนนำออกไปส่งขายต่ออีกทอดหนึ่งด้วย
ทั้งนี้ ชายชาวกัมพูชาซึ่งอ้างว่าเป็นผู้ดูแล ให้ข้อมูลว่า ขยะดังกล่าวย้ายมาจาก จ.ชลบุรี ซึ่งถูกส่งมาทางเรือจากต่างประเทศ ก่อนจะนำมาบดย่อยที่ชลบุรี แล้วขนมาในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อให้คนงานชาวเขมรคัดแยก ก่อนมีการนำออกไปส่งขาย ซึ่งทำมาแล้วประมาณ 2 เดือน โดยมีเจ้าของเป็นกำนันในพื้นที่ อ.วังน้ำเย็น คนหนึ่ง พร้อมทั้งอ้างด้วยว่า ได้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบแล้ว ตอนนี้ได้ขุดบ่อบาดาลและสร้างแคมป์คนงานเพิ่ม โดยเตรียมจะรองรับคนงานเข้ามาทำงาน รวมประมาณ 100 คน โดยจะมีการขนขยะมาลงวันละ 1 รถบรรทุกพ่วง ซึ่งคนงานจะได้ค่าคัดแยกประมาณ กก.ละ 2 บาท
นายอำนาจ พิพิธกุล กำนันตำบลตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เปิดเผยว่า ตนรับทราบเรื่องนี้มาได้ประมาณ 1 สัปดาห์ เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ร้องเรียนเข้าไป ขณะนี้ได้รายงานเรื่องให้นายอำเภอรับทราบแล้ว ทราบมาว่า มีความพยายามที่จะให้มีหน่วยงานท้องถิ่นเข้าไปตรวจสอบเพื่อรับรองซึ่งในความเป็นจริงการอนุญาตทิ้งหรือคัดแยกขยะลักษณะนี้ไม่สามารถดำเนินการได้ อีกทั้งไม่สมควรจะนำมาทิ้งและดำเนินการในพื้นที่นี้ เพราะเป็นเขตป่าโซนซี โดยจะแจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบมาตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเนื้อที่ปัจจุบันประมาณ 24 ไร่
“ปัญหานี้ ตนในฐานะเจ้าของพื้นที่ เมื่อมีการกระทำผิดเช่นนี้ ก็นิ่งนอนใจไม่ได้ หลังเข้ามาดูมาเห็นแล้วก็ตกใจ เพราะเราไม่ทราบเลยว่า ขยะเหล่านี้มันจะเป็นพิษต่อประชาชนหรือเปล่า เราก็เป็นห่วง ซึ่งเท่าที่ทราบจากการสอบถามขยะขนมาจากชลบุรี ซึ่งการดำเนินการลักษณะนี้คงอนุญาตไม่ได้ ต้องให้หน่วยงานระดับสูงลงมาตรวจสอบว่า จะก่อมลพิษหรือไม่ อย่างไร และประชาชนต้องรับทราบด้วย ส่วนขยะที่พบเท่าที่เห็นน่าจะใช่ขยะอิเลคทรอนิกส์” กำนันตำบลตาหลังใน กล่าว
ทางด้าน นางประเทือง ประวัติ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128 ม.8 ต.ตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า ไม่เคยรู้มาก่อนเลย เพิ่งจะรู้วันนี้ หลังไปที่ รพ.สต.ตาหลังใน เจ้าหน้าที่เล่าให้ฟังว่า มีการส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ จึงรู้ว่า มีการนำขยะมาทิ้งในหมู่บ้านเรา สิ่งที่ชาวบ้านต้องการตอนนี้คือ อยากให้เอาออกไปจากพื้นที่เลย เพราะชาวบ้านอยู่ใต้กองขยะตรงนี้ เวลาฝนตกจะมีน้ำไหลลงไปสู่ลำคลองที่เราใช้ทำการเกษตร เอาไว้ใช้อาบ อุปโภคบริโภค ซึ่งชาวบ้านไม่อยากได้กองขยะตรงนี้
อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณดังกล่าว พบว่า เป็นบ่อลูกรังเก่า เนื้อที่บริเวณกว้างโดยรอบหลายร้อยไร่ อยู่ระหว่างเขตที่ดิน สปก.และเขตป่าสงวนเทือกเขาซับพลู-เขาภูหีบ มีการแบ่งพื้นที่ดูแลของบุคคลหลายราย โดยยังพบร่องรอยของการเข้าขุดดินลูกรังออกไปจากพื้นที่บางส่วนด้วย บางจุดถูกทำเป็นบ่อน้ำ มีพื้นที่ลาดเอียงลงไปทางทิศตะวันตก ตามเส้นทางลำห้วยผ่านพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านในพื้นที่ ม.8 บ้านหนองแก ต.ตาหลังใน พบขยะอุตสาหกรรมจากรถยนต์และขยะอิเลคทรอนิกส์ จอคอมพิวเตอร์บดละเอียด ซากแบตเตอรี่ ตะกั่ว เหล็ก อลูมิเนียม เศษพลาสติก แผงวงจรอิเลคทรอนิกส์ ซึ่งหากมีการนำขยะจำนวนมากมาทิ้งในบริเวณนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ มีโอกาสที่สารพิษและสิ่งเจอปน จากขยะอุตสาหกรรมและขยะอิเลคทรอนิกส์จะไหลลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติสูง เพราะไม่ได้มีการกำจัดหรือป้องกันอย่างถูกวิธี นอกจากนำมากองรวม ๆ กันเท่านั้น
———————————-
