สระแก้ว – พนักงานฝ่ายปกครอง อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เตรียมเดินทางเข้าแจ้งความเอาผิดบุคคลผู้ขอออกบ้านเลขที่ 283 ม.8 ต.ตาหลังใน จุดลักลอบนำขยะมาคัดแยกและทิ้งขยะในเขตป่าโซนซี เพื่อเป็นสถานรองรับขยะอุตสาหกรรมจาก จ.ชลบุรีและระยอง โดยไม่มีใบอนุญาต โดยมีการใช้เอกสารที่เป็นเท็จมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่อำเภอ พร้อมกับยกเลิกเลขที่บ้าน ด้านนายกองค์การบริหารส่วนตำบลตาหลังใน ระบุ ไม่อนุญาตให้ทำกิจการคัดแยกขยะอุตสาหกรรม เตรียมสอบสวนหาผู้บริหารมีเอี่ยวรับจ้างขนขยะ
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 12 ก.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีมีการลักลอบนำขยะอุตสาหกรรมและขยะอิเล็กทรอนิกส์จากพื้นที่จังหวัดระยองและชลบุรี มากองไว้เพื่อคัดแยกและทิ้งบริเวณพื้นที่เขตป่าโซน C เขาซับพลู-เขาภูหีบ ต.ตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เป็นเวลาเกือบ 2 เดือน จนมีปริมาณมากถึงกว่า 300 ตันโดยผิดกฎหมายและมีประเด็นการออกเลขที่บ้านให้กับกลุ่มบุคคลดังกล่าวโดยไม่สามารถดำเนินการได้นั้น ล่าสุด นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร นายอำเภอวังน้ำเย็น ได้มอบหมายให้ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ชี้แจงข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า กรณีดังกล่าวทางอำเภอได้ตรวจสอบข้อมูลแล้วพบว่า กลุ่มบุคคลที่ยื่นขอบ้านเลขที่จุดดังกล่าว ซึ่งมีนายสาธิต ธูปทอง เป็นผู้ยื่นขอ ได้นำข้อมูลหลักฐานส่งให้อำเภอไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะตัวบ้านและหลักฐานประกอบที่ไม่ใช่บ้าน แต่เป็นห้องแถวถือว่าเป็นการแจ้งเท็จ ซึ่งทางอำเภอได้ดำเนินการยกเลิกเลขที่บ้านและเตรียมให้พนักงานปกครองเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ยื่นขอ ที่ สภ.วังน้ำเย็น ฐานแจ้งข้อมูลที่เป็นเท็จด้วย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอ ระบุด้วยว่า เอกสารที่ยื่นขอไม่ใช่บ้านจริง เมื่อพบเช่นนั้นก็ต้องดำเนินการไปตามระเบียบคือยกเลิกเลขที่บ้านและแจ้งความดำเนินคดี ส่วนกรณีกำนันคนหนึ่ง ที่ถูกระบุว่า เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวด้วยนั้น เจ้าหน้าที่ไม่สามารถให้ข้อมูลได้เพราะเป็นแค่ข่าว สำหรับปัญหาการลักลอบขนขยะเข้ามาในพื้นที่นั้น ทางอำเภอทราบข้อมูลหลังจากตกเป็นข่าว และได้เข้าดำเนินการตรวจสอบทันที
นายอนันต์ งอนชัยภูมิ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตาหลังใน เปิดเผยว่า หลังประชุมสภา อบต.และมีการเสนอปัญหาขยะเข้ามาและเขียนคำร้องเข้ามาจึงลงพื้นที่เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.62 และเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบว่า เป็นขยะอะไรเมื่อวันที่ 5 ก.ค.62 แต่ก็ยังไม่ได้รายงาน เมื่อนักข่าวเข้าไปและเป็นข่าว วันจันทร์ที่ 8 ก.ค.62 ผู้ว่าฯสระแก้วก็ลงมาดูและสั่งการให้ดำเนินการภายใน 15 วันและขนย้ายให้เสร็จโดยเร็ว พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่เอาผ้าใบไปปกคลุมไว้ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ได้ดำเนินการตามกฎหมายไปแล้ว โดยเฉพาะเรื่องการออกเลขที่บ้าน เป็นหน้าที่ของหน่วยงานปกครองที่จะดำเนินการ ซึ่งหน้าที่ของ อบต.ที่ต้องดำเนินการคือ ต้องดูแลปัญหาขยะตามข้อสั่งการของผู้ว่าฯ เมื่อเสร็จสิ้นคดีจะขนย้ายออกจากพื้นที่ทันที ทั้งนี้ ต้องดูว่า เจ้าหน้าที่ที่เข้าตรวจสอบเรื่องน้ำและมลพิษว่า ยังมีสารพิษตกค้างอยู่หรือไม่
นายก อบต.ตาหลังใน กล่าวถึงกรณีการเตรียมออกใบอนุญาตให้กับกิจการคัดแยกขยะในพื้นที่ดังกล่าวว่า ทาง อบต.ไม่ได้เตรียมการใด ๆ ซึ่งผู้ประกอบการได้ทำหนังสือมาที่ อบต. แต่ตนเองไม่อนุญาต โดยยื่นคำร้องมาขอประกอบการคัดแยกขยะ ซึ่งเมื่อเป็นพื้นที่ป่าก็คงอนุญาตไม่ได้ รวมทั้งข้อมูลที่ถูกกล่าวหาว่า ผู้บริหารของ อบต.เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับจ้างขนขยะจำนวนดังกล่าวด้วย
“ขณะนี้ผมกำลังตรวจสอบอยู่ ซึ่งทีมงานบริหารก็มีรองนายกฯและเลขาฯ รวมผมด้วย 4 คน หากพบความผิดก็ต้องดำเนินการไปตามระเบียบ ซึ่งต้องดูว่า มีความผิดอย่างไร ถ้าผิดก็ต้องดำเนินการเลย” นายอนันต์กล่าวและว่า
สำหรับความเป็นห่วงของชาวบ้านหนองแก ม.8 ต.ตาหลังใน เรื่องปัญหามลพิษนั้น มีหน่วยตรวจสอบด้านมลพิษและสิ่งแวดล้อมผู้เกี่ยวข้องเข้าดูแล เพื่อให้จบสิ้นเรื่องของปัญหามลพิษ ซึ่งกรณีการนำมลพิษเข้ามาในพื้นที่ถือว่า ทำให้ อบต.เสียหาย ตอนนี้อยู่ระหว่างให้เจ้าหน้าที่นิติกรตรวจสอบรายละเอียด หาก อบต.เป็นผู้เสียหายด้วย ก็จะให้นิติกรไปแจ้งความดำเนินคดีด้วยเพราะมีการแอบอ้างว่า อบต.อนุญาตแล้ว
ทางด้านความคืบหน้าของคดี ล่าสุดที่ สภ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ร.ต.อ.พิทักษ์ ชนะเกตุ รอง สว.สส. พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างรอหน่วยงานต่าง ๆ ที่เข้าไปตรวจสอบส่งข้อมูลพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้กับพนักงานสอบสวน ซึ่งตอนนี้ได้รับมาแล้วบางส่วน และยังรอหน่วยงานราชการอื่น ๆ สรุปส่งมาให้เพิ่มเติมอีกเพื่อสรุปสำนวนคดี ซึ่งคดีล่าสุด ที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอวังน้ำเย็น เตรียมเข้าแจ้งความกับผู้ยื่นขอบ้านเลขที่โดยใช้หลักฐานที่เป็นเท็จนั้น หากทางอำเภอส่งคนมาแจ้งความก็สามารถนำเข้าไปรวมกับคดีก่อนหน้านี้ได้เลย
——————————-
