สระแก้ว – อำเภอวังน้ำเย็นแจ้งความดำเนินคดี ผู้รับเป็นเจ้าของพื้นที่ดำเนินกิจการลักลอบนำขยะอุตสาหกรรมจาก จ.ระยอง-ชลบุรี เข้ามาในพื้นที่ป่าโซนซี ต.ตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น หลังตรวจพบมีการยื่นหลักฐานการขอบ้านเลขที่เป็นเท็จและเป็นการดำเนินการโดยทุจริต เตรียมประชุมกำหนดแนวทางและขั้นตอนการกำกับ ควบคุมและดูแล การขนย้ายวัตถุอันตรายออกจากพื้นที่ให้ถูกต้อง วันจันทร์นี้ (15 ก.ค.)
เมื่อวันที่ 13 ก.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีมีการลักลอบนำขยะอุตสาหกรรมและขยะอิเล็กทรอนิกส์จากพื้นที่จังหวัดระยองและชลบุรี มากองไว้เพื่อคัดแยกและทิ้งบริเวณพื้นที่เขตป่าโซน C เขาซับพลู-เขาพลูหีบ ต.ตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เป็นเวลาเกือบ 2 เดือน จนมีปริมาณมากถึงกว่า 300 ตันโดยผิดกฎหมายและมีประเด็นการออกเลขที่บ้านให้กับกลุ่มบุคคลดังกล่าวโดยไม่สามารถดำเนินการได้นั้น ล่าสุด ร.ต.อ.ประพันธ์ พุฒมี รองสารวัตรสอบสวน สภ.วังน้ำเย็น ได้รับแจ้งจาก นางสุภาวดี รุ่งรัศมี อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 230/4 ม.1 ต.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ว่าหลังได้รับมอบอำนาจจากนายอำเภอวังน้ำเย็น ให้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับ นายสาธิต ธูปทอง ในความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน เป็นการดำเนินการโดยทุจริต และมีเจตนาไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย และผู้ใดแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประสงค์จะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นและประชาชน
ทั้งนี้ ร.ต.อ.ประพันธ์ พุฒมี รอง สว.สอบสวน สภ.วังน้ำเย็น ได้รับแจ้งความไว้เมื่อเวลา 16.30 น.วานนี้ เพื่อดำเนินการสอบสวนและเสนอผู้บังคับบัญชาต่อไป สำหรับนายสาธิต ธูปทอง อยู่บ้านเลขที่ 283 ม.8 ต.ตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นเลขที่บ้านที่ทางอำเภอวังน้ำเย็นได้จำหน่ายยกเลิก เนื่องจากแจ้งข้อมูลการขอเลขที่บ้านที่เป็นเท็จ และเพิ่้งโอนย้ายมาอยู่ในทะเบียนบ้านดังกล่าวช่วงวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมาจากจังหวัดอื่น และเป็นผู้อ้างครอบครองและดำเนินกิจการขยะทั้งหมดในเขตป่าโซนซี เขาซับพลู-เขาพลูหีบ ริมเขาหลังหมู่บ้านหนองแก ต.ตาหลังใน ร่วมกับนายบุญยืน น้อยเจริญ ซึ่งอ้างดูแลกิจการด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
ปัจจุบันคดีดังกล่าว ทั้งคู่ถูกแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 5 คดี ที่ สภ.วังน้ำเย็น ประกอบด้วย คดีแรก เป็นคดีให้ที่พักพิงแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา 41 คน และทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ,คดีที่ 2 คดีกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 54 ฐานกระทำด้วยการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่าเพื่อตนเอง หรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ,คดีที่ 3. คดีกระทำผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 ฐานกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ
ส่วนคดีที่ 4. คดีกระทำผิดตามพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ.2520 มาตรา 16 ฐานห้ามมิให้ผู้ใดประกอบกิจการน้ำบาดาลในเขตน้ำบาดาลใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิ์ครอบครองที่ดินในเขตน้ำบาดาลนั้นหรือไม่ เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากอธิบดี หรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย และคดีที่ 6. คดีที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสระแก้วได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า กระทำผิดตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 มาตรา 12 ตั้งและประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมาตรา 12 ให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ 3 ต้องได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาตและต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ แต่หากผู้ประกอบกิจการโรงงานไม่ได้รับใบอนุญาตหรือตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนกรณีที่นำสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วออกนอกบริเวณโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาตจะมีความผิดในมาตรา 8 (5) ซึ่งมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท
อย่างไรก็ตาม คดีที่อำเภอวังน้ำเย็นมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้าแจ้งความและดำเนินคดี กรณีขอเลขที่บ้านผิดกฎหมาย จึงถือเป็นคดีที่ 6 ซึ่งพนักงานสอบ สภ.วังน้ำเย็น อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและรอหลักฐานจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดี ซึ่งมีข้อมูลชัดเจนว่า มีกำนันในพื้นที่ อ.วังน้ำเย็น เกี่ยวข้องกับขบวนการนี้ด้วย
นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร นายอำเภอวังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เปิดเผยว่า กรณีที่มีการขอออกเลขที่บ้านจุดดังกล่าวไม่ถูกต้องนั้น นายอำเภอวังน้ำเย็น ยืนยันว่า มีการยืนขอที่เป็นเท็จหลังทางอำเภอตรวจสอบแล้ว จึงได้สั่งการให้จำหน่ายเลขที่บ้านนี้ออกไป พร้อมกับให้เจ้าพนักงานปกครองไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ร้องขอโดยใช้ข้อมูลที่เป็นเท็จ ที่ สภ.วังน้ำเย็น เมื่อเย็นวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมาแล้ว ส่วนการขนย้ายขยะอุตสาหกรรมออกจากพื้นที่ ขณะนี้ทางอำเภอเตรียมประชุมเตรียมการวางแนวทางและประสานผู้ประกอบการ เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ทันที คาดว่าหลังตำรวจเก็บพยานหลักฐานเสร็จเรียบร้อยสัปดาห์หน้าก็สามารถขนย้ายขยะได้ทันที
สำหรับนายอำเภอวังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ได้ลงนามในคำสั่งอำเภอวังน้ำเย็นที่ 204/2562 เรื่องแต่งตั้งคณะทำงานกำกับ ควบคุมและดูแล การขนย้ายวัตถุอันตรายออกจากพื้นที่ เมื่อวันที่ 11 ก.ค.62 เนื่องจากพบว่า มีผู้ลักลอบนำวัตถุอันตราย ชนิดที่ 3 มาทิ้ง ณ บริเวณเชิงเขาพลูหีบ บ้านหนองแก เลขที่ 283 ม.8 ต.ตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว และเมื่อวันที่ 8 ก.ค.62 นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้ลงตรวจสอบข้อเท็จจริงและได้มีข้อสั่งการให้ทำการขนย้ายวัตถุอันตรายดังกล่าวออกจากพื้นที่ให้หมดสิ้นภายใน 15 วัน ภายใต้การกำกับดูแลของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องโดยอำเภอวังน้ำเย็นเป็นหัวหน้าคณะทำงานนั้น เพื่อให้การขนย้ายวัตถุอันตรายดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงตั้งคณะทำงานกำกับ ควบคุมและดูแลการขนย้ายวัตถุอันตรายออกจากพื้นที่
จึงแต่งตั้งคณะทำงาน ประกอบด้วย นายอำเภอวังน้ำเย็นเป็นหัวหน้าคณะทำงาน ,ผกก.สภ.วังน้ำเย็น ,ผู้แทนอุตสาหกรรมจังหวัด, ผู้แทนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสระแก้ว, สาธารณสุขอำเภอ, หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สก.7(ไพรจิตร) ,ท้องถิ่นอำเภอ, นายก อบต.ตาหลังใน ,หัวหน้าชุดปฏิบัติการร้อย รส.มว.ที่ 1 มทบ.19 , ผู้ใหญ่บ้าน ม.8 ต.ตาหลังใน ,ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง, และปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง เป็นกรรมการ รวมทั้งหมด 12 คน เพื่ออำนวยการ กำกับ ควบคุม ดูแล ให้การขนย้ายวัตถุอันตรายเป็นไปด้วยความเรียบร้อยปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ รวมทั้งประสานงานให้ผู้ประกอบการขนย้ายวัตถุอันตรายดังกล่าวออกจากพื้นที่ให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่ผู้ว่าราชการจังหวัดกำหนด
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด นายอำเภอวังน้ำเย็น ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สก.0518.2/ว.716 ลงวันที่ 12 ก.ค.62 ที่ผ่านมา เพื่อเชิญคณะทำงานทั้งหมดร่วมประชุมเร่งด่วน กรณีการขนย้ายวัตถุอันตรายดังกล่าว เพื่อกำหนดแนวทางการขนย้าย ในวันจันทร์ที่ 15 ก.ค.62 เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมอำเภอวังน้ำเย็น ชั้น 2 เพื่อให้การขนย้ายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ปลอดภัย และถูกต้องตามหลักสุขอนามัยด้วย
โพสต์โดย สระแก้วทีวี เมื่อ วันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม 2019
—————————-
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: