สระแก้ว – นายอำเภอตาพระยา จ.สระแก้ว ทำหนังสือถึงจังหวัดสระแก้วขอให้จังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้ง หลังนาข้าวและพืชผลการเกษตรเสียหายไปแล้ว 5-6 หมื่นไร่ คาดอีก 1 สัปดาห์ หากไม่มีฝนตกทั้งอำเภอจะเสียหายทั้งหมดโดยสิ้นเชิง ส่วนปัญหาน้ำอุปโภคบริโภคขาดแคลนแล้ว 1 หมู่บ้าน ต้องนำรถน้ำไปช่วยเติมระบบประปาหมู่บ้านทดแทน
เมื่อวันที่ 28 ก.ค.62 นายอารยันต์ ท่าใหญ่ นายอำเภอตาพระยา จ.สระแก้ว เปิดเผยภายหลังเกิดสถานการณ์ฝนทิ้งช่วงในพื้นที่ จ.สระแก้ว โดยพื้นที่ อ.ตาพระยา ปริมาณน้ำภายในเขื่อนสำคัญที่อ่างเก็บน้ำห้วยยางและอ่างห้วยตะเคียน มีปริมาณน้ำเหลือเพียง 7-8% ว่า ขณะนี้ตนได้ทำหนังสือถึงจังหวัดเพื่อขอให้มีการประกาศให้พื้นที่อำเภอตาพระยา ประสบปัญหาภัยแล้ง และอยู่ในภาวะฝนทิ้งช่วงเกิน 15 วัน เพื่อให้สามารถช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยได้ทันที โดยสัปดาห์หน้าทางอำเภอจะเรียกประชุมคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วย เนื่องจากพื้นที่ทำนาที่ได้รับความเสียหายมีทั้งเพาะปลูกในช่วงกลางเดือน มิ.ย. ,ต้นเดือน ก.ค. และกลางเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา จึงเกิดความเสียหายต่างกัน แต่เบื้องต้นขณะนี้เสียหายไปแล้วประมาณเกือบ 50% หรือประมาณ 50,000-60,000 ไร่
ข่าวน่าสนใจ:
นายอารยันต์ เปิดเผยอีกว่า หากพื้นที่ อ.ตาพระยาฝนทิ้งช่วงอีก 15 วัน คงจะเสียหายหมดทั้งอำเภอ ซึ่งจะเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ทุก ๆ 3 ปี แต่ที่ผ่านมายังไม่มีการประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ง สถานการณ์ตอนนี้คือ เขื่อนหลักสำคัญตอนนี้ปิดซ่อม เหลือน้ำไว้เพียงสำหรับอุปโภคบริโภคเท่านั้น ซึ่งพื้นที่ตาพระยาปัญหาน้ำอุปโภคมีปัญหาเพียงบางแห่งน้ำเริ่มขุ่น และมีปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคจำนวน 1 หมู่บ้าน อยู่ระหว่างขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล และแก้ปัญหาด้วยการนำรถน้ำเข้าไปช่วยเหลือเติมในระบบประปาหมู่บ้านทดแทน
“คาดว่า อีก 1 สัปดาห์ ประมาณวันที่ 4-5 ส.ค.นี้ ถ้าไม่มีฝนตกเราต้องเสียหายโดยสิ้นเชิงทั้งอำเภอแน่ ซึ่งตามระเบียบต้องพืชผลทางการเกษตรต้องเสียหายสิ้นเชิงหรือเหลือไม่ถึง 10% จึงจะสามารถนำงบประมาณไปช่วยเหลือได้ และเมื่อถึงเวลานั้น ทางราชการก็ต้องเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านตามระเบียบที่ทางราชการกำหนดทันที” นายอำเภอตาพระยากล่าว
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลปริมาณน้ำของโครงการชลประทานสระแก้ว พบว่า ฤดูฝนปีนี้ ทุกพื้นที่ของจังหวัดสระแก้วมีฝนตกกระจาย ยกเว้นอำเภอตาพระยา ซึ่งเป็นอำเภอทางตอนเหนือของจังหวัดสระแก้ว อยู่ทางใต้ติดกับ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เป็นพื้นที่เงาฝน มีภูเขากั้น ทำให้ฝนไม่ตกเหมือนที่อื่น ส่งผลให้พื้นที่ทางการเกษตรทำนาข้าวได้รับผลกระทบ ข้าวยืนต้นตาย ซึ่งอ่างเก็บน้ำหลัก 2 อ่าง เมื่อเปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน พบว่า อ่างเก็บน้ำห้วยยาง ปีที่ผ่านมามีปริมาณน้ำ 10 กว่าล้านลูกบาศก์เมตร ปีนี้มีเพียง 4.5 ล้านลูกบาศก์เมตร และอ่างเก็บน้ำห้วยตะเคียน ปีที่ผ่านมามีปริมาณน้ำ 2.196 ล้านลูกบาศก์เมตร ปีนี้มีแค่ 0.915 กว่าล้านลูกบาศก์เมตร
ขณะที่ นายสุรพันธ์ สุวรรณไพบูลย์ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า หน่วยฝนหลวงฯ กำลังเร่งดำเนินการทำฝนเทียมตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นมา เพื่อเติมน้ำให้อ่างเก็บน้ำห้วยยางและอ่างเก็บน้ำห้วยตะเคียน และช่วยพื้นที่เกษตรของอำเภอตาพระยา จำนวน 160,000 ไร่เป็นหลัก จากการบินทำฝนเทียมสามารถช่วยพื้นที่เกษตร ปลูกข้าวได้พอในระดับ แต่น้ำยังน้อยอยู่ในปัจจุบัน และเริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ตำบลตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ภายหลังเกิดปัญหาภัยแล้งอย่างหนักจนนาข้าวกว่า 10,000 ไร่ ได้รับผลกระทบ โดยพบกับ พ.อ.นิวัฒน์ หาญประสพ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตาพระยา อ.ตาพระยา โดยพื้นที่เสี่ยงได้รับความเสียหาย เนื่องจากพื้นที่ตั้งอยู่ในแนวที่ไม่ได้รับอิทธิพลจากพายุฝนหรือลมมรสุมต่าง ๆ เท่าที่ควร ทำให้นาข้าวบางส่วนยืนต้นตายหลังมีการไถหวานข้าวไปแล้ว โดยมีต้นข้าวยืนเหี่ยวแห้งคาดว่า คงไม่ได้เก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวได้เลย
นางพรทวี หอมชวน อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ 11 บ้านกุดเตย ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว บอกว่า ปีนี้ปลูกข้าวจำนวน 6 ไร่ ถ้าฝนไม่มาภายในต้นเดือนหน้า ซึ่งปกติข้าวต้องมีน้ำแช่ต้นข้าว แต่ตอนนี้นาข้าวพื้นที่ดินแห้ง อยากให้มีการทำฝนเทียม เพื่อช่วยบรรเทาให้ข้าวฟื้นตัวไม่แห้งตาย ได้ลงทุนไปแล้วถ้าข้าวในนาที่ยืนต้นตาย ก็ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเยียวยาให้ชาวนาที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ด้วย
ส่วน นายเหลือม ทุมทอง อายุ 67 ปี บ้านเลขที่ 76 หมู่ 17 บ้านร่ม ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา เล่าว่า พื้นที่ อ.ตาพระยา เป็นพื้นที่แห้งแล้งซ้ำซาก เวลาที่มีการทำฝนเทียมส่วนมากลมจะพัดฝนไปตกที่ฝั่งประเทศกัมพูชา ส่วนใหญ่ฝนที่ตกที่ อ.ตาพระยาจะเป็นฝนจากมรสุมต่าง ๆ เข้ามาทางสระแก้วและบุรีรัมย์ฝนจึงจะตกพื้นที่ตาพระยา และปีนี้ตนทำนาจำนวน 22 ไร่ ถ้าฝนไม่ตกมาภายในเดือนนี้ ในพื้นที่นาไม่มีน้ำมาแช่ต้นข้าวที่หวานไว้ คิดว่าคงจะไม่ได้ผลผลิตข้าวแน่นอน สิ่งที่ชาวบ้านอยากได้มากคือ การก่อสร้างแหล่งน้ำหรือห้วยสะโตน จะได้มีน้ำจากโครงการชลประทานมาทำนา โดยไม่ต้องรอฟ้ารอฝนอีกต่อไป
นายบุญเทียง แก่อำพัด อายุ 40 ปี ราษฎรบ้านห้วย หมู่ 7 ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา กล่าวว่า ข้าวที่หว่านไว้ก็ไม่มีฝนตกลงมาเลย คิดว่า ปีนี้คงไม่ได้เก็บเกี่ยวข้าวอย่างแน่นอนในพื้นที่อำเภอตาพระยาจะเป็นแบบนี้เกือบทุกปีแต่นี้เป็นหนักกว่าทุกปี น้ำในสระหมู่บ้านก็เกือบแห้งขอดขนาดอ่างเก็บน้ำห้วยยางก็เหลือเพียง 4 %เองก็หยุดจ่ายน้ำให้กับพื้นที่การเกษตรและสงวนไว้ให้เทศบาลตำบลตาพระยาไว้เป็นน้ำทำประปา ยากให้ทางรัฐบาลช่วยด้วย ทางตาพระยาแล้งมาก ชาวบ้านทุกคนแถบนี้ประสบปัญหาเหมือนกันหมด ส่วนการขอความช่วยเหลือทำฝนเทียมได้ชาวบ้านก็ขอขอบคุณทางราชการที่มาช่วยเหลือให้ชาวบ้าน เพื่อนบ้านที่หว่านข้าวไว้ก็เกือบจะตายหมดแล้วเช่นกัน
พ.อ.นิวัฒน์ หาญประสพ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตาพระยา กล่าวว่า เพื่อสำรวจพื้นที่ประสบภัยแล้งเขตพื้นที่รับผิดชอบตำบลตาพระยา อ.ตาพระยา โดยพบความแตกต่างของพื้นที่การเกษตรชัดเจน นาข้าวเขต ตำบลตาพระยา อ.ตาพระยา อยู่ในสภาพขาดน้ำ มีแปลงนาข้าวส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจากภัยแล้วคาดคงไถนาข้าวทิ้งและหว่าน ข้าวใหม่จำนวนมากเพราะการสำรวจพบว่าต้นข้าวจะเหี่ยวเฉาและแห้งตาย ไม่มีปริมาณน้ำขังในนาข้าวในพื้นตำบลตาพระยาขาดแหล่งน้ำที่มีอยู่ส่วนน้อย ถ้าจะพัฒนาแหล่งน้ำทั้งระบบ อบต.ตาพระยา ไม่มีงบประมาณเพียงพอฝากถึงรัฐบาลช่วยเหลือเรื่องแหล่งน้ำ สภาพผืนนาใน ตำบลตาพระยา ทั้ง 17 หมู่บ้าน ส่วนใหญ่จะแห้งยืนต้นตายหลังหว่านข้าวและไม่มีฝนตกลงมา
—————————-
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: