ปราจีนบุรี – ผู้ปกครองและชาวบ้านรวมตัวร้องเรียน กรณีโรงเรียนทำอาหารบูดเป็นอาหารกลางวันให้นักเรียนกิน
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ทางโรงเรียนทำอาหารกลางให้เด็กนักเรียนกิน โดยการทำพะโล้บูด ซึ่งนำไข่-หมู บูดมาทำต้มพะโล้ให้เด็กนักเรียนเป็นอาหารกลางวันกิน ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่โรงเรียนบ้านคลอง 12 ม.6 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งแม่ครัวคนหนึ่งที่ทางโรงเรียนจ้างรายวันมาช่วยเป็นแม่ครัวที่โรงเรียน นางสายฝน (นามสมมุติ) ผู้ช่วยแม่ครัวรายวันได้ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา14.00 น.ของวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนได้รับคำสั่งให้ต้มไข่ที่จะนำมาทำพะโล้ให้นักเรียนกินกลางวัน วันรุ่งขึ้นตนเองทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยแม่ครัว เห็นว่า ไข่กับเนื้อหมูทำข้ามวันและมีกลิ่นเหม็น ตนรู้แต่พูดและทำอะไรไม่ได้ จึงจำเป็นต้องทำอาหารกลางวันให้แก่เด็กนักเรียนกิน
เธอเล่าอีกว่า เมื่อถึงเวลารู้ว่าอาหารเป็นอย่างไร เด็กเข้าแถวมารับอาหารกลางวันกิน ตนเห็นว่า หนึ่งในนักเรียนแห่งที่นั่นมีลูกชายกับหลานตนเองเรียนที่นี่ และต้องกินอาหารกลางวันในนั้นด้วย รู้สึกผิดและเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในใจครั้งนี้ แต่ตนไม่สามารถพูดหรือทำอะไรได้มากกว่านี้ จากนี้ไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับหน้าที่การงานของตนก็ยินดีที่จะรับผิดชอบในสิ่งที่ได้ทำลงไป อยากขอโทษเด็ก ๆ และสังคมด้วย เด็กบางคนเองก็รับรู้ได้ว่า พะโล้บูด เนื่องจากมีกลิ่นเหม็น จึงได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวให้ทราบ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนักเรียนที่โตก็พูดต่อ ๆ กัน และเรื่องถึงหูผู้ปกครองทั้งหมู่บ้าน ผู้ปกครองของนักเรียนต่างเรียกบุตรหลานมาสอบถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ว่าเท็จจริงแค่ไหนด้วยความเป็นห่วง ซึ่งได้รับข้อมูลว่า เป็นจริง
ข่าวน่าสนใจ:
น้องมิ้นและน้องมาย (นามสมมุติ) กล่าวว่า ตนกินอาหารกลางวันไข่พะโล้บูดจริง ไม่กินก็ต้องกิน ทั้งที่มีกลิ่นเหม็น บางคนรู้แต่ไม่กิน กินมาม่าแทน ผู้ปกครองรวมถึงคณะกรรมการสถานศึกษา จึงรวมตัวเพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากนักเรียนหมดแล้ว พร้อมรวมตัวเข้าพบกับ ผอ.และคณะครูในวันจันทร์นี้ เพื่อจะสอบถาม ผอ.ว่า ทำไมถึงปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทั้งที่มีงบประมาณโครงการอาหารกลางวันแก่เด็กนักเรียน หากบุตรหลานท้องเสีย เจ็บป่วย ใครจะรับผิดชอบได้หรือไม่
ด้าน นักเรียนชายคนหนึ่ง ได้กล่าวว่า หลังเกิดเรื่อง ครูมีการกำชับไม่ให้เด็กนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปบอกผู้ปกครองเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม ทางผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ได้รายงานเรื่องนี้ให้นายอำเภอทราบแล้วเช่นกัน
——————————
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: