สระแก้ว – เด็กนักเรียนชาย ม.2/7 โรงเรียนชื่อดังใน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ที่ตกเป็นข่าวโด่งดัง กรณีคลิปถูกครูทำโทษด้วยการตบปากเมื่อกลางเดือน ส.ค.เสียชีวิตแล้ว แม่ปฏิเสธให้สัมภาษณ์เพราะยังอยู่ในอาการเศร้าโศก ส่วนครูโพสต์ไว้อาลัยลูกศิษย์ทีมฟุตบอลทั้งน้ำตาสุดเศร้า หลังลูกศิษย์ตายได้ 5 วัน
เมื่อวันที่ 28 ก.ย.62 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากผู้ปกครองนักเรียนที่เดินทางเข้าร้องเรียนครูทำโทษไม่เหมาะสม กรณีคลิปภาพครูผู้สอนวิชาการค้นคว้าอิสระ ทำโทษนักเรียนชั้น ม.2/7 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งมีการเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียและตกเป็นข่าวดังทางสื่อมวลชน เมื่อช่วงกลางเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 ส.ค.62 เวลา 14.30 น.ระหว่างที่ครูผู้สอน ในฐานะลูกจ้าง ครูผู้ทรงคุณค่าแห่งแผ่นดิน ได้ทำโทษ ด.ช.นครินทร์ ล้อประโคน อายุ 14 ปี ซึ่งส่งเสียงดังรบกวนขณะเพื่อนนักเรียนรายงานหน้าชั้นเรียน โดยการเรียกไปที่หน้าชั้นเรียนและตบที่ปากอย่างแรง กระทั่งครูคนดังกล่าว ต้องยื่นหนังสือลาออกจากการปฏิบัติงานตำแหน่งครูผู้สอน ครูผู้ทรงคุณค่าแห่งแผ่นดิน หลังตกเป็นข่าวนั้น
ข่าวน่าสนใจ:
- ชุดปฏิบัติการพิเศษฯตามจับ "เอ็ม ท่าผักชี" แก๊งค้ายาบ้าพื้นที่เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว
- พิธีตัดผ้าไหมลายสิริวชิราภรณ์ โครงการทอผ้าลายสิริวชิราภรณ์ เฉลิมพระเกียรติฯ จ.สระแก้ว
- ป่วนเมือง!! วัยรุ่นสระแก้วนับสิบไล่ปาระเบิดปิงปองใส่กัน กลางเมืองสระแก้ว
- ตำรวจเข้มหลังวัยรุ่นก่อเหตุไล่ตีกันและปาระเบิดปิงปองกลางเมืองสระแก้ว ตรวจยึดรถ จยย.กว่า 50 คัน
ล่าสุด นางสำเภา สลินลำจวน อายุ 42 ปี มารดาของ ด.ช.นครินทร์ ล้อประโคน นักเรียนชั้น ม.2/7 ภูมิลำเนาอยู่ที่ ม.7 บ้านตุ่น ต.บ้านด่าน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวระหว่างเดินทางมาติดต่อขอรับค่าชดเชย พ.ร.บ.ประกันภัยผู้ประสบภัยจากรถ ที่ศาลากลางจังหวัดสระแก้วและบริษัทประกันภัยในตัวเมือง จ.สระแก้ว วานนี้ (27 ก.ย.)ว่า ขณะนี้ ด.ช.นครินทร์ ได้เสียชีวิตแล้ว โดยเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนต้นไม้ หลังมีข่าวกรณีถูกครูตบปากดังกล่าวได้เพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น โดยในวันนี้(28 ก.ย.) ก็จะครบ 1 เดือน สำหรับการตายของลูกชายแล้ว ซึ่งทางแม่และญาติก็เสียใจ ไม่คาดคิดว่าน้องจะมาเสียชีวิตเร็วขนาดนี้ พร้อมทั้งปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กรณีดังกล่าวอีก เนื่องจากยังอยู่ในอากาศโศกเศร้า
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2562 เวลา 19.47 น.โดยศูนย์วิทยุสว่างเที่ยงธรรมฯ ได้รับแจ้งจากศูนย์นเรนทรสระแก้วว่า มีผู้ประสบอุบัติเหตุอยู่ที่บริเวณบ้านตุ่น ต.บ้านด่าน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ร้องขอให้นำรถพยาบาลไปรับคนเจ็บ 2 คัน โดยพบผู้บาดเจ็บเป็นเด็กนักเรียนชาย 2 ราย อายุ 14-15 ปี เบื้องต้นสาเหตุแจ้งว่าจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ หมายเลขทะเบียน กฉล-428 สระแก้ว ล้มเอง อาการได้รับบาดเจ็บสาหัส หมดสติไม่มีชีพจรทั้ง 2 ราย ทางอาสาสมัครได้ทำการ CPR พร้อมนำส่ง รพ.อรัญประเทศและเสียชีวิตทั้งสองราย ทราบชื่อภายหลังคือ ด.ช.นครินทร์ ล้อประโคน นักเรียนชั้น ม.2/7 ที่ถูกทำโทษจนตกเป็นข่าวดังและเพื่อนอีก 1 คนด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดกรณีการเสียชีวิตของเด็กนักเรียนรายดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง ๆ นานาอย่างหนัก ในกลุ่มแวดวงการศึกษา นักเรียน ศึกษานิเทศก์และผู้บริหารการศึกษา เนื่องจากหลายฝ่ายไม่คาดคิดว่า เด็กจะมาเสียชีวิต ซึ่งข้อมูลจากเพื่อนนักเรียนด้วยกันแจ้งว่า เด็กนักเรียนที่เสียชีวิตมักจะไปซ้อมฟุตบอลกับเพื่อน ๆ ร.ร.บ้านตุ่น เป็นประจำและกลับบ้านหลังซ้อมฟุตบอลเสร็จแบบนี้ทุกวัน จึงไม่แน่ใจว่า มีกรณีอุบัติเหตุมีประเด็นอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่
โดยหลังเกิดเหตุดังกล่าว ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Parinya Suttiwanich เคยเป็นครูสอนเด็กที่เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ได้โพสต์แสดงความรู้สึกคิดถึงความหลัง เมื่อ 3 กันยายน เวลา 06.50 น.หลังเด็กนักเรียนรายดังกล่าวเสียชีวิตได้เพียง 5 วันว่า “ฝันเห็นทั้งสองมาซ้อมบอลเช่นเดิมเหมือนตอนที่ผมยังอยู่ที่โรงเรียนบ้านตุ่น ผมก็รู้ว่าทั้งคู่จากไปแล้ว ผมเลยถามว่าไม่ไปไหนเหรอลูก คนนึงซ้อมกับเพื่อนอยู่ คนนึงบอกผมไม่ไปไหนหรอกครู ผมขอตามไปดูเพื่อนเตะบอลด้วย ผมร้องไห้ในความฝันและตื่นมาน้ำตาในฝันยังไหลอยู่จริง จิตใต้สำนึกผมมันผูกพันกับลูกศิษย์ทั้งสองด้วยฟุตบอล และฟุตซอลที่เราก้าวผ่านหลายความรู้สึกหลายอารมณ์ประสบความสำเร็จมากมาย
“รุ่นแรกคือเด็ก พ.ศ.เกิด 2546 รุ่นนี้เก่งมาก ทุกรายการได้แค่ที่ 2 ได้ยินชื่อทีมก็อยากจะหลบเด็ก ๆ ผมแล้ว ณ ตอนนั้นท้าชนทุกทีมล้มช้างล้มยักษ์ตลอด ยอมรับว่า เราเจอแต่เก่ง ๆ ตลอด รุ่นที่ 2 พ.ศ.เกิด 2547+2548 รุ่นนี้ปลดล็อคให้ผมว่า สิ่งที่หลายคนเย้ยหยันผมไว้ว่า ได้แต่ที่ 2 ได้หมดไป เพราะพวกเขาทำได้ในสิ่งที่รุ่นพี่ทำไม่ได้ วันที่ชูถ้วยรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่ง ผมถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เด็ก ๆ ของผมบอกว่า “ครูครับเราได้แล้วที่ 1 ถ้วยนี้ให้ครู ครูเก็บไว้เลย” แล้วก็ได้ถึง 2 ปีซ้อน ขอบคุณจริง ๆ ที่พิสูจน์ว่า สิ่งที่สั่งสอนไปนั้นไม่เคยสูญเปล่า ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน เด็กทุกคนคือความภาคภูมิใจของผม “ยูรและฉับ” อยู่ในรุ่นบุกเบิกแชมป์ครับ จะรวมพลกลับมาซ้อมกันอีกในนามศิษย์เก่าโรงเรียนบ้านตุ่นอีกครั้ง เพื่อทั้งสองคน จะได้ตามมาดูแบบที่มาบอกครูไว้ในความฝัน ครูจะสละเวลาส่วนตัวให้ เพื่อเป็นการไว้อาลัยให้ทั้งสองที่จากไป” ครู Parinya Suttiwanich เขียนไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัวหลังลูกศิษย์เสียชีวิตได้ 5 วัน
——————————-
ขอบคุณภาพ/เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างเที่ยงธรรมฯ อ.อรัญประเทศ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: