สระแก้ว – ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ร่วมปล่อยขบวนแห่พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์และรูปหล่อเจ้าพ่อพระปรง งานวันไหลสระแก้ว เพื่อส่งท้ายเทศกาลสงกรานต์ ปี 2561 ให้ประชาชนคนสระแก้วที่เคารพนับถือได้สรงน้ำและกราบสักการะ คนแห่ร่วมงานและเล่นสาดน้ำปิดท้ายเทศกาลสงกรานต์ตลอดเส้นทางจำนวนมากอย่างคึกคัก
เมื่อเวลา 08.20 น.วันที่ 19 เม.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพรพจน์ เพ็ญพาส ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วย นายภูสิต สมจิตต์ นายรณรงค์ นครจินดา รองผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมกันเป็นประธานปล่อยขบวนแห่พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์และแห่รูปหล่อเจ้าพ่อพระปรง เนื่องในงานประเพณีแห่เจ้าพ่อพระปรง เพื่อสรงน้ำในเทศกาลสงกรานต์ ปี 2561 หรือที่รู้จักกันว่าเป็นวันไหลสระแก้ว สำหรับส่งท้ายเทศกาลสงกรานต์ โดยชาวสระแก้วและจังหวัดใกล้เคียง จะร่วมกันสรงน้ำขบวนแห่เจ้าพ่อพระปรง และเล่นน้ำสงกรานต์กันอย่างสนุกสนานตลอดเส้นทางถนนสุวรรณศร หรือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 33 ตั้งแต่เขตติดต่อ จ.ปราจีนบุรี มุ่งหน้าเข้าเขตเทศบาลเมืองสระแก้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศงานประเพณีแห่เจ้าพ่อพระปรงและงานวันไหลสระแก้ว ขบวนแห่รูปหล่อองค์เจ้าพ่อพระปรงได้เริ่มเคลื่อนออกจากศาลเจ้าพ่อ ซึ่งที่ตั้งอยู่ในเขตรอยต่อกับจังหวัดปราจีนบุรีในช่วงเช้า และเข้าสู่ในเขตเทศาลบาลเมืองสระแก้ว ในช่วงบ่ายเพื่อให้ประชาชนที่เคารพนับถือได้ร่วมกันสรงน้ำในเทศกาลสงกรานต์ จากนั้นขบวนจึงได้เคลื่อนไปยังเส้นทางเพื่อไปยังศาลากลางจังหวัดและตลาดท่าเกษม ก่อนจะย้อนกลับมาที่สนามกีฬาเทศบาล เพื่อให้ประชาชนได้กราบไหว้สักการะ
ข่าวน่าสนใจ:
ทั้งนี้ สำหรับขบวนแห่เจ้าพ่อปรง เริ่มปล่อยขบวนแห่เจ้าพ่อปรง เวลา 09.00 น. ถึงตำบลบ้านแก้ง เวลา 10.00 น. ถึงตำบลศาลาลำดวน เวลา 11.00 น. และเมื่อเคลื่อนขบวนแห่มาถึงบริเวณแยกไฟแดง (หน้าเซเว่นฯ) เขตเทศบาลเมือง ก็เลี้ยวซ้ายเข้าตลาดตระกูลสุข ถนนเทศบาล 19 และเลี้ยวซ้ายถนนเทศบาล 17 ซอย 3 สนามกีฬาเทศบาลเมืองสระแก้ว และเลี้ยวซ้ายผ่านร้านแว่นท็อปเจริญ ออกสู่ถนนสุวรรณศร เพื่อตรงไปยังศาลากลางจังหวัดสระแก้วและตลาดท่าเกษม เพื่อให้ประชาชนได้สรงน้ำพระศักดิ์สิทธิ์ทั่วถึงทั้งจังหวัด เพื่อความเป็นสิริมงคลตามประเพณีที่ได้ปฏิบัติสืบทอดกันมา
ทางด้าน นายพรพจน์ เพ็ญพาส ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า ภายหลังการประชุมศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนนอำเภอเมืองสระแก้วเป็นการประชุมเพื่อสรุปและซักซ้อมการปฎิบัติหน้าที่ในวันไหลเจ้าพ่อพระปรง โดยยังยึดแนวทางการปฏิบัติเดิมของปีที่แล้ว เป้าหมายหลักคือการที่พี่น้องประชาชนที่เจ็บไข้ได้ป่วย และมีความจำเป็นต้องเข้าโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ต้องสามารถเดินทางเข้ารับการรักษาได้ทันท่วงที หรือเรื่องห้ามตั้งเครื่องเสียงและเวทีดนตรี บริเวณสองข้างถนนสุวรรณศรตั้งแต่จุดกลับรถโรงสีเม่งฮวดถึงแยกสระแก้ว และการเข้มงวดการจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ พร้อมทั้งจัดเตรียมป้ายประชาสัมพันธ์ สำหรับผู้ที่จะเดินทางจากเส้นทางอรัญประเทศ วัฒนานคร กบินทร์บุรีไว้ให้เลี่ยงเส้นทาง โดยไปในเส้นทางสาย 359 เลี้ยวเข้าไปทางบ้านเขามะกาและออกที่แยกศาลาลำดวน
“นอกจากนั้น ในปีนี้ทางสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสระแก้วยังได้จัดให้มีเวทีการแสดงที่บริเวณสนามกีฬาเทศบาลเมืองสระแก้ว สำหรับผู้ที่มีความประสงค์จะแสดงดนตรี สามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสระแก้วนั้น จากการเตรียมการซึ่งระดมสรรพกำลังทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหาร ปกครอง กู้ภัย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งเทศบาลและ อบต.คาดว่า จะทำให้การดำเนินการดูแลความเรียบร้อยทางการจราจรและการรักษาความปลอดภัยในวันไหลเจ้าพ่อพระปรงปีนี้ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยเป็นที่พึ่งพอใจของทุกฝ่าย” นายพรพจน์ ระบุ
อย่างไรก็ตาม สำหรับรูปหล่อและศาลเจ้าพ่อพระปรง ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนสระแก้ว-ปราจีนบุรี เคารพนับถือ เข้าไปกราบไว้ศาลเจ้าพ่อพระปรง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชุมชนใกล้คลองพระปรง บ้านหนองผูกเต่า ต.ศาลาลำดวน มายาวนาน ซึ่งเจ้าพ่อพระปรง มีนามเดิมว่า หลวงเดชาศิริ เป็นอดีตนายด่านรักษาการณ์อยู่ชายแดนเขต จ.สระแก้ว-ปราจีนบุรี มีความกล้าหาญและเด็ดเดี่ยว เป็นที่เคารพของบุคคลทั่วไป มีสหายคู่ใจ คือ นายเสือ กับนายสิงห์ ปัจจุบัน เจ้าพ่อเสือ อยู่ที่แควหนุมาน และเจ้าพ่อสิงห์ อยู่ที่จังหวัดจันทบุรี เมื่อมีผู้มาอธิษฐานขอพรแล้วจะประสบความสำเร็จสมความปรารถนา จึงทำให้มีผู้คนให้ความเลื่อมใสศรัทธาจำนวนมาก
เมื่อประชาชนขับรถสัญจรผ่านศาลพระปรง ส่วนหนึ่งจะแวะสักการะกราบไหว้ หรือบีบแตรรถแสดงการคารวะทุกครั้ง ซึ่งช่วงแรกศาลเจ้าพ่อพระปรง เป็นเพียงศาลไม้เล็กๆ ตั้งอยู่บริเวณริมแควพระปรง พื้นที่หมู่ที่ 8 บ้านหนองโดน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี บนถนนสายสุวรรณศร (สาย 33 เดิม) ชาวบ้านหนองผูกเต่า มีความเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าพ่อพระปรง จึงได้ร่วมกันบูรณะ และกราบไหว้บูชา จนเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านหนองผูกเต่า เป็นต้นมา
ต่อมาในปี พ.ศ.2517 จึงได้ย้ายศาลพระปรงมาตั้งอยู่ริมถนนสุวรรณศร หมายเลข 33 บริเวณสุดเขต อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี รอยต่อกับเขต จ.สระแก้ว ริมแควพระปรง ซึ่งเป็นลำน้ำกั้นเขต 2 จังหวัด จึงเริ่มมีประเพณีสรงน้ำเจ้าพ่อพระปรงขึ้น โดยเริ่มต้นช่วงที่ พระคำหล้า ขันติสาโร นายสมัย จันทวงษ์ และนายบุญรัตน์ เชื้อแก้ว พร้อมด้วยชาวบ้านหนองผูกเต่า ได้ร่วมกันอัญเชิญเจ้าพ่อพระปรง มาประดิษฐานที่สี่แยกถนนสายเก่า และร่วมกันทำพิธีสรงน้ำในเทศกาลสงกรานต์ติดต่อกันมาทุกปี จนกลายเป็นประเพณีของชุมชนในปัจจุบัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: