ไฟไหม้ร้อยเอ็ดอีกรอบหลังจากเมื่อคืนไหม้ตึกเก่า รพ.เอกชนกลางเมืองร้อยเอ็ด รอบนี้ไหม้บ้านเรือนราษฎร ซอยหน้าโรงฆ่าสัตว์เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ควบคุมเพลิงไว้ได้ เหตุไฟฟ้าลัดวงจร
หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมา ในคืนวันที่ 13 มีนาคม เวลา 20.30 น. เกิดเพลิงไหม้ตึกเก่าที่กำลังทุบทิ้ง หลังโรงพยาบาลหลักเมือง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนกลางเมืองร้อยเอ็ด โดยไม่ทราบสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับศูนย์ดับเพลิงของเทศบาลสามารถระงับเหตุไว้ได้ ก่อนจะลุกลามไหม้ อาคารหนาแน่นในย่านชุมชน และควบคุมเพลิงไว้ได้ในเวลาอันรวดเร็ว
และวันนี้ก็เกิดเหตุระทึกและมีไฟไม่ขึ้นอีก ภายในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดอีกครั้ง โดยเมื่อเวลา 10.30 น วันนี้ 14 มีนาคม 2561 ร้อยตำรวจเอก ทศพร อุตมะพรหม พนักงานสอบสวนเวร สภ.ร้อยเอ็ด รับแจ้งเหตุและประสานหน่วยดับเพลิงเทวา ของเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ไประงับเหตุ หลังรับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ที่ซอยจันทรเกษม 2 ตรงข้ามโรงฆ่าสัตว์ของเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด
ที่เกิดเหตุพบไฟไหม้ บนชั้นสองของบ้านไม้เก่า เลขที่ 25/2 ซอยจันทรเกษม 2 ถนนเทวาภิบาล ซอยตรงข้ามโรงฆ่าสัตว์ของเทศบาลกลางเมืองร้อยเอ็ด ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถครับเหตุควบคุมเพลิงที่กำลังลุกไหม้ที่นอนหมอนมุ้งเสื้อผ้าสิ่งของเครื่องใช้ไฟฟ้า บนชั้น 2 ได้ก่อนที่จะลุกลามไหม้ทั้งหลัง และอาคารข้างเคียงไว้ได้ ในเวลารวดเร็ว
จากการสอบสวนปากคำ นางปรีดา นราทร อายุ 51 ปี เจ้าของบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์เพียงลำพังในบ้าน เล่าว่าก่อนเกิดเหตุตอนนั้น อยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน ได้ยินเสียงระเบิดขึ้นหลายครั้งบนบ้าน จึงวิ่งขึ้นไปดูปรากฏว่าไฟลุกไหม้สิ่งของบนชั้นสองอย่างรุนแรงแล้ว จึงร้องตะโกนให้เพื่อนบ้านช่วยดับไฟ แต่ไม่สามารถควบคุมเพลิงไม่ได้ จึงรีบโทรแจ้งตำรวจและศูนย์ดับเพลิงเทวามาระงับเหตุไว้ได้ ก่อนที่จะลุกลามไหม้ทั้งหลัง
ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากเหตุไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบสวนบันทึกปากคำก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบหาสาเหตุที่ชัดเจนเพื่อสรุปหาต้นเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ต่อไป
ในขณะที่เจ้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคร้อยเอ็ดได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุและแนะนำว่ายังไม่ควรที่จะใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดภายในบ้าน จนกว่าจะมีการเดินสายไฟใหม่ทั้งหมด แล้วแจ้งให้เจ้าที่ไฟฟ้ามาตรวจสอบความปลอดภัยก่อน ก่อนที่จะใช้ไฟฟ้าในอาคารต่อไปได้ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยและป้องกันไม่ให้มีการเกิดไฟไหม้ซ้ำซ้อนขึ้นอีก.
