สระแก้ว – แถลงสรุปผลการปฏิบัติงานและปิดศูนย์ฯ เทศกาลสงกรานต์ 2561 พบสถิติลดลง 20% ตาย 5 ศพ รถเพิ่มขึ้น 3 เท่าจากปีที่แล้ว พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่เสียสละเวลาปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการเดินทาง
เมื่อวันที่ 18 เม.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว มีการสรุปผลการปฏิบัติงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี พ.ศ.2561 ซึ่งพบว่า สถิติอุบัติเหตุลดลง ร้อยละ 20 ทั้งการเกิดอุบัติเหตุ (ลดลง 10 ครั้ง) และจำนวนผู้บาดเจ็บ (9 ราย) ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเท่าเดิม( 5 ราย ) โดยมีสาเหตุและพฤติกรรมเสี่ยง คือ การเมาสุรา การขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ยังคงเป็นปัจจัยหลักพร้อมกันนี้ได้กล่าวขอบคุณ คณะกรรมการศูนย์ฯ เจ้าหน้าที่ และผู้ปฏิบัติงานร่วมจุดตรวจ จุดบริการ และอำนวยความสะดวก“ที่ได้ทุ่มเท เสียสละเวลาในช่วงวันหยุดช่วงเทศกาลปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้พี่น้องประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาด้วยความสะดวกปลอดภัย” หลังจากนี้ จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบ วิเคราะห์ ข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนน และถอดบทเรียนการทำงาน เพื่อมุ่งสร้างให้ถนนทุกสายของจังหวัดสระแก้วเป็นถนนแห่งความปลอดภัยในทุกการเดินทาง ขณะที่การสัญจรผ่านช่องเขาตะโก และช่องเขาตะกิ่ว พบมีปริมาณรถเพิ่มมากขึ้น เกือบ 3 เท่าตัว โดยมีประมาณ 17,742 คัน เมื่อเทียบกับเทศกาลที่แล้ว ทั้งขาขึ้นและขาลง โดยรวมสภาพการจราจรมีความคล่องตัว ซึ่งเป็นผลจากการบริหารจัดการระหว่างรถเล็ก และรถบรรทุก ให้วิ่งคนละช่องทาง
โดยนายพรพจน์ เพ็ญพาส ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดสระแก้ว ได้มอบหมายให้ นายภูสิต สมจิตต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานสรุปผลการปฏิบัติงานการรณรงค์และลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2561 ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2561 รวมวันที่ 7 ของการรณรงค์ฯ โดยมีคณะกรรมการศูนย์ฯ และหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วม พิธีปิดศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางทางถนน ซึ่งมีอำเภอทั้ง 9 อำเภอ ร่วมประชุมผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล หรือ VDO Conference ประธานได้แถลงสรุปผลการปฏิบัติงานว่า จังหวัดสระแก้ว ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2561 ภายใต้แนวคิด“ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” และคุมเข้มตามมาตรการ “4 ห้าม 2 ต้อง” โดย 4 ห้าม ได้แก่ 1.ห้ามขับรถเร็ว 2.ห้ามดื่มแล้วขับ 3.ห้ามโทรแล้วขับ 4.ง่วงห้ามขับ ขณะที่ 2 ต้อง ได้แก่ 1.ต้องสวมหมวกกันน็อก 2.ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งที่เดินทาง
ข่าวน่าสนใจ:
- งูหลามตัวใหญ่เข้าบ้าน แจ้งกู้ภัยฯช่วยจับ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
- จนมุมเพราะไก่ชน!! ตำรวจบางละมุงวางแผนเหนือเมฆ หลอกแก๊งค์ค้ายานรกมาซื้อไก่ชน ก่อนตามรวบยกแก๊งค์ ยึดยาบ้าแสนเม็ด - ไอซ์ 1 กก. พร้อมรถ 2 คัน…
- เอเย่นต์ยาบ้าร้องไห้โฮ หลังชุด ฉก.ปกครองบุกจับ ตรวจพบของกลางกลับโทษภรรยา ไม่ยอมซุกซ่อนยาเสพติดให้ดี จ.สระแก้ว
- ส่งตัว 3 ผู้ต้องหาฝากขัง คดีหนุ่ม 20 ปี ถูกยิงดับบริเวณคูกันช้าง อ้างปืนลั่น จ.สระแก้ว
สำหรับสถิติในปีนี้ 2561 พบว่า สถิติจำนวนครั้งการเกิด และผู้บาดเจ็บ ได้ลดลง ร้อยละ 20 โดยสถิติอุบัติเหตุสะสม 7 วัน ของการรณรงค์ฯ จำนวนครั้งการเกิดอุบัติเหตุ 38 ครั้ง (ลดลง 10 ครั้ง ) ผู้บาดเจ็บ 36 ราย (ลดลง 9 ราย) และผู้เสียชีวิต 5 ราย (เท่าเดิม) ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2560 โดยมีสาเหตุและพฤติกรรมเสี่ยง คือ การเมาสุรา ( 22ครั้ง) มาเป็นอันดับแรก การขับรถเร็วเกินกว่าที่กฏหมายกำหนด ( 8 ครั้ง) รองลงมา และตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด ( 4 ครั้ง) ตามลำดับ โดยแยกเป็นรายอำเภอ เกิดอุบัตเหตุสูงสุด คือ อำเภอเมืองสระแก้ว 13 ครั้ง (เป็นพื้นที่สีแดง) เขาฉกรรจ์ 7 ครั้ง อรัญประเทศ 5 ครั้ง โดยมีผู้เสียชีวิต ได้แก่ อำเภอเมืองสระแก้ว 4 ราย เขาฉกรรจ์ 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บ ได้แก่ อำเภอเมืองสระแก้ว เขาฉกรรจ์ อรัญประเทศ
ส่วนผลการปฏิบัติงานจังหวัดสระแก้ว ได้มีการตั้งจุดตรวจบนถนนสายหลักทั้ง 9 อำเภอ รวม 25 จุด/วัน สะสม 7 วัน ผู้ปฏิบัติหน้าที่ร่วมจุดตรวจ 651 คน ตั้งจุดตรวจจุดสกัดประจำหมู่บ้าน /แนะนำ รวม 735 จุด ผู้ปฏิบัติหน้าที่ร่วมจุดตรวจ 2,903 คน ได้เรียกตรวจรถจักรยานยนต์ 1,039 คัน รถปิกอัพ 2,001 คัน รถเก๋ง/แท็กซี่ 2,246 คัน รถตู้ 443 คัน รถโดยสาร 43 ล้อ ขึ้นไป 26 คัน รถโดยสาร 6 ล้อ ขึ้นไป 26 คัน รถ SUV 281 คัน รถโดยสาร 201 คัน รถบรรทุก คัน รวมทั้งสิ้น 57,230 คัน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ จำนวน 25,071 ราย ถูกดำเนินคดีสะสม จำนวน 234 ราย สำนักงานขนส่งจังหวัดสระแก้ว เรียกตรวจรถโดยสารประจำทางสาธารณะ สะสม จำนวน 1,366 เที่ยว ไม่พบผู้ขับขี่มีระดับแอลกอฮอล์ และการตรวจสภาพรถประจำทางสาธารณะ พบว่า สมบูรณ์ 145 คัน สะสม 960และผลการเปิดใช้เส้นทางสำรองช่องตะกิ่ว ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3308 ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2561 ขาขึ้น (ตาพระยา – ละหานทราย) จำนวน 11,353 คัน ขาลง (ละหานทราย – ตาพระยา) 6,390 คัน รวมปริมาณรถ สะสมทั้ง 7 วัน ทั้งขาขึ้น และขาลง 17,742 คัน สูงจากเทศกาลที่แล้ว 11,636 คัน ซึ่ง เพิ่มขึ้นคิดเป็น ร้อย 190 ซึ่งจากการที่ให้รถเล็กสัญจรช่องเขาตะโก และรถบรรทุกเขาช่องตะกิ่ว ส่งผลให้การจราจรโดยทั่วไปมีความสะดวก และคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
นายภูสิต สมจิตต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้กล่าวขอบคุณ คณะการศูนย์ฯ เจ้าหน้าที่ผู้ร่วมปฏิบัติงาน ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสารักษาดินแดน (อส.) อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) มูลนิธิกู้ภัยในพื้นที่ แขวงการทางสระแก้ว เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระแก้ว ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 3 ปราจีนบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่เสียสละเวลาในช่วงวันหยุดเทศกาลมาปฏิบัติหน้าที่ ในการเตรียมความพร้อม อำนวยความสะดวกด้านการจราจร โดยจัดตั้งจุดตรวจ จุดบริการ จุดอำนวยความสะดวก ด่านชุมชน เพื่อให้พี่น้องประชาชน มีความปลอดภัย และความสะดวกในการเดินทางกลับภูมิลำเนา เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งจังหวัดสระแก้ว สามารถลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุและผู้เสียชีวิตได้ และหลังจากนี้ จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบ วิเคราะห์ข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนน พร้อมถอดบทเรียนการทำงาน เพื่อมุ่งสร้างให้ถนนทุกสายของจังหวัดสระแก้วเป็นถนนแห่งความปลอดภัยในทุกการเดินทาง ทั้ง 365 วัน เป็นไปด้วยความสุขและปลอดภัย
นายพีระพงศ์ หมื่นผ่อง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า เบื้องต้นสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระแก้ว ได้บูรณาทุกภาคส่วน ดำเนินการตามแผนป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน โดยจะประสานคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ตรวจสอบและวิเคราะห์ ข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนน เพื่อให้ถึงทราบสาเหตุ และปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในเชิงลึก พร้อมถอดบทเรียนการทำงานทุกภาคส่วน ซึ่งจะได้นำปัจจัยแห่งความสำเร็จมาเป็นแบบต้นแบบมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพปัญหา และบริบทของสังคม เพื่อเสริมสร้างกลไกการลดอุบัติเหตุทางถนนให้เป็นระบบและเข็มแข็ง รวมทั้งนำปัญหาอุปกสรรค์ที่เป็นจุดอ่อนในการทำงานมาปรับปรุงและพัฒนาแนวทางการแก้ไขปัญหาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อมุ่งสร้างให้ถนนทุกสายของจังหวัดสระแก้ว เป็นถนนแห่งความปลอดภัย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: