สระแก้ว – ตัวแทนศิษย์เก่า ร.ร.สระแก้ว เดินทางไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ตรวจสอบกรณีสอบสวนความผิดวินัยร้ายแรงผู้บริหารสถานศึกษา จนกว่าคดีความจะแล้วเสร็จ เตรียมรวมพลังศิษย์เก่าฯ ส่งสัญญาณปะทะเต็มกำลัง
เมื่อวันที่ 13 ก.ย.62 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายพงศธร บุญสร้าง และนายกล้าณรงค์ เอี่ยมพิมพ์ ตัวแทนศิษย์เก่า ร.ร.สระแก้ว อ.เมือง จ.สระแก้ว ว่าเมื่อวันที่ 11 ก.ย.62 ที่ผ่านมาได้เดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายพสธร เกริกฤทธิ์ เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน ประจำศูนย์บริการประชาชน 1111 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับเรื่องไว้ ก่อนจะเดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนที่กระทรวงศึกษาธิการ พร้อมทั้งระบุว่า มีการยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมดังกล่าวไปที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ผ่านทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และสำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดสระแก้วด้วย เพื่อขอให้มีการตรวจสอบการดำเนินการสอบสวนวินัยร้ายแรงผู้บริหารโรงเรียนดังกล่าว
ทั้งนี้ หนังสือขอความเป็นธรรมดังกล่าว ระบุว่า เนื่องด้วยผู้บริหารโรงเรียนดังกล่าว ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ในระหว่างการถูกร้องเรียนและกำลังถูกสอบสวนความผิดวินัยร้ายแรง โดยทางจังหวัดสระแก้วได้ให้ไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 7 แต่ขณะนี้กลับมีการให้กลับเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการในโรงเรียน ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 5 กันยายน 2562 ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงอาจทำให้พยานหลักฐานต่าง ๆ ในการพิจารณาเกิดความวุ่นวาย บุคลากรที่จะให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงเกรงกลัว หวั่นวิตก เสียขวัญและกำลังใจ ซึ่งอาจมาจากการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้ข้อเท็จจริงหยุดชะงักและเบี่ยงเบนประเด็นได้ จึงขอความเป็นธรรมจากท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ดำเนินการให้ผู้บริหารโรงเรียนที่อยู่ระหว่างสอบสวนวินัยร้ายแรง ไปช่วยราชการที่อื่น และย้ายบุคคลดังกล่าวออกจากโรงเรียนสระแก้วโดยทันทีจนกว่าคดีความจะแล้วเสร็จ
อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีนี้ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 7 มีคำสั่งย้ายและทางศึกษาธิการจังหวัดสระแก้วดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง หลังมีการแถลงข่าวและชี้แจงข้อมูลที่ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว กรณีนักเรียนและศิษย์เก่าออกมาชุมนุมประท้วงขับไล่จากข้อร้องเรียนหลายกรณี เมื่อวันที่ 1 มี.ค.62 ที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุด ภายหลังทางศิษย์เก่าฯ สมาคมผู้ปกครองฯและอดีตอาจารย์ ได้ทราบข่าวกรณีดังกล่าว ได้ออกมาแจ้งข้อมูลข่าวสารกันผ่านทางโซเชียลมีเดียวิพากษ์วิจารณ์องค์การตรวจสอบกรณีนี้ โดยระบุว่า ระบบการสอบสวนเป็นสูญญากาศ เป็นเมฆเป็นหมอก ออกลูกเป็นตัว (เป็ด ก๊าบๆ) รับปากไปงั้น ๆ 180 วัน ผ่านไป หมดสิ้นศรัทธากันเลยทีเดียวเชียว แล้วเราจะสอนลูกหลานเรายังไง สถาบันศึกษาอันทรงคุณค่าที่สอนเราและลูกหลานเราต้องรับกรรมเยี่ยงนี้ องค์กรตรวจสอบสอบสวนเป็นเยี่ยงนี้ แล้วเราจะนิ่งดูดายกันหรือพ่อแม่ ผู้ปกครอง ศิษย์เก่าทั้งหลาย จงออกมาปกป้องเถิด ระดมกำลังกัน ส่งสัญญาณการปะทะออกมากันให้เต็มกำลัง ในเมื่อให้โอกาสหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ตามวิถีทางอันควรแล้วแต่ไม่มีข้อสรุป ไม่มีผล แต่จากภาพมันฟ้องว่า มันไร้ซึ่งประสิทธิภาพอย่างรุนแรงที่องค์กรเหล่านี้รับปากเด็ก ๆ ไว้ แต่ทำไม่ได้โดยสิ้นเชิง เสียดายภาษียิ่งนัก ไม่มีที่พึ่งพาได้แล้วน้อง ๆ สก. แล้วเธอจะพึ่งใคร #อาลัยและเสียใจยิ่งนักต่อหน่วยงานที่รับปากเด็ก #แล้วเธอจะพึ่งใคร #ขอพลังศิษย์เก่าทุกรุ่นใครจะลุย พิมพ์ 1 ด้วยจิตคาราวะ
—————————
