สระแก้ว – หน้าด่านชายแดนไทย-กัมพูชาป่วนหนัก โซเชียลรุมจวกถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมโหด รอคิวประทับตราหลายชั่วโมง โพสต์ประจาน หน่วยงานต้องเรียกประชุมหาแนวทางแก้ไข หลังทางการกัมพูชาพบปัญหาคนไทยที่ไม่ประทับตราหนังสือผ่านแดน หลุดเข้าเขตเมืองชั้นใน
เมื่อวันที่ 14 ส.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ได้เริ่มทำการตรวจประทับตราบุคคลสัญชาติไทย ที่ใช้หนังสือเดินทางและหนังสือผ่านแดน Border Pass ที่เดินทางเข้า-ออก ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยจะต้องรอรับการตรวจประทับตรา จากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองปอยเปต ที่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม 2562 เป็นต้นมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อคนไทยที่ทำงานฝั่งปอยเปตและนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะเดินทางเข้าไปกรุงปอยเปต ต้องใช้เวลานานในการประทับตรา เนื่องจากมีช่องแค่ 2 ช่องประทับตรา ส่งผลให้เกิดข่าวใน Social Media มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตั้งแต่ 50 ,70 ,100 , 200 และ 300 บาท เพื่ออำนวยความสะดวก และมีนักท่องเที่ยวและคนไทยติดค้างอยู่จำนวนมากนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา นายอำเภออรัญประเทศ แจ้งว่า กรณีดังกล่าวได้ทำหนังสือรายงานด่วนที่สุด ไปยังนายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วว่า ปัญหาดังกล่าวจากเดิม คนไทยและนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปยังกัมพูชา ถ้าเข้าไปแค่บริเวณหน้าด่านประมาณ 800 เมตร ก่อนถึงวงเวียนปอยเปต เคยมีข้อตกลงกันว่า ไม่ต้องประทับตราหนังสือเดินทาง หลังจากกัมพูชาเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติใหม่ตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบกับคนไทยจำนวนมาก หลังจากนั้นตนได้มีการประชุมร่วมกับทางการกัมพูชา เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว ที่ห้องประชุม ตม.สระแก้ว โดยฝ่ายไทย ประกอบด้วย นายอำเภออรัญประเทศ ประธานหอการค้าจังหวัดสระแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสระแก้ว เขต 3 ผู้กำกับตรวจคนเข้าเมืองสระแก้ว ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรคลองลึก นายด่านศุลกากรอรัญประเทศ ร่วมกับฝ่ายกัมพูชา ประกอบด้วย ผู้ว่ากรุงปอยเปต ผู้กำกับ ตม.ปอยเปต และเจ้าหน้าที่ทหารของกัมพูชา
นายอำเภออรัญประเทศ ระบุด้วยว่า ผลการประชุมได้ข้อสรุป คือ 1.การดำเนินการประทับตราของ ตม.ปอยเปต ได้รับข้อสั่งการจากกรมตำรวจกัมพูชา เนื่องจากมีการตรวจพบคนไทยเข้าไปในพื้นที่ชั้นใน โดยไม่มีการประทับตราในหนังสือเดินทางและหนังสือผ่านแดน หรือ Border Pass และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ทาง ตม.ปอยเปต จะเพิ่มช่องประทับตรา ณ ด่านผ่านแดนถาวรเป็น 4 ช่อง และสามารถเข้าประทับตราได้ที่บริเวณวงเวียนปอยเปตได้อีก 5 ช่องบริการ สำหรับพนักงานคนไทยที่ทำงานที่ปอยเปต ทาง ตม.ปอยเปตจะมีการเปิดช่องบริการให้โดยเฉพาะ และสามารถเข้าไปทำงานก่อน แล้วกลับมาประทับตราได้ และพนักงานสามารถประทับตรา 1 ครั้ง มีอายุได้ 7 วัน กรณีเป็น Border Pass และ 14 วันกรณีเป็นพาสปอร์ต
“ทั้งนี้ ตม.ปอยเปต ยืนยันว่า ไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมใด ๆ ทั้งสิ้น หากพบมีการเรียกเก็บให้แจ้งเจ้าหน้าที่กัมพูชาได้ตลอด ส่วนฝ่ายไทยนั้นได้ขอให้เพิ่มการประชาสัมพันธ์ทุกช่องทาง เพื่อให้ผู้ข้ามแดนเดินทางได้รวดเร็ว ทั้งนี้หากมีปัญหาใดเกิดขึ้นเพิ่มเติม จะมีการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ต่อไป ” นายสวนิต ระบุในรายงาน
ขณะเดียวกัน ผู้ที่เดินทางข้ามชายแดนไทย-กัมพูชา ได้มีการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว อาทิ การเรียกเก็บเงินค่าอำนวยความสะดวกต่าง ๆ พร้อมรูปภาพด้วย เช่น 3 มาตรฐานแล้วตอนนี้ มีที่ปั๊มเข้าเขมรได้ 2 ที่ บริเวณหน้าด่านและตรงวงเวียนแกรนด์ไดมอนด์ กรณีฟรีแถวยาวโคตรตั้งแต่ ตม.ไทยและ ตม.เขมร ใช้เวลา 2 ชั่วโมงอย่างต่ำ ต้องปั้มทั้ง ตม.ไทยและ ตม.เขมร ไม่อยากเสียตังค์ มึงรอไปเถอะ
ผู้ใช้บริการข้ามแดนยังระบุด้วยว่า กรณีที่ต้องจ่าย 70 หรือ 100 บาท ตม.เขมร หน้าแกรนด์ไดมอนด์ หากไม่มีบัตรพนักงาน จะถูกเรียกเก็บกันตรงนั้นเดี๋ยวนั้น ขณะที่กลุ่มคนระดับ VIP เพียงจ่าย 200 บาท หรือ VIP สุด ๆ สามารถลัดคิวโดยเอาพาสปอร์ตไปปั๊มให้เลย ไม่ต้องรอเลยจ้า เพิ่งชมว่า ปอยเปตเข้า-ออกง่าย เศรษฐกิจดี ขอไม่ถอนคำพูด แต่ขอให้คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องออกมาดำเนินการแก้ไขด่วนๆ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า หลังทางการกัมพูชาเข้มงวดกรณีดังกล่าว ส่งผลให้คนไทยที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่ จ.สระแก้ว ซึ่งสามารถทำและใช้หนังสือข้ามแดนหรือ Border Pass ในการเดินทางได้ แห่เดินทางมาทำ Border Pass ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดสระแก้วจำนวนมาก ซึ่งผู้ใช้บริการระบุว่า เนื่องจากมีการเข้มงวด หากหมดอายุจำเป็นต้องเร่งมาดำเนินการซึ่งสามารถทำให้เสร็จได้ภายในวันเดียว
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของบ่อนคาสิโนและบริษัทห้างร้านที่คนไทยเดินทางข้ามไปทำงานฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชานั้น ได้มีการทำหนังสือสรุปขั้นตอนการปฏิบัติสำหรับคนไทย หลัง ตม.ปอยเปตเพิ่มมาตรการดังกล่าวคือ 1.ทุกบริษัทที่มีพนักงานคนไทยมาทำงาน จะต้องส่งรายชื่อของคนไทยทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่ เพื่อความสะดวกในการปั๊มพาสปอร์ตและบอร์ดเดอร์พาส เข้า-ออกด่าน 2.พนักงานจะต้องติดบัตรพนักงานด้วยทุกครั้ง ตอนเข้าประทับตราเข้า-ออกด่าน 3.ท่านใดที่ใช้พาสปอร์ตประทับตราเข้าฝั่งกัมพูชาสามารถใช้ได้ 14 วัน ถ้าพนักงานใช้พาสปอร์ตและได้ทำวีซ่าทำงาน 1 เดือน 3 เดือน และ 1 ปี จะต้องประทับตราออกภายในวันสิ้นสุดวีซ่า ถ้าเกินวันกำหนดของวีซ่า ทางเจ้าหน้าที่จะปรับวันละ 10 ดอลลาร์ ตั้งแต่วันที่เกิน 4.พนักงานท่านใดที่ใช้บอร์ดเดอร์พาส ปั๊มเข้าฝั่งกัมพูชาใช้ได้ 7 วัน พนักงานจะต้องปั๊มออกภายใน 7 วัน วันไหนก็ได้แต่ห้ามเกิน 7 วัน ถ้าเกิน 7 วัน ทางเจ้าหน้าที่จะปรับวันละ 200 บาท เฉพาะวันที่เกิน 5.การปั๊มเข้า-ออกด่าน จะไม่เสียเงินกรณีเป็นพนักงานและลูกค้า 6.ทางเจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือจากท่านประธานของบริษัท เพื่อความสะดวกในการปั้มเข้า-ออกด่านของพนักงานทุกคนด้วย
——————————–
