ปราจีนบุรี – แม่และญาติผวาหนักหลังลูกชายวัย 16 ปี ได้เกิดอาการคลุ้มคลั่งหลังกินเหล้าหนัก เมาอาละวาดทำลายข้าวของและขู่ทำร้ายญาติ โดยแม่แจ้งตำรวจขอให้นำตัวไปบำบัด ส่วนลูกเผ่นหนีเข้าป่า
เมื่อวันที่ 25 ส.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.สระบัว จ.ปราจีนบุรี เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีคนคลุ้มคลั่งอาละวาดทำลายข้าวของ ขู่จะทำร้ายแม่ที่บ้านเกาะลอย ต.หาดนางแก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี หลังรับแจ้งจึงประสานสายตรวจรถยนต์รุดตรวจสอบเหตุดังกล่าว ที่เกิดเหตุพบกับ นางสมคิด (นามสมมุติ) ขอสงวนชื่อนามสกุล อยู่บ้านเกาะลอย ได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เหตุ บริเวณข้างบ้านพบร่องลอยต้นกล้วยถูกมีดฟันขาดครึ่ง 3-4 ต้น
นางสมคิด กล่าวว่า เมื่อช่วงก่อนเที่ยง นายโต นามสมมุติ ลูกชาย อายุ 16 ปี ได้เกิดอาการคลุ้มคลั่ง หลังจากกินเหล้าแล้วอาละวาดทำลายข้าวของในบ้านพัก แล้วเดินถือมีด เดินวนไปมาพร่ามไม่หยุดและพูดจาเลอะเลือนทำให้ญาติ 6-7 คน เกิดความกลัว ใครห้ามก็ไม่ฟัง มีพฤติการณ์จะเป็นแบบนี้ประจำ จนทุกคนเกิดการหวาดระแวง โดยวันนี้อาละวาดหนักกว่าเดิม ด้วยความกลัวจึงโทรแจ้งตำรวจมาช่วยเอาตัวไปบำบัดให้หาย ทุกวันนี้ยอมรับว่า ลูกชายคนนี้อาการหนักหนา เวลาเมาจะทำลายข้าวของ ด่าทอทุกคนที่อยู่รอบข้าง ไม่ได้เรียนหนังสือ วันนี้ทุกคนต่างพากันหวาดกลัวมาก ถือมีดขอฟันข้าวของไปทั่ว เกรงว่าจะทำร้ายร่างกายญาติพี่น้อง จึงอยากจะให้ตำรวจนำตัวส่งไปบำบัด
นางสมคิด กล่าวอีกว่า รับไม่ได้แล้วหมดความอดทนต่อพฤติกรรมของลูกชายขอเงินไปซื้อเหล้ากินจนเมามาย ขอเงินทุกวันไม่เรียน ติดต่อเพื่อนทางบ้านไม่รู้จะหาทางออกยังไงแล้ว ทุกคนต่างหวาดกลัวไปตาม ๆ กัน ตนเองมีอาชีพรับจ้างทั่วไป รายได้นิดหน่อย ซึ่งขณะที่ลูกชายเห็นรถตำรวจมา ได้วิ่งหนีออกจากบ้านไป พร้อมกับขู่ว่า จะกลับมาคิดบัญชีกับคนโทรแจ้งตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการพูดคุยทำความเข้าใจกับผู้เป็นแม่ ซึ่งถือว่าเด็กคนดังกล่าวยังเป็นเด็กอยู่ ทางการทำอะไรลงไปสังคมจะประณามได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องให้คนในครอบครัวเป็นคนจัดการด้วยตัวเอง ก่อนที่จะโยนให้หน่วยงานอื่นรับผิดชอบ มันเป็นปัญหาครอบครัวที่มีทางแก้ไขได้ เด็กอายุขนาดนี้พ่อแม่จะต้องใส่ใจมากกว่านี้ อย่าบอกว่าไม่มีเวลาดูแลลูก ลูกอายุขนาดนี้กินเหล้าจนติดขนาดนี้เกิดจากครอบครัวที่ไม่ดูแลบุตรหลานให้ดี ถ้าพ่อแม่ใส่ใจลูกอายุ 16 ปี ไม่น่าจะเป็นเด็กก้าวร้าวได้เหมือนคนโต
อย่างไรก็ตาม นางสมคิด ยังยืนยันว่า อยากให้ตำรวจเอาตัวไปปรับทัศนคติสัก 1 ปี ตำรวจย้ำว่า มันต้องเริ่มจากพ่อแม่ เชื่อว่า ถ้าพ่อแม่เอาใจใส่ลูกหลานดีปัญหาจะไม่เกิดแน่นอน ขอให้เอาจริงเอาจัง เชื่อว่า จัดการลูกเป็นเด็กดีได้
—————————
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์
