สระแก้ว – สระแก้วสนธิกำลังร่วม เปิดศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2561 จังหวัดสระแก้ว ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย.61 ภายใต้แนวคิด “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” และคุมเข้มตามมาตรการ “4 ห้าม 2 ต้อง” เพื่อให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย แนะผู้ขับขี่เตรียมความพร้อมเดินทางไกลทั้งรถและคน
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 10 เม.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดสระแก้ว นายพรพจน์ เพ็ญพาส ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานร่วมบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน และมูลนิธิกู้ชีพ กู้ภัย เพื่อร่วมปฏิบัติงานตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย.61 ภายใต้แนวคิด “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” และคุมเข้มตามมาตรการ “4 ห้าม 2 ต้อง” คือ ห้ามขับรถเร็ว, ห้ามดื่มแล้วขับ, ห้ามโทรแล้วขับ, ง่วงห้ามขับ , ต้องสวมหมวกกันน็อก, ต้องคาดเข็มนิรภัยทุกครั้งที่เดินทาง เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย
นายพรพจน์ เพ็ญพาส ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า จังหวัดสระแก้ว จะร่วมกันปฏิบัติงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2561 โดยบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านความปลอดภัยทางถนน ซึ่งได้ประสานความร่วมมือกับทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสารักษาดินแดน (อส.) อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) และมูลนิธิกู้ชีพ กู้ภัย เพื่อร่วมกันปฏิบัติงานตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนของรัฐบาล โดยมีเป้าหมายในการลดจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บให้เหลือน้อยลงที่สุด เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน
ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวอีกว่า ขอแนะหลักปฏิบัติในการเตรียมพร้อมก่อนขับรถและขับรถอย่างปลอดภัย โดยเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมขับรถ โดยนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง หากอดนอนไม่ควรขับรถทางไกล หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ง่วงนอนขณะขับรถ งดเว้นการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือทานยาที่มีฤทธิ์กดประสาท เพราะจะส่งผลให้สมรรถนะในการขับรถลดลงจนไม่สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ อย่างปลอดภัย ตรวจสอบรถให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน โดยรถต้องสามารถหยุดได้ในระยะทางที่กำหนด น้ำมันเบรกไม่พร่อง สัญญาณไฟส่องสว่างทุกดวง หากรถมีอาการผิดปกติ ให้นำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อซ่อมแซมทันที รวมถึงยางต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ไม่บวม ปริหรือมีรอยแตก เติมลมยางตามค่ามาตรฐานที่กำหนด
นอกจากนี้ ควรตรวจสอบสภาพหม้อน้ำ แบตเตอรี่ น้ำมันคลัตช์ น้ำมันเบรก น้ำมันเกียร์ น้ำมันหล่อลื่น และระบบทำความเย็นให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ ศึกษาและเลือกใช้เส้นทางที่ปลอดภัย โดยตรวจสอบและศึกษาเส้นทางล่วงหน้าจากแผนที่ เว็บไซด์ แอพพลิเคชั่นแนะนำเส้นทางหรือสอบถามจากเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากความไม่ชำนาญเส้นทาง เลือกใช้เส้นทางที่ชำนาญและปลอดภัย โดยหมั่นสังเกตและหลีกเลี่ยงเส้นทางที่ชำรุดหรืออยู่ระหว่างการซ่อมแซม เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ จัดเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินประจำรถ เช่น แม่แรง ประแจขันล้อ ยางอะไหล่ สายพ่วงแบตเตอรี่ ค้อนทุบกระจกและอุปกรณ์ลาก พ่วง จูง เพื่อไว้ใช้กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินและประสบอุบัติเหตุด้วย
สำหรับกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ในปีนี้ จังหวัดได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ได้ตระหนักถึงความปลอดภัยของการใช้รถใช้ถนน ภายใต้แนวคิด“ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” และกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้คุมเข้มตามมาตรการ“4 ห้าม 2 ต้อง” โดย 4 ห้าม ได้แก่ 1.ห้ามขับรถเร็ว 2.ห้ามดื่มแล้วขับ 3.ห้ามโทรแล้วขับ 4.ง่วงห้ามขับ ขณะที่ 2 ต้อง คือ 1.ต้องสวมหมวกกันน็อก 2.ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งที่เดินทาง พร้อมทั้งบังคับใช้กฎหมาย ควบคุมรถส่วนบุคคล และรถโดยสารสาธารณะ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยง ทั้งคน ยานพาหนะ ถนน และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ทุกคนเดินทางกลับภูมิลำเนาได้อย่างปลอดภัย
ทางด้าน นายพีระพงศ์ หมื่นผ่อง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า เบื้องต้นสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระแก้ว ได้ประสานไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ในการเตรียมความพร้อมกำลังคน วัสดุ และอุปกรณ์ เพื่อเผชิญเหตุ กู้ชีพกู้ภัย ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ รวมทั้งประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ ความเข้าใจแก่ประชาชนในเรื่องความปลอดภัยทางถนน การเตรียมความพร้อมในการเดินทาง ทั้งนี้ หากประชาชนประสบเหตุระหว่างเดินทาง ให้โทรแจ้งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระแก้ว หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานงานเจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
