สระแก้ว – รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ลงพื้นที่ตรวจเข้มติดตามปัญหาสิ่งแวดล้อมและแผนแม่บทพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้ในจังหวัดสระเเก้ว
เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมสำนักงานงานอุตสาหกรรมจังหวัดสระแก้ว ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว พลตรีปรเมศวร์ กันมินทร์ รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ศปป.4 กอ.รมน.) และคณะลงพื้นที่จังหวัดสระแก้ว เพื่อติดตามและตรวจชี้แจงให้คำแนะนำประเมินผลการปฏิบัติงานตามแผนแม่บท เพื่อแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน โดยมี พ.อ.เฉลิม เนียมช่วย รอง ผอ.รมน.จังหวัดสระแก้ว และหัวหน้าส่วนราชการและผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ จากนั้นก็ได้เข้าพบปะพูดคุย กับนายพรพจน์ เพ็ญพาส ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เพื่อมอบแนวทางต่าง ๆ ในการปฏิบัติงานด้วย
พลตรีปรเมศวร์ กันมินทร์ รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กอ.รมน. กล่าวว่า การเดินทางมาตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ เพื่อเป็นการตรวจติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานตามแผนแม่บทพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และรับทราบปัญหาขัดข้องในการปฏิบัติงานของ กอ.รมน.จังหวัดสระแก้ว พร้อมทั้งมอบนโยบายในการปฏิบัติ โดยพันเอกเฉลิม เนียมช่วย รอง ผอ.รมน.จังหวัดสระแก้ว ได้กล่าวรายงานสรุปผลการปฏิบัติงานตามแผนแม่บทการพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติ ในภาพรวมของจังหวัดสระแก้วให้รับทราบ ทั้งนี้ ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสระแก้ว ได้ดำเนินการตามแผนงานโครงการ ประกอบด้วย โครงการประเมินผลการปฏิบัติงานตามแผนแม่บท เป้าหมายใน 4 ประเด็น คือ ยุทธศาสตร์การผนึกกำลังป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ ยุทธศาสตร์ปลุกจิตสำนึกรักผืนป่าของแผ่นดิน ยุทธศาสตร์ปฏิรูประบบพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้และยุทธศาสตร์ฟื้นฟูและดูแลอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ พลตรีปรเมศวร์ ได้สั่งการให้ กอ.รมน.จังหวัดสระแก้ว ต้องเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการแก้ไขปัญหาสำคัญเร่งด่วน ทั้งในเรื่องการหมิ่นสถาบัน ความแตกแยกในสังคม การแก้ไขปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ปัญหายาเสพติด ปัญหาการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า การบุกรุกเขตป่าสงวน ตลอดจนสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ได้ดำเนินการอยู่ในทุกพื้นที่และทุกส่วนราชการในการบูรณาการร่วมกันและร่วมมือในการแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด รวมทั้งสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนเกิดความรัก ความสามัคคี ความสมานฉันท์ และความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์.
