สระแก้ว – ประเทศไทย-ราชอาณาจักรกัมพูชา จับมือร่วมกัน “Big cleaning day” ทำความสะอาดด่านชายแดนและตลาดโรงเกลือ กระตุ้นจิตสำนึกช่วยกันรักษาความสะอาดด่านคลองลึกและตลาดโรงเกลือ แก้ปัญหาเชื้อโรคสะสมเกินมาตรฐาน
เมื่อวันที่ 23 มี.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณลานจอดรถเทศบาลเมืองอรัญประเทศ ข้างห้างสตาร์พลาซ่า อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นายพรพจน์ เพ็ญพาส ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ร่วมกับ นายออม จันทา รองผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ราชอาณาจักรกัมพูชา และนายรณรงค์ นครจินดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ,ส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้ค้าในตลาดโรงเกลือ กลุ่มจิตอาสา เครือข่าย ทสม. และประชาชนของทั้งสองประเทศประมาณ 800 คน ร่วมกันทำกิจกรรมโครงการจัดการสิ่งแวดล้อมชายแดนไทย – กัมพูชา จุดผ่านแดนถาวรคลองลึกและตลาดโรงเกลือ Big cleaning day ครั้งที่ 2 โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ร่วมกันทำความสะอาด ตั้งแต่ทางรถไฟตัดถนนศรีเพ็ญถึงสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา, แยกหน้า สภ.คลองลึก ถึง บิ๊กซี และหน้า สภ.คลองลึก ถึงสะพานมิตรภาพ ไทย-กัมพูชา
ทั้่งนี้ เพื่อเป็นการพัฒนา ปรับปรุง ทัศนียภาพ และสิ่งแวดล้อม บริเวณด่านคลองลึก และตลาดโรงเกลือให้มีความสะอาด และมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย เป็นที่ประทับใจแก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาจับจ่ายเลือกซื้อสินค้าในบริเวณตลาดโรงเกลือ และเนื่องจากก่อนหน้านี้พบข้อมูลการตรวจสอบเชื้อโรคสะสมบริเวณหน้าด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีประชาชนผ่านเข้าออกวันละหลายหมื่นคน สูงเกินค่ามาตรฐานและอาจเป็นอันตรายต่อผู้คนที่ใช้บริการและสัญจรผ่านด่านชายแดนได้
โดยนายพรพจน์ เพ็ญพาส ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ระบุว่า กิจกรรมดังกล่าว เป็นการกระตุ้นและสร้างจิตสำนึกในการช่วยกันรักษาความสะอาดบริเวณด่านคลองลึกและตลาดโรงเกลือ เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี เพื่อให้บริเวณด่านชายแดนมีความสะอาด เป็นระเบียบ มีทัศนียภาพที่สวยงาม ซึ่งจากการประชุมร่วมของคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคระหว่างไท-กัมพูชา หรือ RBC เห็นชอบร่วมกันว่า พื้นที่ตามชุมชนชายแดน ควรมีการรณรงค์ให้ประชาชนของทั้งสองประเทศ ร่วมกันดูแลสิ่งแวดล้อมและทัศนียภาพร่วมกัน เนื่องจากมลพิษจากขยะมูลฝอย เป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ทวีความรุนแรงขึ้น รองรับการขยายตัวและพัฒนาเมืองในปัจจุบันด้วย
อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาข้อมูลพบว่า บริเวณด่านคลองลึกและตลาดโรงเกลือมีปริมาณขยะมูลฝอยเฉลี่ย 50.70 ตันต่อวัน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมการทิ้งขยะ มีปริมาณมากเกินศักยภาพในการเก็บขนและกำจัดขยะของ อปท.ในพื้นที่ จึงกลายเป็นปัญหาระหว่างประเทศ เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกภาคส่วนที่จะร่วมกันแก้ไข สร้างนิสัยและจิตสำนึกในการรักษาความสะอาด วางแผนแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนต่อไป
