สมาคมผู้ค้าปลีกไทย สมาคมการค้าร้านค้าปลอดอากรไทย และ สมาคมศูนย์การค้าไทย ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพร้อมข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงระบบ เงื่อนไข วิธีการการให้สัมปทานธุรกิจร้านค้า ปลอดภาษีอากรในท่าอากาศยานนานาชาติของประเทศไทยที่จะมีการเปิดประมลูขึ้นในอนาคต
ข้อเสนอมีดังนี้
- หลักเกณฑ์สัมปทานฯให้เป็นตามหมวดสินค้า และต้องไม่ให้มีผู้รับสัมปทานรายเดียวดังที่ผ่านมา โดยมีระยะเวลาการให้สัมปทานฯไม่เกิน 5-7 ปี
- ขั้นตอนและหลักเกณฑ์การคัดเลือกผู้ได้รับสัมปทานฯควรมีสองขั้นตอน โดยผู้เข้าร่วมประมูลที่ผ่านคุณสมบัติด้านเทคนิคในขั้นตอนที่ 1 ทุกรายจะผ่านเข้าสู่การพิจารณาในขั้นตอนที่ 2 เพื่อพิจารณาข้อเสนอด้านผลตอบแทนทางการเงิน ผู้เข้าร่วมประมูลที่ให้ผลตอบแทนทางการเงินสูงสุดจะได้รับเลือกให้เป็นผู้ได้รับสัมปทานฯในแต่ละหมวดสินค้านั้นๆ
- การเพิ่มผลตอบแทนสัมปทานฯให้สูงขึ้น โดยมีอัตราเพดานผลตอบแทนสัมปทานฯสูงสุดไม่เกินร้อยละ 25-30 ของรายได้โดยประมาณ เพือไม่ให้ทิ้งสัมปทานฯ
- จัดตั้งคณะกรรมการที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียเป็นผู้ให้คำแนะนำ หรือเป็นผู้สังเกตการณ์ กระบวนการกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขทีโออาร์ และการคัดเลือกผู้ได้รับสัมปทานฯอีกทั้ระยะเวลาเตรียมการนำเสนอแผนงานเพื่อเข้าร่วมประมูลควรไม่น้อยกว่า 90 วัน
- จุดส่งมอบสินค้าสาธารณะในสนามบิน ต้องจัดให้มีขึ้นตามกฎหมายศุลกากร โดยไม่เปิดให้มีสัมปทาน แต่ให้ผู้ประกอบการเช่าพื้นที่พร้อมระบบตรงจากทอท. และควรเก็บค่าบริการไม่เกินร้อยละ 1 ของยอดขาย
- การลดอากรนำเข้าสำหรับประเภทสินค้าที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและที่คนไทยนิยมซื้อจากต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและธุรกิจค้าปลีก
ด้านนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. กล่าวว่า ตามที่มีนักวิชาการได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับการให้สัมปทานร้านค้าปลอดอากร และการให้สัมปทาน จุดส่งมอบสินค้าปลอดอากร (Pick up Counter) ภายในท่าอากาศยานของ ทอท. โดยได้ให้ข้อมูลว่าในท่าอากาศยานทั่วโลกมีรูปแบบการให้สัมปทานร้านค้าปลอดอากร 4 รูปแบบ ได้แก่ สัมปทานรายใหญ่รายเดียว (Master Concessions) สัมปทานตามที่ตั้ง (Multiple concessions by location) สัมปทานตามกลุ่มสินค้า (Multiple concessions by category) และสัมปทานตามกลุ่มสินค้าและตามที่ตั้ง (Multiple concessions by category and by location) ซึ่งแต่ละรูปแบบมีความสอดคล้องและเหมาะสมในด้านต่างๆ แตกต่างกันออกไป
สำหรับ ทอท.ซึ่งปัจจุบันใช้รูปแบบการให้สัมปทานรายเดียวเช่นเดียวกับท่าอากาศยาน Heathrow สหราชอาณาจักร ท่าอากาศยาน Shanghai Pudong International Airport สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งสัญญาร้านค้าปลอดอากรกับผู้ประกอบการปัจจุบัน ณ ทสภ.จะสิ้นสุดลงในเดือนกันยายน 2563 และเป็นช่วงที่จะมีการเปิดอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ตามโครงการพัฒนา ทสภ.ระยะ 2 ซึ่งจะต้องมีการเปิดประมูลได้ผู้ประกอบการล่วงหน้า 2 ปี เพื่อให้การประกอบกิจการเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง และผู้ประกอบการสามารถเตรียมการในการจัดหาสินค้า การอบรมบุคลากร ตลอดจนการติดต่อกับร้านค้าชั้นนำต่างๆ นั้น
ข่าวน่าสนใจ:
ขณะนี้ ทอท.อยู่ระหว่างการศึกษาและวิเคราะห์โครงการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานของ ทอท. และข้อดีข้อเสียในการให้สัมปทานแต่ละรูปแบบ โดย ทอท.ได้ให้ที่ปรึกษาดำเนินการ ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ)
ทอท.ได้กำชับให้ที่ปรึกษานำข้อเสนอแนะของทุกฝ่ายมาพิจารณาประกอบการศึกษาอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ดีที่สุด โดยการคัดเลือกผู้ประกอบการจะเน้นความโปร่งใส ยุติธรรม และตรวจสอบได้ รวมทั้งรูปแบบการให้สัมปทานต้องเป็นรูปแบบที่มีการใช้ในท่าอากาศยานทั่วโลก อีกทั้งจะต้องเหมาะสมกับกายภาพของอาคารผู้โดยสารของทอท. การบริหารจัดการในเขตการบินที่ไม่ส่งผลกระทบต่อเส้นทางการเดินของผู้โดยสาร (Passenger Flow) เนื่องจาก ทอท.ยังมีการเปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน และประตูเทียบอาคารผู้โดยสารที่อาจกระทบต่อการจัดสรรพื้นที่ในการวางที่ตั้งร้านค้า และสอดคล้องกับมาตรฐานด้านการรักษาความปลอดภัยด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: