สระแก้ว – เด็กนักเรียนสาวชั้น ม.6 กำพร้าพ่อและแม่ อยู่เพียงลำพังคนเดียวในหมู่บ้านทับทิมสยาม 03 เกิดไฟฟ้าลัดวงจรไฟโหมลุกไหม้บ้านพระราชทานในโครงการฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ จนไม่มีที่ซุกหัวนอน เสื้อผ้า ชุดนักเรียน ชุด ร.ด. และอุปกรณ์ดำรงชีวิตทั้งหมดถูกเพลิงเผาวอดทั้งหลัง วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตชีวิต
เหตุการณ์ไฟไหม้บ้านนักเรียนหญิงชั้น ม.6 ในพื้นที่ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เมื่อกลางดึกวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้ที่ทราบข่าวกรณีนี้อย่างมาก เพราะเธอเป็นเด็กกำพร้าที่เพิ่งเสียทั้งพ่อและแม่ รวมถึงตายยาย ในช่วงที่เรียนอยู่ชั้น ม.2-ม.5 และบ้านที่ถูกเพลิงไหม้เสียหายวอดทั้งหลังนี้ เป็นบ้านในโครงการทับทิมสยาม 03 ของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ฯ ในรัชกาลที่ 9 หรือ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ต.ทัพไทย อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ส่งผลให้นักเรียนหญิงรายนี้ไร้ที่อยู่อาศัย ตกอยู่ในสภาพที่สิ้นเนื้อประปาตัว แม้กระทั่งชุดนักเรียน ชุด ร.ด.และของใช้ส่วนตัวทั้งหมด ถูกไฟไหม้เสียหายหมด ต้องอาศัยบ้านญาติในปัจจุบัน โดยมีชุมชนและหน่วยงานพยายามยื่นมือเข้าช่วยเหลือตามอัตภาพ เร่งหาซื้อชุดนักเรียนและปักชื่อให้ใหม่ เพื่อให้เธอสามารถเดินไปโรงเรียนได้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
ข่าวน่าสนใจ:
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่เพื่อพบกับ น.ส.จิรัดสยา อิ่มกระสัง หรือน้องตอง อายุ 18 ปี เจ้าของบ้าน ที่บ้านเลขที่ 112 ม.9 ต.ทัพไทย อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ตั้งอยู่ซอย 9 ล็อค 7 สภาพบ้านโครงการฯ ถูกไฟไหม้จนตัวบ้านชั้น 2 พังถล่มลงมา หลังคายุบ ข้าวของภายในบ้านถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด อยู่ในสภาพที่ไม่สามารถซ่อมแซมใหม่ได้แล้ว โดยมีชาวบ้านในชุมชนเข้ามาช่วยเก็บกวาดบริเวณโดยรอบ มีผู้ใหญ่บ้านทับทิมสยาม 03 ครูประจำชั้นและผู้อำนวยการโรงเรียนทัพราชวิทยา เดินทางมาให้กำลังใจเด็กนักเรียนที่บ้านหลังดังกล่าว ก่อนจะพาเข้าไปตรวจสอบภายในบ้านที่ถูกไฟไหม้ด้วย
น.ส.จิรัดสยา ถึงกลับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ หลังจากที่ขึ้นไปถึงบนชั้น 2 ของบ้านและพบว่า รูปภาพของพ่อและแม่ ที่ตั้งอยู่บนตู้เย็นและชั้นวางของชั้น 2 หน้าห้องนอน ถูกเพลิงเผารูปภาพทั้งหมดจนเหลือเพียงเถ้าถ่าน โดยเธอบอกว่า “มันไหม้หมดเลยรูปพ่อรูปแม่ที่ตั้งอยู่ เวลาที่หนูเลิกเรียนมา เวลาที่หนูอยู่คนเดียวไม่มีกำลังใจอะไรเลย นอกจากรูปพ่อรูปแม่ที่ตั้งอยู่ แล้วแกก็มองมาที่เรา ทำให้เราสู้ ๆ หนูต้องทำทุกอย่าง เพื่อให้ตัวเองมันผ่านไปในแต่ละวันให้ได้ แต่พอมาวันนี้มันไม่เหลืออะไรแล้ว การที่ตื่นมาแต่ละเช้า ไม่มีตังค์ไปโรงเรียน มันยังไม่ทุกข์เท่าแบบว่า ตื่นมาวันนี้จะไม่มีบ้านอยู่แล้ว มันเลยท้อ หนูเหนื่อยมาก วันนี้หนูเจอปัญหาเยอะแยะมากมายหลายอย่างมาก
“ตรงนี้จะเป็นที่วางตู้หมอน แล้วก็จะมีรูปภาพพ่อกับแม่ตั้งคู่กันไว้ ข้างตู้เย็น ก็ถูกไฟไหม้ไปหมดเลย ตอนนี้มีกำลังจากเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ และคุณครู พี่ป้าน้าอาที่เค้าช่วยเหลือกัน ให้หนูพอมีแรงสู้ต่อ พอมีกำลังใจ ” น.ส.จิรัดสยา กล่าวและว่า อยากขอบคุณผู้ที่มีอุปการะที่ช่วยเรื่องบ้านเรื่องที่อยู่อาศัย เพราะสิ่งของเสื้อผ้าไปหมดเลย ทั้งชุดนักเรียน ชุดพละ ชุดอะไรก็เสียหายไปหมดเลย ไม่มีเหลือซักชุด เสื้อที่ใส่อยู่ปัจจุบัน คือเสื้อที่เพิ่งซื้อมาใหม่ จากตังค์ที่เค้าช่วยร่วมบริจาคมา ก็เลยรีบเอาไปซื้อมา โดยบอกป้าที่ปักป้ายชื่อให้ด้วย
เธอเล่าด้วยว่า ตอนแรกไม่ได้อยู่คนเดียว พ่อเสียตั้งแต่ตอนอยู่ ม.2 เทอม 2 ส่วนตายายก็เสียชีวิตตามหลัง ก็อยู่กับแม่มาได้ระยะหนึ่ง แม่ก็มาเสียชีวิตอีกคน เพราะเป็นโรคเบาหวานและโรคแทรกซ้อน ตอนแรกก็อยู่กับพี่ชาย ซึ่งไม่รู้จะอยู่อย่างไรได้เพราะไม่มีตังค์ พี่ชายจึงเดินทางไปทำงานที่ชลบุรีและมีครอบครัว ก็เลยบอกว่าอยู่คนเดียวได้ มีพี่ป้าน้าอา ช่วยกันวนมาดูบ้าง
สำหรับ น.ส.จิรัดสยา ปัจจุบันมีเงินค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันสำหรับไปโรงเรียน ค่าน้ำ ค่าไฟ ทุกอย่างในบ้านจากพี่ชายเดือนละประมาณ 2,000 หรือ 3,000 บาท บางเดือนพี่ชายไม่พอก็ไม่ได้ให้ วันหยุดก็จะออกไปรับจ้างปลูกมันสำปะหลังได้วันละ 250 บาท มาช่วยเป็นค่าใช้จ่ายบ้าง ทุกวันนี้เธออยากเรียนต่อให้จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 คาดว่า ในช่วงเดือน มี.ค.63 นี้ จะจบการศึกษา อยากจะไปสมัครเป็นทหารพรานหญิง เพื่อจะให้ได้สิทธิ์ไปสอบตำรวจหญิงในอนาคตด้วย
นายองอาจ แสนกล้า ผู้ใหญ่บ้าน ม.9 บ้านทับทิมสยาม 03 ต.ทัพไทย กล่าวว่า การช่วยเหลือเด็กคนนี้อยู่ระหว่างระดมทุนจากหลายส่วน โดยเฉพาะหมู่บ้านก็ช่วย ทางอำเภอ ทางชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน ช่วยหาทุนมาสร้างบ้านใหม่ให้น้อง ซึ่งทางอำเภอประเมินไปว่า เสียหายอยู่ประมาณ 130,000 บาท ในการก่อสร้างใหม่ ตนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ก็ต้องใช้แรงงานจากชุมชนมาช่วยกันในรูปจิตอาสา โดยการก่อสร้างก็จะสร้างตามแบบบ้านในโครงการฯเดิม ต่อไปก็ต้องช่วยกันดูแลจิตใจ ซึ่งเด็กหลังจากพ่อแม่เสียก็สามารถอยู่คนเดียวได้ มีจิตใจเข้มแข็ง
น.ส.ปัณพิชชา พูนล้น ครูประจำชั้นและอาจารย์ที่ปรึกษา บอกว่า ก็ช่วยกันดูแลสภาพจิตใจเด็ก ดูแลเรื่องการเรียนและติดตามน้องตลอด เพราะได้ออกมาเยี่ยมบ้านและทราบข่าวว่า น้องตองอาศัยอยู่คนเดียว เนื่องจากใน 3-4 ปีนี้พ่อแม่เสียชีวิต และตากับยายก็เสียชีวิตหมดแล้ว โดยน้องสามารถอยู่คนเดียวได้ สามารถดูแลตัวเอง ช่วงเสาร์อาทิตย์ก็ไปทำงานบ้าง ทางครูก็จะช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด
ทางด้าน นายวิษณุ เกิดในหล้า ผอ.โรงเรียนทัพราชวิทยา กล่าวทิ้งท้ายว่า เรื่องการศึกษาทางโรงเรียนได้พูดคุยกันว่า ทางโรงเรียนมีระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยคุณครูในทุกรายวิชาจะช่วยติดตามในเรื่องการเรียนการสอน ใบงาน ชิ้นงาน และองค์ความรู้ โดยผ่านครูที่ปรึกษาจะรวบรวมมา ทั้งการสอนในโรงเรียนและนักศึกษาวิชาทหาร พร้อมทั้งบูรณาการกับสำนักงานเขตการศึกษาฯ ทางอำเภอ ชุมชน จะได้ประสานช่วยเหลือนักเรียนอย่างดีที่สุด โดยเฉพาะเรื่องสภาพจิตใจที่จะต้องดูแลให้เด็กเข้มแข็งสามารถอยู่ในสังคมได้ด้วยความอบอุ่นต่อไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มีจิตศรัทธาหรือผู้ที่ใจบุญต้องการช่วยเหลือด้านการศึกษาและการก่อสร้างบ้านใหม่ให้กับ น.ส.จิรัดสยา อิ่มกระสัง นักเรียนหญิงชั้น ม.6 ที่ผู้ประสบอัคคีภัยบ้านถูกไฟไหม้วอดทั้งหลัง สามารถบริจาคเงินผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาตาพระยา ชื่อบัญชี น.ส.จิรัดสยา อิ่มกระสัง เลขที่บัญชี 240-0-37320-5 พร้อมทั้งสามารถบริจาคเสื้อผ้า สิ่งของเครื่องใช้ หรืออุปกรณ์สำหรับก่อสร้างบ้านให้กับเด็กหญิงรายนี้ ได้ที่บ้านเลขที่ 112 ม.9 บ้านทับทิมสยาม 03 ต.ทัพไทย อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว 27180
—————————————
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: