การประชุมสัมมนาเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจกลุ่มจังหวัดอีสานล่าง 1 และอีสานล่าง 2 โดยคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน 2564 ณ โรงแรม เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 โคราช อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการเสวนาครั้งนี้ กล่าวว่า กระผมมีความยินดีและรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ต้อนรับทุกท่าน เข้าสู่การประชุมสัมมนาเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจกลุ่มจังหวัดอีสานล่าง 1 และอีสานล่าง 2 โดยคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) กลุ่มจังหวัด ในวันนี้ ซึ่งเป็นการประสานความร่วมมือของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 และกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 เป็นโอกาสอันดีที่ทั้งสองกลุ่มจังหวัดได้มาขับเคลื่อนและผลักดันโครงการด้านเศรษฐกิจ
เป็นที่ทราบกันดีว่า โลกในวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและมีความผันผวนอย่างมาก โดยเฉพาะปี พ.ศ.2563 – พ.ศ.2564 ที่เกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และเหตุการณ์ภัยธรรมชาติ ส่งผลให้หลายประเทศเกิดการปรับตัวและคิดกลยุทธ์เพื่อรักษาระดับความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้กับประเทศของตนเอง รวมถึงประเทศไทย ที่จะต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศในทุกๆ ด้านตั้งแต่ฐานราก เพื่อตอบสนองต่อวิสัยทัศน์ของประเทศ “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” สร้างรายได้ระดับสูง หลุดพ้นจากรายได้ปานกลางและสร้างความสุขของคนไทย สังคม มีความมั่นคง เสมอภาคและเป็นธรรม ประเทศสามารถแข่งขันได้ในระบบเศรษฐกิจ รัฐบาลจึงมีนโยบายที่จะเร่งการพัฒนาความพร้อมในทุกด้านเพื่อรองรับการลงทุนและการขยายตัวทางเศรษฐกิจในพื้นที่ทั้งทางด้านสาธารณูปโภค ระบบคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการอำนวยความสะดวกในรูปแบบ One Stop Service เพื่อสนับสนุนการประกอบธุรกิจให้มีความสะดวกรวดเร็วที่สุด รวมทั้งรัฐบาลได้คำนึงถึงการพัฒนาเชิงพื้นที่ ทั้งการพัฒนาภาค กลุ่มจังหวัด และจังหวัด รวมทั้งพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค
ดังนั้น ในสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์วิกฤติต่างๆ จึงต้องอาศัยความร่วมมือของหลายภาคส่วน รวมทั้งความร่วมมือระหว่างกลุ่มจังหวัด ซึ่งกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบด้วย 8 จังหวัด คือ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ และยโสธร มีบริบททางด้านสังคม วัฒนธรรม โครงสร้างทางเศรษฐกิจที่คล้ายคลึงกัน และกลุ่มจังหวัดได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาด้านโลจิสติกส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่าเรือบก ที่ผ่านมามีการผลักดันผ่านที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการและขนส่งสินค้า จนกระทั่งได้มีมติเห็นชอบการก่อสร้างท่าเรือบก หนึ่งในพื้นที่ๆ ได้รับความเห็นชอบคือจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งจะทำการศึกษาเพื่อพัฒนาให้เกิดท่าเรือบกต่อไป และแน่นอนว่าโครงการท่าเรือบกดังกล่าวจะก่อให้เกิดผลต่อการค้า การลงทุนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง
การจัดประชุมเสวนาครั้งนี้ ก็เพื่อให้เกิดผลประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจและสังคม ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อการพัฒนาของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 และกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 ผ่านการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจหรือที่เรียกกันว่า กรอ. กลุ่มจังหวัด อันเป็นองค์กรสำคัญในการขับเคลื่อนกลไกการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ โดยใช้โอกาสจากนโยบายรัฐบาลให้เกืดประโยชน์ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการพัฒนาระดับกลุ่มจังหวัด ระดับภาคและพัฒนาระดับประเทศต่อไป
ในโอกาสนี้ กระผมขอขอบคุณท่านพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี รองผู้ว่าราชการจังหวัดในกลุ่มจังหวัดทั้ง 2 กลุ่ม คุณพิเศษ ฤทธาธิรมย์ ประธานสมาคมเจ้าของและตัวแทนเรือกรุงเทพฯ ผู้แทนสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ผู้แทนสำนักงานการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่านที่ได้เข้าร่วมประชุมสัมมนา หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การประชุมสัมมนาในครั้งนี้ จะผลักดันการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกดฉียงเหนือตอนล่าง ต่อไป
