สระแก้ว – ชาวบ้านในพื้นที่ อ.วังน้ำเย็น ร้องเรียนอุบัติเหตุซ้ำซากทุกวัน บริเวณจุดกลับรถสร้างขยายทางไม่ปลอดภัย ล่าสุด รถบรรทุก 12 ล้อ ขับเสยหน้ารถปิกอัพพลิกคว่ำหงายท้อง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 31 ก.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ไพโรจน์ นนทผ่องศรี สารวัตรสอบสวน สภ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ทำหน้าที่ร้อยเวร ได้รับแจ้งว่า เกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดกลับรถบ้านเกศแก้ว หมู่ 4 ต.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุบนถนนสาย 317 สระแก้ว-จันทบุรี ช่วง กม.ที่ 108-109 ซึ่งเป็นจุดกลับรถชั่วคราวของถนนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างขยายทาง พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีดำ หมายเลขทะเบียน กง-6334 ระยอง ถูกชนจนด้านหน้าขวา ล้อรถและประตูฝั่งคนขับยุบเสียหาย ใกล้กันเป็นรถยนต์บรรทุกสินค้า 12 ล้อ สภาพใหม่ พลิกตะแคงอยู่ข้างทางได้รับความเสียหายเช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างสระแก้ว จุดวังน้ำเย็น ได้ใช้เข้าช่วยเหลืองัดคนขับรถกระบะที่มีอาการบาดเจ็บบริเวณช่วงอก นำส่ง รพ.วังน้ำเย็นอย่างเร่งด่วน
ส่วนคนขับรถบรรทุก 12 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน 72-9799 สมุทรปราการ ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ทราบชื่อต่อมาว่า นายธวัชชัย เจ๊ะวัง อายุ 28 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกรวยยางมาวางแบ่งช่องจราจร เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน เนื่องจากเป็นช่วงเช้า พร้อมทั้งถ่ายภาพสถานที่เกิดเหตุ สอบสวนคนขับ สำหรับลงบันทึกประจำวัน และรอให้บริษัทประกันภัยรถยนต์ทั้งสองฝ่ายมาตกลงเจรจาค่าเสียหายกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จุดกลับรถบริเวณนี้มีประชาชนในพื้นที่ อ.วังน้ำเย็น ร้องเรียนผ่านสื่อว่า เป็นจุดอันตรายที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งมากเกือบจะทุกวัน มีผู้เสียชีวิตมาแล้วหลายราย จึงอยากให้ผู้รับเหมาก่อสร้างถนน ดำเนินการแก้ไขโดยเร่งด่วน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับผู้ใช้ทาง เพราะจุดดังกล่าวไม่มีป้ายหรือไฟสัญญาณเตือนที่ชัดเจนเด่นชัด ส่วนใหญ่ผู้ขับขี่จะมองไม่เห็นว่ารถที่วิ่งขนานมาทางตรง เมื่อเลี้ยวออกมาเหมือนการกลับรถปกติจึงเกิดอุบัติเหตุชนกันได้ง่าย โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วนที่มีรถจำนวนมาก และหากเกิดอุบัติเหตุกับรถโดยสารสาธารณะหรือรถรับ-ส่งนักเรียน จะเกิดการสูญเสียอย่างมาก
ทางด้านนายธวัชชัย เจ๊ะวัง คนขับรถบรรทุก เปิดเผยว่า ตนเองขับรถมาทางตรง ซึ่งเพิ่งออกจากร้านข้าวจากวังน้ำเย็น วิ่งมาด้วยความเร็วประมาณ 50-60 กม./ชม.ยังไม่ทันได้ใส่เกียร์สุดท้าย พอวิ่งมาถึงจุดยูเทิร์นเห็นรถกระบะพุ่งออกมาเหมือนจะวิ่งตรงไป แล้วก็ปาดออกมาเพื่อกลับรถตัดหน้าระยะประมาณ 30 เมตร ตนพยายามหักหัวออกแล้วบีบแตร คิดว่าเขาจะหยุดรถก็ไม่หยุด จึงพุ่งมาชนกัน พอล้อหน้าซ้ายปีนขึ้นไปบนรถปิกอัพ รถตนจึงพลิกตะแคงอย่างที่เห็น ซึ่งนายธวัชชัยระบุด้วยว่า บริเวณจุดนี้ควรทำให้เสร็จเร็ว ๆ หรือไม่อย่างนั้นจุดนี้ต้องปิดไม่ให้มีการยูเทิร์นแบบนี้ เพราะให้รถวิ่งสวนทางอีกเลน แล้วให้รถอีกฝั่งมากลับรถ จะมองไม่เห็นกัน ซึ่งการเปิดให้รถวิ่งขนานมาแล้วให้รถวิ่งตัดกันแบบนี้ถือว่าไม่ถูกต้อง
————————————-
