เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ขับเคลื่อนแผนเกษตรแปลงใหญ่ ตอบโจทย์พัฒนาสินค้าเกษตรปี 61 ยึดพื้นที่เป็นหลักเน้นให้เกษตรกรรวมกลุ่มกันทำกิจกรรมตลอดกระบวนการผลิต สร้างกำลังต่อรองทางการตลาด
จังหวัดเชียงใหม่มีพื้นที่ทำการเกษตรประมาณกว่า1,800,000 ไร่จำนวนครัวเรือนเกษตรกรกว่า169,000ครัวเรือน โครงสร้างทางการเกษตรจังหวัดเชียงใหม่นั้นส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรายย่อย ที่มีพื้นที่ถือครองขนาดเล็กและเป็นการผลิตที่เป็นลักษณะต่างคนต่างทำ จึงทำให้ต้องเผชิญปัญหา และข้อจำกัดต่างๆซึ่งส่งผลต่อรายได้และความเป็นอยู่ของเกษตรกร เช่น ปัญหาต้นทุนการผลิต ค่าจ้างแรงงาน ขาดอำนาจต่อรองการตลาด
ทั้งนี้เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ จึงเร่งขับเคลื่อนดำเนินโครงการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2559 ถึงปีงบประมาณ 2561 จำนวน 71 แปลง โดยมีพื้นที่ 68,126 กว่าไร่ จำนวนเกษตรกร 5,666 ราย โดยพืชแต่ละชนิดเน้นตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ประกาศพื้นที่เหมาะสมการผลิตสินค้าจำนวน 20 ชนิดสินค้า รวมถึงหลักเกณฑ์เงื่อนไขตามโครงการ ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่มีพื้นที่การส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่อาทิเช่น ข้าว ลำไย ลินจี่ กล้วยหอม กาแฟ ถั่วเหลือง เป็นต้นจำนวน 8 ด้าน ดังนี้ ข้าวจำนวน 15 แปลง ไม้ผลจำนวน 27 แปลงไม้ยืนต้นจำนวน 6 แปลง พืชผักจำนวน7แปลง พืชไร่จำนวน 2 แปลง ไม้ดอกไม้ประดับจำนวน 1 แปลง ปศุสัตว์ 12 แปลง ประมง 1แปลง
มีการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการแนวทางการดำเนินโครงการระบบการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่และคณะกรรมการเครือข่ายแปลงใหญ่ระดับจังหวัดรวมถึงเจ้าหน้าที่ศูนย์เรียนรู้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรทั้งระดับอำเภอและส่วนจังหวัด ประจำปีงบประมาณ 2561 เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยนายสมพล แสนคำ เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ ได้กำหนดแผนโครงการระบบการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ยึดพื้นที่เป็นหลักเน้นให้เกษตรกรรวมกลุ่มกันทำกิจกรรมตลอดกระบวนการผลิตเช่นกลุ่มเกษตรกร กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และจำหน่ายผลผลิตที่มีตลาดรองรับ จนถึงการเชื่อมโยงตลาดแบบมีอำนาจการต่อรองโดยใช้ศูนย์เรียนรู้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรที่มีทั้ง 25 ศูนย์ใน 25 อำเภอเป็นกลไกลในการขับเคลื่อน
