สระแก้ว – ผบ.กกล.บูรพา เดินทางลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณด่าน จ.สระแก้ว พร้อมมอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดสนธิกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ทำการป้องกันและปราบปรามปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ ตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวด
เมื่อวันที่ 24 ต.ค.62 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประทศ จ.สระแก้ว พล.ต.ธราพงษ์ มะละคำ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา พร้อมคณะเดินทางมาที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของ เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ทหารพราน ชค.ทพ.12, ชค.ทพ.ที่13 ,ตชด.12 ,ตม.จ.สระแก้ว และเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรอรัญประเทศ โดย พล.ต.ธราพงษ์ ยังได้มอบนโยบายให้กับเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่าง ๆ โดยให้ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันและปราบปรามปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีระยะทางประมาณ 165 กม.อย่างเข้มงวด
ทั้งนี้ จากการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายในครั้งนี้ มีการต้อนรับและพาเยี่ยมชมการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามแนวชายแดน โดย พล.ต.ธราพงษ์ มะละคำ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา เปิดเผยว่า ตามที่ พลโท ธรรมนูญวิถี ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ได้มีนโยบายให้กำลังป้องกันชายแดน เข้มงวดในการป้องกันการกระทำผิดกฎหมายต่างๆตามแนวชายแดน โดยให้เจ้าหน้าที่ในสังกัด กกล.บูรพา ดำเนินการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นปฏิบัติงานทุกๆ ครั้ง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ ตามแนวชายแดนอย่างสูงสุด
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ธราพงษ์ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของกำลังพล หน่วยขึ้นตรงกับกองกำลังบูรพาและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ศุลกากรอรัญประเทศ โดยเฉพาะการตรวจสอบสัมภาระของผู้ที่ผ่านเข้าออกบริเวณจุดผ่านแดน ตรวจเยี่ยมจุดตรวจร่วมยาเสพติดของเจ้าหน้าที่พราน ชค.ทพ.1212 จุดตรวจ อ.05 และตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่บริเวณสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก โดยได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานร่วมกันดังกล่าว เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลที่ผ่านเข้าออกภายในราชอาณาจักร โดยเฉพาะในห้วงที่มีคนพลุกพล่าน และเน้นย้ำการตรวจหาสิ่งผิดกฎหมายที่อาจจะมีการซุกซ่อนเข้ามากับสัมภาระต่าง ๆ หรือตามร่างกาย โดยให้ใช้การบูรณาการด้านข่าวสารร่วมกันระหว่างหน่วยงาน และขอให้ทุกหน่วยได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มขีดความสามารถ ซึ่งจะส่งผลต่อความสงบเรียบร้อยของพื้นที่ตามแนวชายแดนอย่างยั่งยืน
—————————
